ฉันกำลังหลงทางอยู่ในถ้ำวงกตอันมืดมิด
เมื่อฉันเห็นแสงสว่างเบื้องหน้าจึงเดินเข้าไปหา
.
ผู้ถือเทียนยิ้มต้อนรับการมาของฉัน
เขาบอกว่าการมาของฉันทำให้เขารู้สึกไม่โดดเดี่ยวชั่วขณะหนึ่ง
"มาเถิด ตามมา"เขาเชื้อเชิญ
.
"ผู้ถือเทียนคุณเป็นใครกันแน่" ฉันถาม
เขาตอบว่า เขาเป็นเจ้าของเทียนเล่มนี้และเป็นผู้ชี้ทางสำหรับผู้หลงเข้ามาในถ้ำวงกต
.
เมื่อพวกเรามาถึงทางแยกหนึ่ง เขาก็พูดขึ้นว่า
หนทางจากนี้ไป คือทางแยกที่อาจไม่มีวันบรรจบ
ทางหนึ่งมีแต่ความมืดมนคนที่เดินไปในทางนั้นไม่เคยกลับออกมาอีกเลย
อีกทางหนึ่งคือเส้นทางไปสู่คลังเก็บเทียนของที่นี่
.
"เธอเลือกได้นะที่จะแยกทางออกไปตอนนี้" คนชี้ทางบอก
.
"ขอเทียนของคุณให้ฉันได้ไหม"ฉันถาม
.
เขาตอบว่า "ยังไม่ได้ถ้าเธออยากได้เทียนนำทางจงไปสำรวจดูที่คลังเก็บเทียนเสียก่อน"
.
"แล้วหลังจากนั้นเล่า"ฉันถามต่อ
.
เขาตอบว่า"จากนั้นเธอจะไปที่ใดก็ได้ในถ้ำวงกตแห่งนี้"
.
"แล้วไยคุณจึงไม่เดินทางไปสำรวจทางที่มืดมนกับฉันตอนนี้เล่า"ฉันถามอีก
.
"ทางที่แยกออกไปนั้นยาวไกลนักฉันเกรงว่าเทียนนำทางของฉันจะหมดลงเสียก่อนและชีวิตของฉันก็จะจบสิ้นลงเช่นกัน"
.
'จะยากตรงไหน ในเมื่อเทียนดับลงก็แค่มุ่งหน้าต่อไป'ฉันคิด
ว่าแล้วฉันก็ชักอาวุธออกมาขู่บังคับเอาเทียนจากเขา
.
"เธอจะไม่ยินดีหรอก หากรับเอาเทียนนี้ไปฉันขอร้องให้เธอไปสำรวจที่คลังเก็บเทียนเสียก่อน" เขาบอก
.
"ส่งเทียนมาเดี๋ยวนี้" ฉันร้องขู่
.
"แล้วเธอจะยัดเยียดเทียนอาถรรพ์เล่มนี้ให้ใครไม่ได้อีกหากเขาไม่ร้องขอ" ผู้นำทางกล่าวเสริม
.
ฉันส่งเสียง เฮอะ แล้วแสยะยิ้ม
.
"เหลวไหล" ฉันตวาดใส่
.
"แต่เทียนเล่มนั้นจะกลายเป็นชีวิตของเธอฉันขอเตือนด้วยความหวังดี" เขาพูด
.
"หากคุณหวังดีก็จงมอบเทียนมาให้ฉัน" ฉันขึ้นเสียง
แล้วเขาก็ยื่นเทียนให้กับฉัน
.
และเมื่อฉันรับเทียนมาแล้ว เขาก็พูดขึ้นว่า "จงรีบไปที่คลังเก็บเทียนเถิดก่อนที่เทียนนำทางจะหมดแล้วชีวิตของเธอจะสิ้นลง"
.
"เหลวไหล"
.
เขาชี้ไปที่โครงกระดูกที่กองอยู่กับพื้น"พวกเขาทุกคนล้วน พูดเช่นเธอ"
.
"ถ้าเช่นนั้นฉันจะไปที่คลัง แล้วเอาเทียนทั้งหมดออกมา แล้วค่อยกลับออกมาที่นี่อีกครา"
.
"เมื่อเธอมั่นใจเช่นนั้นฉันก็ขออวยชัย ขอให้เธอได้พบผู้หลงทางคนใหม่โดยเร็วตอนนี้เธอมีเทียนนำทางของเธอแล้ว เธอจะไปไหนก็ได้เพราะฉันจะไม่ใช่คนชี้ทางอีกต่อไปแล้ว"
.
"แล้วทำไมคุณถึงยังมีชีวิตอยู่ได้เมื่อไม่มีเทียนแล้ว"
.
"นั่นเพราะเธอร้องขอมันไปในวงกตอาถรรพ์แห่งนี้ ผู้ถือเทียนมีหน้าที่ชี้ทางเท่านั้นเปลวเทียนและเทียนนี้จะกลายเป็นชีวิตของเธอ จงอย่าให้มันดับหรือหมดลง"
.
"เหลวไหล รีบเอาเทียนของคุณคืนไปเดี๋ยวนี้เลย"
.
"ขอโทษด้วยนะ ฉันเองก็ยังเห็นแก่ตัวอยู่"อดีตคนชี้ทางกล่าว
.
ฉันตกใจมาก ที่ฉันไม่อาจละมือออกจากเทียนนำทางได้มันติดอยู่กับมือฉันแกะอย่างไรก็ไม่ออก พอฉันทำท่าจะขว้างมันออกไปเสีย ก็มีเสียงเตือนขึ้นว่า
"หากเทียนนำทางดับชีวิตเธอก็จะดับ เธอจะกลายเป็นโครงกระดูกเหมือนพวกนั้น"
.
"แล้ว...แล้วคุณจะไปไหนต่อ"ฉันถาม
.
"ฉันจะลองเสี่ยงเดินออกไปยังเส้นทางที่มืดมิดนั่นโดยไร้แสงเทียนนำทาง"
.
"แล้วฉันเล่าได้โปรดกรุณาชี้ทางให้ฉันอีกครั้งเถิด"
.
เขาชี้มือไปยังเส้นทางอีกทางหนึ่ง
"ไปที่คลังเก็บเทียนและต่อเทียนของเธอก่อนที่มันจะหมดลง"
.
"ลาก่อนและขอให้เธอจงโชคดี" เขากล่าวทิ้งท้ายก่อนเดินจากไปที่ทางแยก
.
ฉันวิ่งอย่างกระหืดกระหอบมายังคลังเก็บเทียนที่นั่นสว่างจ้าด้วยแสงเทียนนับร้อยเล่ม มีผู้ชี้ทางหลายร้อยคนอยู่ที่นั่นในมือข้างหนึ่งของทุกคนล้วนถือเทียนและอีกข้างหนึ่งก็ล้วนถืออาวุธ
.
"ดับเทียนของพวกเขาเสียและเมื่อพวกเขาตายลง จงเอาเทียนที่เหลือของเขามาต่อเป็นเทียนของเธอก่อนที่แสงเทียนของเธอจะดับลง และจงอยู่รอดให้ได้ แม้ต้องสู้ตายกับฉัน จงรอดจนกว่าจะได้พบผู้หลงทางของเธอ"เสียงของผู้ชี้ทางคนหนึ่งในนั้นพูดขึ้น
.
"แล้วคนชี้ทางผู้เดินออกไปที่ทางแยกนั้นเล่าเขาจะได้รับสิ่งใด" ฉันร้องถาม
.
"บางทีเขาอาจจะได้เห็นรุ่งอรุณของวันใหม่"ผู้ชี้ทางอีกคนหนึ่งส่งเสียงตอบ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in