ห้าทุ่มแล้ว...คนในร้านน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดมินกิยังคงอยู่ที่บาร์ ร้องไห้จนแสบตาไปหมดมือที่กุมก็มือถือสั่นจนเห็นได้ชัดเขากลัว... อาจจะเรียกว่าวิตกกังวลอาจจะหลายๆอย่างความรู้สึกมันปนเป... แต่รวมๆแล้วแย่หลังจากพยายามโทรหาควักอาร่อนทุกช่องทางแต่ไร้สัญญาณตอบรับ เขาถือวิสาสะคว้ารีโมทจากเคาเตอร์มากดเร่งเสียงทีวีข่าวรายงานเป็นช่วงๆ แต่ไร้ความคืบหน้ารู้แค่ว่ายังตามหาไม่เจอ ตำรวจท่องเที่ยวและชาวบ้านกำลังช่วยกัน เสียงข่าวในทีวีจบไปแล้วตัดเข้าโฆษณา
แสงจากรอบข้างทำเขาแสบตา แต่มือก็ไม่หยุดพิมพ์หาข่าวในโซเชี่ยลเขาค้นแฮชแท็กทุกอัน ไอจี เฟซบุ๊ค เรดดิท ทวิตเตอร์ที่รายงานเหตุการ์ณบอกแค่รูประพันธ์สันฐานคร่าวๆส่วนสูงแล้วก็ข้อมูลอื่นๆจากเจ้าของที่พัก แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ขอเก็บพาสปอร์ตของนักท่องเที่ยวเอาไว้ แถมของในที่พักยังไม่ีอะไรนอกจากเสื้อผ้าอีกเพราะฉะนั้นจึงมีแต่รูปไกลๆจากกล้องวงจรปิดที่พอจะช่วยได้บ้าง ทุกคนใส่เสื้อโค้ทหนากับหมวกไหมพรม เขาไม่รู้ว่าอาร่อนซื้อเสื้อผ้าใหม่ไหม แต่แจ๊คเก็ตโค้ทกันหนาวของHangten
ความปวดจี้ดแล่นเข้าที่ขมับอย่างจัง อาการตึงความเครียดผสมความมึนจากฤทธิ์แอลกอฮอล เขาทิ้งศรีษะแนบลงกับเคาท์เตอร์บาร์อีกรอบ ปล่อยน้ำตาไหลผ่านท่วมหน้าอีกครั้ง ได้ยินเสียงสะอื้นของตัวเองที่ต้องกลั้นไว้จนน่าอึดอัด คนหลังบาร์กดปิดทีวีก่อนจะเปิดวิทยุแทน เสียงเพลงเนิบนาบ บีทเป็นจังหวะพอๆกับการอาการปวดตุบในหัวเขา เสียงกระทบของแก้ววางลงบนโต๊ะ เขาพยักหน้าขอบคุณเบาๆก่อนจะจิบน้ำเปล่าที่ได้รับ รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยในอึกแรกๆก่อนจะรับรู้ถึงบางอย่างที่ตีวนขึ้นมาจนถึงลำคอ เขาพยายามหยัดตัวขึ้นเพื่อจะเดินไปห้องน้ำ แต่ด้วยท่าทางที่ดูน่าอนาถจนเจ้าของบาร์ร่างโตต้องหิ้วปีกไปส่ง ก่อนที่เขาจะสะดุดขาตัวเองล้มไปเสียก่อน
แย่มาก...อาการปวดหัวหนักกว่าเก่า เขาที่เข่าทรุดกอดโถชำระเพื่อขย้อนสิ่งที่อยู่ในกระเพาะออกมา อ้วกไปด้วยร้องไห้ไปด้วยเป็นสิ่งที่แย่กว่ากินปลาดิบกับมายองเนสอีก เขาพยายามพูดขอบคุณเจ้าของบาร์และก็ขอโทษสำหรับเรื่องที่เขาทำด้วย ยังเป็นโชคดีชายหนุ่มตัวใหญ่แต่ใจดีตรงข้ามกับรอยสักเสือขาวบนแขนที่ดูน่ากลัวไม่ได้ว่าอะไรแถมยังหายากับผ้าเย็นมาให้เขาอีก...อีกฝ่ายถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่รู้จะเล่ายังไงเลยได้แต่ขอบคุณอีกฝ่ายเรียบๆอีกครั้ง
เขาพยายามตั้งสติ บางทีโทรศัพท์ของอาร่อนอาจจะมีปัญหา เขาควรจะลองส่งข้อความหาคนที่น่าจะอยู่กับอาร่อน... ใช่
สมองเขาว่างเปล่า...ไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกอะไรก่อนดี อาร่อนพิมพ์บ้าอะไรมา น้ำตาเขาไม่เหลือให้ไหลแล้ว แถมเจย์ก็ไม่อ่านข้อความด้วยซ้ำ สาบานว่าถ้าเจออาร่อนเขาจะตีให้เขียวเลย เขานั่งจมอยู่กับความคิดอีกครั้ง นานจนเจ้าของบาร์หาววอดออกมาแทน
บาร์ปิด...เจ้าของร้านใจดีถามเขาอีกครั้งว่าพักอยู่ที่ไหน เขาคิดอะไรไม่ออกแต่ก็ติดรถอีกฝ่ายกลับโรงแรมด้วยเขากล่าวคำขอบคุณอีกฝ่ายในขณะที่พยายามเสนอเงินตอบแทน แต่เจ้าของบาร์ก็รีบออกรถหนีเขาไปเฉยๆ เขาโชคดีในการเจอคนรอบข้างเสมอ...ยกเว้นการไปตกคนเด๋อๆอย่างควักอาร่อนมาเป็นแฟนไว้นึงอย่างได้ไหมนะ ก่อนขึ้นห้องเขาถามหน้ารีเซปชั่นว่ามีใครมาติดต่อบ้างรึเปล่า น่าเสียใจที่ไม่มี
ไม่ต้องรอของควักอาร่อนคือไม่ต้องรอจริงๆหรอ..
เขาไม่เคยประสบปัญหาเดาใจอีกฝ่ายยากขนาดนี้มาก่อน ไม่ต้องรอคืออะไร ไม่ต้องรอกลับมาคุยกันหลังทำงานเสร็จ?ไม่ต้องรอให้อาร่อนมาง้อ? ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายกลับมาแล้ว? ไม่ต้องรอ...แล้วอาร่อนจะไปไหน? และถ้าอีก3ปีถัดมาอาร่อนจะโผล่มาหน้าบ้าน เพื่อบอกว่าเขาไปเที่ยวรอบโลกมาก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้แต่มินกิคงจะซัดอีกฝ่ายก่อนจะได้ฟังจบประโยค เขามองทั่วล็อบบี้..ก็แอบหวังว่าจะได้เห็นคนหัวฟูๆหน้าโทรมๆนอนหลับอยู่บนเก้าอี้สักตัวเพื่อที่เขาจะได้เข้าไปเขย่าแรงๆแล้วถามว่าไปทำบ้าอะไรที่ไหนมา ทำไมติดต่อไม่ได้.. ทำไมไม่มาง้อเขาสักที.. ทำงานเสร็จแล้วหรอ ทำไมไม่โทรมา ใครคือแอมเบอร์
แล้วทำไมต้องทำให้เป็นห่วงขนาดนี้
สุดท้ายเขาก็ขึ้นห้องมาอาบน้ำ ก่อนจะเช็คโทรศัพท์อีกรอบไม่มีมิสคอล ไม่มีข้อความเข้า ทุกอย่างเงียบมาก มันลอยๆไปหมดเคว้งอยู่กลางความไม่เข้าใจหลายอย่างตอนเห็นข้อความก็ยอมรับว่าโกรธ.. อย่างประโยคที่สารภาพว่าไม่ได้ไปทำงาน เชื่อเถอะว่าคิดไปแล้วว่าอาร่อนมีกิ๊กแล้วหนีไปเที่ยว ยังดีที่มานั่งคิดๆดูแล้ว ควักอาร่อนไม่น่ากล้าดีขนาดนั้น เออ เอาเถอะต่อให้อาร่อนจะไปกู้โลกหรือแค่จะโกหกไปเป็นอาสาสมัครช่วยกู้ภัยที่แอนตาร์กติกแต่ก็แค่นั้น... ติดต่อก็ไม่ได้ คนที่จะช่วยตามก็ไม่มี.. ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
คืนนั้นเขาไม่ฝัน ก็แค่หลับไป และไม่ชอบที่เป็นแบบนั้นเลย
ทันทีที่ลืมตาขึ้นมินกิรีบคว้าโทรศัพท์มาดูไม่มีโนติไม่มีมิสคอล ไม่มีอะไรสักอย่าง และนี่คือ9โมง เขาคิดว่าคงตื่นไวเพราะมีเรื่องให้กังวลร่างกายก็เลยพักผ่อนได้ไม่เต็มที่หมดหนทางจริงๆ อย่างเพื่อนเจก็ไม่น่าจะยอมเจาะข้อมูลเสี่ยงขนาดนั้นเพื่อหาผู้ชายให้เพื่อนหรอก...แอนตาร์กติกเลยนะ..นั่นมันทวีปสุดท้ายของโลก ก็อย่างนั้นแหล่ะเขาโทรถามพ่อแม่ของอาร่อนดูอีกรอบ คุณพ่อคุณแม่อบอุ่นจนเขาอยากร้องไห้ เขาแค่บอกว่าทะเลาะกันและอาร่อนไปทำงานนิดหน่อย ใครจะไปกล้าฟันธงว่าลูกชายอีกฝ่ายเป็นคนหายไปอย่างข่าวเมื่อวาน ตัวเขาเองยังครึ่งๆเลย
เขาอาบน้ำก่อนจะลงมาที่ฟรอนท์เวลามืดแปดด้านก็คงต้องหันหน้าเข้าศาสนากันบ้างแหล่ะ เขาตัดสินใจว่าจะบินกลับเลยแต่จะไปโบสถ์ใกล้ก่อนค่อยมาเช็กเอ้าท์อีกที
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”พนักงานสาวคนเดียวกันกับวันที่เขาเข้าพักส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้
“อ่าอรุณสวัสดิ์ครับ...”เขายิ้มกลับและคิดว่าสภาพตัวเองน่าจะโทรมอยู่พอควร
“มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าคะ?”
“ผมคิดว่าจะขอเช็คเอ้าท์สักช่วงบ่ายของวันนี้เลยว่าแต่ว่าแถวนี้มีโบสถ์หรือวัดบ้างไหมครับ?”
“มีโบถส์ถัดจากนี้ไปไม่กี่ไมล์ค่ะเดี๋ยวฉันบอกมาคัสคนขับรถให้ถ้าคุณสนใจจะไป รบกวนขอเบอร์ห้องด้วยค่ะ”
“B045 ขอบคุณครับ” เขาบอกเบอร์ห้องก่อนจะรอสักครู่พนักงานก็เงยหน้าขึ้นมาจากจอคอมพิวเตอร์เพื่อถามเขา
“โอ้..คุณลูกค้าจะเช็คเอ้าท์เลยหรอคะ? พอดีว่าเมื่อคืนมีผู้ชายคนนึงมาติดต่อไว้หน่ะค่ะ ทางเราโทรขึ้นไปแล้วแต่ว่าไม่มีใครรับสาย”นั่นทำให้เขาเลิกคิ้วขึ้น... คนที่เขาภาวนาให้เป็น
“เขาได้ทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ไหมครับ?”
“เขาบอกว่าจะขอรออยู่ที่ล็อบบี้ค่ะเก้าอี้ที่2 ซ้ายมือข้างต้นไม้ตรงนั้นค่ะ” เขามองตามมือก่อนจะรีบเดินไปตามที่เห็น
ใบหน้าโทรมๆที่พับหงายไปกับพนักพิงเหมือนคนอดหลับอดนอนใต้ตาคล้ำ หนวดเคราที่ถูกโกนออกแบบลวกๆ ลมหายใจที่สม่ำเสมอผมสีน้ำตาลฟูๆไม่เป็นทรง โค้ทสีขาวในมือที่เขาซื้อให้ เสื้อยืดโง่ๆที่เหมือนพึ่งซื้อเปลี่ยน..
ไม่มีอะไรเข้ากันเลยแต่สำหรับคนที่ตามหามาทั้งคืนบทจะเจอก็เจอกันง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ
...อืม อย่างนี้เลยแหล่ะ
เขานั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆมองดูคนที่สภาพเหนื่อยอ่อนจนน่าสงสาร คำถามในหัวหายไปหมด
ผั้วะ
“เจ็บ!” ใบหน้าเหลอหลาที่คุ้นตาสะดุ้งตามแรงมือที่เข้าฟาดลงไปบนท้ายทอยอีกฝ่าย เหมือนเขาทำร้ายลุงคนหนึ่ง... ลุงคนนั้นน่าตีมากๆด้วย เขาเหยียดยิ้มขึ้นเมื่ออีกฝ่ายตั้งสติได้
“Morning, Babe...” น้ำเสียงที่ออกไปแน่นอนว่าเย็นได้เท่าที่จะเย็น
*ฟึ่บ*
ก่อนจะได้เทศนาอะไรเขากลับถูกรวบเข้าไปกอดเสียเอง ตกใจนิดหน่อย แต่เขาก็ยกมือกอดตอบ อ้อมแขนนั้น เป็นกอดที่แน่นพอควร
ใบหน้าของอาร่อนฝังเขาที่ไหล่ของเขา ลมหายใจร้อนรดลงที่หลังไล่...เขาสัมผัสได้ถึงอาการสั่นของอีกคนจนต้องลูบมือผ่านแผ่นหลังนั่นไปมา
นี่มันอะไรกัน เขาร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรเมื่อวานเพื่อมาปลอบคนตรงหน้ารึยังไงนะ...แต่ก็ยังดี
ดีที่ควักอาร่อนอยู่ตรงนี้ เขาซบหน้าลงบนไหล่อีกฝ่ายเช่นกัน สภาพปอนๆที่ดูผ่านอะไรมาสักอย่าง...เขาแอบได้กลิ่นคาวจางๆด้วยแต่ช่างมันก่อน
น้ำในตารื้นขึ้นที่ขอบแต่ไม่ไหลลงมา โล่งอกอย่าบอกไม่ถูก
เขากอดกันอยู่อย่างนั้นสักพัก ฟังอะไรงึมงัมจากอาร่อนที่ไม่เข้าใจหรอก
แต่ก็ดีแล้วอีกเหมือนกันที่ได้ยินเสียงแหบๆนั่นอีกครั้ง
“หายไปไหนมา” เป็นเขาที่ถามขึ้นก่อนอีกครั้ง
“ไปแคนเซิลงานแต่ง”คำตอบโคตรจะเหนือความคาดหมายไปไกล
“ห้ะ” เขายันอีกฝ่ายออกมองหน้าอาร่อนหาเสี้ยวความล้อเล่นในตาโหลๆนั่น
“ไม่หลอก”อาร่อนตอบกลับมาพลางบีบมือเขาเบาๆ
“แต่งงาน
“เดี่ยว! ใจเย็น ไม่ใช่! พี่ไม่ได้นอกใจ งานเรานั่นแหล่ะ”เขานั่งอ้าปากค้างกับสิ่งที่ยิน
อะไรนะ? แต่งงาน? ขั้วโลกใต้...ควักอาร่อนยังสติดีอยู่ไหม?
“แล้วอะไรคือไม่ต้องรออะไรคือไม่ได้ไปทำงาน แล้วเจย์..?” เขางงตึ้บ
“มันเป็นแผน พี่จะพาเราไปลงเรือล่องแอนตาร์กติก จริงๆแล้วเราควรจะไปฮันนีมูนกัน พี่จ้างเจย์ ไม่ใช่เจย์จ้างพี่”
“...” เขาพยายามประมวลผลคำพูดที่ได้ยิน
“เราคบกันมา7ปี...พี่ก็...เก็บเงินได้ประมาณนึงแล้วพี่คิดเอาเองว่ามันคงจะโรแมนติกถ้าไปขอหนูแต่งงานบนธารน้ำแข็ง พอดีเพื่อนเจย์เขาทำงานที่ศูนย์วิจัยด้วยเขาช่วยจัดพวกของให้เราได้"
"..."
"ใช่ มันเป็นแพลนที่แย่ พี่ไม่ได้ถามหนูเลย”
“แย่มาก! แล้วทำไมพี่ไม่บอกตั้งแต่ตอนแรก
“พี่รู้แล้ว พี่ขอโทษ” อาร่อนคอตก...เออ เขาสงสาร จะบ้าตาย ไม่ดูแลตัวเองอีกแล้ว
“แล้วทำไมพี่ยังไปอีก พี่ยกเลิกทริปออนไลน์ก็ได้นี่หน่า!
“โอ๊ย! เบาหน่อย” เหมือนจะเตะผิดจุดไปหน่อยเพราะคนหัวฟูถึงกับหน้านิ่วเลยเขาเอื้อมมือไปลูบๆขาอีกฝ่ายก่อนจะพบว่าใต้ผ้ายีนตัวโคร่งกว่าปกติมีบางอย่างอยู่
“ไปโดนอะไรมา?” เขาไม่รออีกฝ่ายตอบ ลงมือถลกขากางเกงขึ้นเองกับมือ ใต้ยีนตัวใหญ่สไตล์คุณพ่อมีผ้าก็อซและพลาสเตอร์ปิดอยู่บนหน้าขาของควักอาร่อนเป็นทางยาวกินพื้นที่ไปครึ่งแข้งได้แถมมีรอยสีเข้มซึมผ่านจางๆอีก
“ล้มมานิดหน่อย” มันเป็นแผลใหญ่และเมื่อครู่เขาต้องไปโดนจนมันปริแน่ๆ...ไม่อยากจินตนาการว่าข้างใต้จะเป็นบาดแผลประเภทไหน แต่ไม่ใช่แค่ล้มปกติแน่ๆ
เขารีบเดินไปหาพนักงานอีกรอบก่อนจะขอให้เธอหารถไปส่งที่สถานพยาบาลให้หน่อย
.
.
.
.
.
.
ยังดีที่บนเกาะมีสถานพยาบาลนักท่องเที่ยวอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่อาร่อนเข้าไปเปลี่ยนผ้าพันแผลส่วนเขายืนรออยู่ข้างนอก อาร่อนก็ยังเป็นอาร่อนพยายามดูแลคนอื่นดีที่สุด คิดการใหญ่ ทำตัวว่าไม่เป็นไร สุดท้ายก็น่าเป็นห่วงที่สุดอยู่ดี
“แฮ่”เสียงของคนขาเจ็บที่พึ่งเปลี่ยนผ้าพันแผลมาหมาดๆเดินช้าๆมาหาเขา ด้วยร้อยยิ้มแห้งๆ
“ไม่ต้องมาแฮ่เลย” เขาดุอีกฝ่ายซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่อะไรนอกจากยิ้มโง่ๆกลับมาให้อีกครั้ง
“โกรธอยู่” บอกไว้ก่อนอีกฝ่ายจะได้ใจอย่ามาคิดว่าแค่โผล่มาแล้วจะหายโกรธง่ายๆนะ ถึงจะไม่โกรธเท่าเดิมแล้วก็เถอะ
อีกฝ่ายเดินมาอยู่ข้างๆกันไม่พูดอะไรให้รำคาญอีก แต่ก็เลื่อนมือมาสอดนิ้วประสานไว้
หน้าไม่อายจริงๆ....
“พี่อยากแต่งงานหรอ?”
“หือ?...อื้อ” น่าเกลียด...อย่ามาหน้าแดงแข่งกันนะ
“กลับไปอาบน้ำก่อนไป” เขาตัดบทก็ว่าจะคุยทีเดียวเลยแต่เมื่อกี้มัน เอ่อ จังหวะดีไปหน่อย ไม่ชอบเลย ขอทำใจก่อน
กว่าจะกลับมาอาบน้ำก็บ่ายแล้ว อาหารที่สั่งมาวางอยู่บนโต๊ะกลางห้อง ข้างนอกยังเป็นวิวทะเลที่แดดจ้าและคนพลุกพล่าน.. อาร่อนกลับมาแล้ว...เขาบอกตัวเองอีกครั้ง
“มินกิ”เขาหันไปตามเสียงเรียก...เบื่อจริง วิวดีๆแบบนี้
อาร่อนในผ้าขนหนูแบบที่เห็นมาแล้วเป็นร้อยครั้ง อือ ดีเหมือนครั้งแรกที่เห็นนั่นแหล่ะ ตัดถุงพลาสติกที่กันน้ำเข้าแผลไปนะ หยดน้ำยังเกาะอยู่บนปลายผมอยู่เลย
อย่ามาเวทลุคแถวนี้ นี่มันซัมเมอร์นะ เขาหยิบผ้าขนหนูอีกผืนส่งให้ก่อนจะลองหาเสื้อที่ติดมาเผื่อในกระเป๋าออกมาให้
“ฝากเจย์ไว้บอกแล้วว่าถ้าขนกลับไม่ไหวให้บริจาคไปเลย” อาร่อนตอบขณะนั่งลงเพื่อกินอาหาร
“สรุปไปโดนอะไรมา”
“ล้มใส่แท่นอนุสรณ์”
“ไปทำยังไงหน่ะ..”
“มัวแต่หาสัญญาณในแอนตาร์กติกมือถือตกด้วย ละเอียดยิบ”
“อืม สมควร”
“กินกุ้งไหม”อาร่อนแกะตัวหนึ่งก่อนจะมายื่นให้เขา
“ง้อหรอ?”เขางับกุ้งตัวเล็กในมืออีกฝ่าย
“แค่นี้พอหรอ?”อาร่อนถามยิ้มๆ
“หึ”เขาส่ายหน้าทันที
“พี่ขอโทษ”
“เลิกขอโทษสักที”
“ขอบคุณ”
“เรื่อง?”
“ที่ยังรอพี่”
“ใครก็ไม่รู้บอกไม่ต้องรอแล้ว”
“พึ่งคิดได้ว่าให้รอนานเกินไปแล้ว”
“ช้าตลอด”
“ขอบคุณที่รออย่างใจเย็นครับ”
“...///”
“ขอบคุณที่บอกพี่ตรงๆว่าไม่โอเค”
“ขอบคุณที่ยังอยู่ฮาวาย”
“ขอบคุณที่ไม่โกรธพี่แล้ว”
“ใครบอก”
“ไม่ต้องบอก...พี่รู้”
“รู้ดีนัก..”
“รู้ว่ามินกิชอบทะเล”
“...”
“รู้ว่าชอบไอติมถั่วแดง”
“...”
“รู้ว่าชอบกินไส้ย่าง”
“...”
“รู้ว่าชอบกินเยลลี่”
“....”
“รู้ว่าทำเราเสียใจ”
“...”
“รู้ว่าโกรธ..แต่รู้ว่าหายแล้วด้วย แล้วก็รู้ว่าที่เป็นแบบนั้นเพราะเป็นห่วง”
“พอแล้ว”
“ส่วนอันนี้รู้ว่าเขิน”เขาถึงกับอดไม่ได้ที่จะฟาดแขนอีกคน
“ถามอะไรหน่อย..”
“ครับ?”
“แต่เราไม่รู้อะไรเลยนะ ไม่รู้ว่าพี่ก็พยายามทำให้มันออกมาดี.."
"..."
"ก็ยังจะไม่เป็นอะไรหรอ?"
“อะไรที่หนูไม่ชอบพี่ก็ไม่นับว่ามันดีหรอก”
“มันก็...เกือบดี”
“ขอบคุณครับ555”
“แล้วแอมเบอร์...เป็นใคร”
“แพงแน่เลย” ดูจากราคาและผลงานแต่ละคนแล้ว..
“ไม่ค่อย”
“หวึ่ย อย่ามาทำพูด”
“แพงสุดก็เรานี่แหล่ะ เอาตั๋วไปกลับอีก20ใบพี่ก็ไม่แลก”
“...”เขาถอนหายใจ ไม่รู้จะเอายังไงกับผู้ชายคนนี้ดี...เหนื่อยใจละเกิน
“เลิกขอบคุณ.. ”
“หือ? ได้ยังไงกันครับ? พี่ยังมีเรื่องให้ต้องขอบคุณทั้งวัน”
“ขอเราแต่งงานสักที...”
“...”
“...”อาร่อนเป็นฝ่ายหลุดขำออกมาก่อน อะไรเล่า โถ่เอ๊ย...
“พี่ไปแอนตาร์กติกเพราะพี่ยกงานแต่งได้ยกเลิกตั๋วได้ แต่ยกเลิกแหวนวงนี้ไม่ได้จริงๆ” อาร่อนหยิบกล่องกำมะหยี่ออกมาจากตรงไหนไม่รู้ก่อนจะค่อยๆเปิดฝากล่องออกเขาก็เคยจินตนาการช่วงเวลาทำนองนี้ไว้เหมือนกัน...แต่พอเอาจริงๆแล้วไปไม่เป็นเลยหัวใจเต้นแรงเหมือนตอนโดนขอเป้นแฟนครั้งแรก สุดท้ายก็อดน้ำตารื้นไม่ได้อยู่ดี
“...”ควักอาร่อนผละออกก่อนจะเป็นฝ่ายลงไปคุกเข่าลงข้างหนึ่งลงตรงหน้าเขา
“พี่ขอบคุณเราในทุกๆอย่างขอบคุณตั้งแต่วันแรกที่เจอ วันแรกที่คบขอบคุณในวันที่พี่งี่เง่าหรือวันที่ไม่มีอะไรมั่นคง เราก็ยังอยู่ตรงนี้ขอบคุณที่ดูแลพี่ ขอบคุณที่เป็นแฟนพี่ และพี่จะขอบคุณที่สุดถ้าหนูตกลงเป็นของคนที่จะฝากตัวและใจไว้กับพี่ในช่วงชีวิตที่เหลือ”เขาจ้องมองดวงตาอีกฝ่ายฟังทุกคำพูดพยักหน้ารับทุกประโยคแม้ว่าหูจะอื้อเพราะน้ำตาที่คลออยู่บ้างก็ตามเขาเคยดูพวกคลิปขอแต่งงานอะไรทำนองนั้น เคยเห็นเพือ่นถูกขอแต่งงานกลางภัตาคารหรูไม่มีอะไรเทียบได้เลย มันคงเป็นสถานการ์ณที่ต้องเจอก่อนถึงจะเข้าใจความรู้สึกไม่ต้องมีใครมาร่วมโห่ร้องใดๆ มีแค่ผู้ชายตรงหน้าเขากับคำพูดซึ้งๆพวกนี้ก็พอแล้ว
“พี่สัญญาว่าต่อจากนี้จะถามหนูก่อนเสมอจะดูแลหนูให้ดีกว่าเดิม จะดูแลตัวเองด้วยหนูจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
ควักอาร่อนก็ยังจะถามต่อให้เขาตอบตกลงไปประมาณ20รอบในหัวแล้วก็ตาม
“
"?"
"อย่าหายไปไหนอีก"
"แน่นอนค่ะ"
สามีหมาดๆ ไล้นิ้วข้างแก้มเขาก่อนจะทาบริมฝีปากลงมาบนริมฝีปากของเขาเช่นกัน
"งั้นพี่เริ่มตามใจหนูก่อนเลย หนูอยากจัดงานฤดูไหนคะ?"
"เดี๋ยว นั้นมันข้ามขั้นไป"
"อ่าวหรอคะ...งั้นหนูอยากแต่งที่ไหน"
"ยะ ยังไม่ได้แพลนเลยป่ะ รีบอ่อ"
"รีบค่ะ งั้นช่างมันก่อน..ตอนนี้พี่อยากรู้ว่าหนูอยากไปที่เตียงหรือตรงนี้ก็ดีคะ?"
ควัก อาร่อนเป็นคนบ้า คนผีทะเล คน!$#@(*%()%^&
ปีที่7 ชเว มินกิไม่ได้ทำแฟนหายไปในธารน้ำแข็ง และได้สามีกลับมาในบ่ายวันนึงบนฮาวาย
คนรักกันจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ครับ รบกวนปิดตาด้วย ._.
.
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
จบแล้วอุแงงง จบด้วยดีรึป่ะนะ ฮรุกกก
ยากสุดคือแต่งจอยลดา ยากจริงหลังจากเป็นคนอ่านมานานมากมาย
อุแง อะไรไม่เข้าใจตรงไหนถามได้เลยนะคะ ชอบก็บอกไม่ชอบก็บอกได้เหมือนเดิมงับ
ฮือๆ สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้มากเลยนะคะ รักทุกคนค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in