เมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังจะหยั่งรากที่แข็งแรงลงในตัวตนอันอุดม
ต้นอ่อนแห่งความชังถูกเพาะบ่มด้วยซากเน่าของศัตรู
มันสังเคราะห์อาหารด้วยความมืดแทนแสง
มันเติบโตและออกดอกเป็นความเขลาที่งดงาม และหอมหวน
ด้วยสีที่สวยสดของมันจะทำให้เธอเรียกราคาได้ดี
เพื่อให้ต้นชังแข็งแรงสมบูรณ์และมีดอกเขลางาม เธอจงรินรดมันด้วย โลหิต น้ำตา และน้ำใจของผู้อื่น
ต้นชังอันน่าลุ่มหลงจะติดผลอันงาม เมื่อบรรยากาศที่รายรอบเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา
บรรยากาศเช่นนี้เหมาะจะหมักบ่มผลชังให้หวานล้ำ และควรค่าต่อการนำไปสังเวยบูชาแด่ "จ้าวปิศาจ"
"ขอให้เธอจงรุ่งเรืองบนซากศพของศัตรูที่ไม่มีวันหมดสิ้น"
.....
ปลูกเถิด ปลูกต้นชังเถิด ส่งเสริมให้ลูกหลานปลูกเพราะราคามันดีนัก ไปไหนต่อไหนก็มีคนซื้อ
เอาน้ำใจและมิตรภาพของเพื่อนๆ ของเธอมารินรดมัน
แล้วเอาซากเน่าของพวกเขามาบำรุงมัน ความสวยงามของมันจะชวนให้ผู้คนหลงใหล
พวกเขาจะหลงรูป หลงกลิ่น และยิ่งหลงรสผลของมัน
จงริบเอาความหวังที่จะครอบครองมันของพวกเขาไว้เสีย
บีบคั้นให้พวกเขาเสียน้ำตา
ให้พวกเขารู้ว่าผลชังของลูกนั้นเติบโตด้วยน้ำใจของพวกเขา
ทรยศความหวังของเขาเสีย
จงใช้คำปด ล่อลวงให้พวกเขามาบำรุงมันให้งาม
ยิ่งงาม คนอื่นจะยิ่งอิจฉาริษยาเธอ
พวกเขาจะมาต่อแถวรอซื้อเมล็ดพันธุ์จากเธอ
จงให้เขาแก่งแย่งกัน แล้วเธอจะได้ต้นชังชั้นดี
และจงนำผลอันหวานล้ำไปสังเวยต่อจ้าวปิศาจเถิด
ดอกผลของมันจะยิ่งอุดม
.....
ฉันเสาะหา เสาะหาเมล็ดพันธุ์ของต้นชัง
ฉันอยากไปเสาะหามันมาปลูก แต่เมล็ดพันธุ์นั้นราคาแสนแพง
เขาว่าต้นชังตามธรรมชาตินั้นหายากนัก
ผลของมันราคาแพง เมล็ดของมันก็ราคาแพงด้วย
น่าอิจฉา น่าอิจฉา คนสวนต้นชัง
แต่ยิ่งอิจฉา ดอกผลต้นชังของเขาก็ยิ่งงาม
จะมีไหม ต้นไม้ที่มีดอกงามและหอมหวน อีกทั้งมีผลที่อร่อยล้ำกว่าผลชัง
แต่ราคาเมล็ดพันธุ์มันคงจะแพงมากแน่ๆ ยิ่งคิดยิ่งเกลียดต้นชังนัก
“ฉันเกลียดต้นชัง!”
“ฉันเกลียดต้นชัง!”
เสียงตะโกนของฉันดังไปไหนต่อไหน
แล้วหน่อของต้นไม้ต้นหนึ่งก็งอกเงยขึ้นมา ข้างๆตัวของฉัน
นี่ไงต้นชัง
โชคดีจริงๆ ฉันจะเอามันไปปลูก
“ต้นชังต้นนี้โตเร็วจริง” คนสวนต้นชังเดินมาดู
“ขายไหม” เขาถาม
“ขาย” ฉันตอบ
“ขายเท่าไหร่” คนสวนต้นชังกล่าว
“สองหมื่น น่าจะเหมาะนะ” คนสวนต้นชังมองที่ฉันอย่าพินิจพิจารณา
“ทำไมถูกจัง ที่สวนของคุณ คุณขายตั้งสามหมื่น” ฉันโวยวาย
“ต้นของเธอไม่มีดอก ไม่มีผล ราคาจึงถูก ว่าแต่จะขายไหม”
“ขายก็ได้” ฉันจำต้องตกลง แล้วจู่ๆต้นชังก็ออกดอก
“แต่ เอ๊ะ ดอกของฉันออกแล้ว อย่างนี้ราคาต้องสามหมื่น” ฉันร้องเสียงดัง
“ไม่ได้ ตกลงกันว่าสองหมื่นแล้ว ถ้าไม่ขายก็ไม่ซื้อ” คนสวนเสียงแข็ง
ฉันโกรธมาก ฉันรู้สึกเหมือนถูกเขาหลอก แต่แล้วจู่ๆ ต้นชังก็ออกผล
“เอ๊ะ ต้นชังออกผลแล้ว อย่างนี้ต้องขายสี่หมื่น” ฉันกล่าว
“ไม่เอาผลไม่สุก ให้อย่างมากสามหมื่น”
“ถ้าอย่างนั้น สามหมื่น แต่ขอเมล็ดพันธุ์ไว้” ฉันต่อรอง
“ตกลง สามหมื่นยื่นมือมารับสิ” คนสวนยิ้ม
“ไม่มีมือ มือฉันกลายเป็นกิ่งไป ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“อิจฉาจัง เจ้าของสวนได้ต้นชังเพิ่มอีกต้นแล้ว” เสียงคนที่ผ่านไปผ่านมาดังแว่วขึ้นมา
ฉันโดนหลอกอีกแล้ว ฉันร้องไห้
ผลของฉันเริ่มสุกแล้ว เจ้าของสวนจึงรีบมาเก็บผลของฉันไป
เขากัดกินอย่างเอร็ดอร่อยและกล่าวขอบคุณสำหรับเครื่องบูชา
และฉันก็รู้ว่าแท้จริงต้นชังไม่มีเมล็ดพันธุ์
"ขอให้เธอจงเจริญ" เขาอวยพร
"ไหนเล่า เงินของฉัน ไหนเล่า เงินของฉัน เอาเงินของฉันมา"
ฉันโกรธ ฉันเคียดแค้น ฉันออกดอก ออกผล ฉันงอกงาม
"น่าอิจฉาเจ้าของสวนจริงๆ"
…..
เรื่อง ต้นชัง นี้ ผมเคยเอาไปลงไว้ในบล็อกแก๊งค์
ตอนเขียนเขียนด้วยความรู้สึกโมโห โกรธเกลียด อิจฉา
เขียนคล้าย ๆ กับการเขียนระบายอารมณ์
เขียนไป แช่ง คนที่เกลียดไป
เขียนไปสักพัก ก็มาสรุปความรู้สึกตัวเองได้ว่าเราจะรู้สึกโกรธ เกลียด อิจฉาทำไม ไม่ม่ประโยชน์
มีแต่โทษกับตัวเอง แถมกลายเป็นเครื่องมือให้คนอื่นเสาะหาประโยชน์
ถ้าทำตัววนเวียนอยู่อย่างนี้คงไม่ได้ดีหรอก คงตกเป็นเหยื่อเขาร่ำไป
เพราะยิ่งรู้สึกอย่างนั้นเราก็ทุกข์เอง แถมทำให้ฝ่ายตรงข้ามเราสาแก่ใจที่เราเป็นแบบนี้อีก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in