1.หนังสือจำนวนจำกัด / หนังสือที่แถมของพรีเมี่ยมเฉพาะในงาน

2.หนังสือออกใหม่ที่อยากอ่านมาก รอไม่ไหวแล้วววว

3.หนังสือที่เล็งไว้นานแล้วและกำลังลดราคา

4.หนังสือขีดแดง(หนังสือมีตำหนิ) ที่ลดราคาเหลือเล่มละ 20-50 บาท

อันดับ 1-2 เป็นหนังสืิอที่เล่มนิยมซื้อมากสุดเวลาไปงานหนังสือ แต่ระวังหน่อย หลายคนชอบคิดว่าอันดับ 2 จำเป็นต้องซื้อจริงๆ ถ้าลองคิดให้ดีรออีกหน่อยหนังสือออกใหม่ก็จะลดราคา เก็บไว้เป็นอันดับ 3 ในงานครั้งหน้าจะคุ้มกว่า แต่ถ้ารอไม่ไหวแล้วจริงๆก็... ซื้อโลด ส่วนอันดับ 3-4 เอาไว้งบเหลือจริงๆถึงจะตัดสินใจซื้อ แบบเดินเล่นในงานอยู่แล้วเจอก็จะซื้อ เพราะตราบใดที่หนังสือยังตีพิมพ์จำหน่ายอยู่ เราไม่จำเป็นต้องรีบร้อนซื้อทันทีก็ได้

ขั้นที่ 2 เปรียบเทียบราคา/ส่วนลด/ของแถม จากหน้าเว็บแต่ละร้าน แน่นอนว่าหนังสือหนึ่งเรื่องไม่ได้มีขายแค่ร้านเดียว แล้วควรซื้อร้านไหนดี? 

ก่อนอื่นต้องดูสำนักพิมพ์ของหนังสือเรื่องนั้นก่อนว่าขายเท่าไหร่ ส่วนลดในงานเท่าไหร่ มีของแถมไหม แล้วค่อยไปเปรียบเทียบกับร้านหนังสือใหญ่ๆ เช่น นายอินทร์ B2S SE-ED จากนั้นก็เทียบกับร้านหนังสือเล็กๆในงาน

แต่เล่มนิยมมักซื้อหนังสือจากสำนักพิมพ์โดยตรง เพราะส่วนลดในงานหนังสือส่วนใหญ่ก็เท่าๆกันนั่นแหละคือ 15-20% แต่ถ้าซื้อหนังสือจากสำนักพิมพ์โดยตรงพอครบยอดที่สำนักพิมพ์กำหนดยังได้ของแถมอีกด้วยนะ ยกเว้นว่าร้านอื่นจะมีของแถมเหมือนกัน อันนี้ก็ต้องเลือกแล้วว่าอยากได้ของแถมจากร้านไหน แต่ถ้าส่วนลดต่างกันก็เลือกง่ายหน่อย

ขั้นที่ 3 วางแผนเส้นทางเดินในงาน ถ้าไม่อยากเดินวกไปวนมาจนปวดขาเดินต่อไม่ไหว ต้องกลับบ้านก่อนทั้งๆที่ยังซื้อหนังสือไม่ครบตามลิส หรือตามหาบูธไม่เจอจนอดซื้อหนังสือ ขั้นตอนนี้ก็สำคัญมากๆเลย

ปกติก่อนวันงานหนังสือ ทางเพจผู้จัดงานหนังสือจะมีแผนผังบูธออกมาให้ดาวน์โหลด ทำการเซฟเป็นรูปภาพแยกเป็นโซนไว้ จากนั้นใช้สีไฮไลท์บูธที่เราจะไป แค่นี้ก็รู้แล้วว่าในโซนนั้นมีบูธไหนบ้างที่ต้องไป เท่านี้เราก็จะไม่พลาดสักบูธแน่นอน

แต่ถ้าใช้วิธีเรียงลำดับหนังสือตามความสำคัญ การวางแผนเส้นทางเดินจะยากสักหน่อย เพราะอาจต้องเดินข้ามโซนไปข้ามโซนมา เช่น อันดับ1อยู่โซนA อันดับ2อยู่โซนC อันดับ3อยู่โซนA ก็ต้องวกกลับมาโซนAอีก อันนี้ก็ต้องวางแผนการเดินให้ดีนะจ๊ะ พยายามเลือกเส้นทางที่เดินน้อยสุด (แต่เอาเข้าจริงหนอนหนังสืออย่างเราก็เดินทั่วงานล่ะเนอะ แถมหลายรอบด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า)