เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Cardell brothers: origin storiesVanilla * twilight
4 minutes


  • บอกไม่ได้ว่าเบน คาร์เดล เกลียดวันเกิดหรือเกลียดฝาแฝดของตัวเองมากกว่ากัน




    การที่เขาไม่นึกชอบแถมยังไม่อินังขังขอบกับไอ้วันบ้าบอนี่ต้นเหตุก็มาจากเบ็นนั่นล่ะ เพราะอย่างนั้นจะเรียกว่ามันเป็นเรื่องเดียวกันก็ได้ ใครจะรู้สึกดีกับสิ่งที่คอยตอกย้ำว่าเขาตามหลังหมอนั่นทุกปีกันเล่า – เฮอะ กับแค่เวลาสี่นาที การที่ตัวเองได้เป็นพี่มันจะอะไรนักหนา




    แต่มันก็เป็นสองร้อยสี่สิบวินาทีแรกในชีวิตที่ทำให้เบนเสียเปรียบ และมันทำให้เขาอารมณ์เสียอย่างบอกไม่ถูก




    ยิ่งคิดสีหน้าที่ตีไว้เรียบเฉยยิ่งค่อยๆ ยับยู่ ริมฝีปากพ่นคำก่นด่าแผ่วๆ ฟังแล้วคล้ายเสียงงูเหนือแก้วกาแฟ และนั่นทำให้เบ็นที่กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการยัดข้าวเช้าให้เต็มกระเพาะชะงักแล้วหันมาเลิกคิ้วใส่ 




    “เป็นบ้าถึงขนาดพูดคนเดียวแล้วหรือไง”




    “นายต่างหากที่บ้า” เบนถลึงตากลับ เน้นประโยคสุดท้ายที่ละพยางค์อย่างชัดถ้อยชัดคำและติดจะหยาบคาย “อย่า-มา-ยุ่ง-กับ-ฉัน” 




    “เหอะ งั้นก็คายอาหารเช้าของนายมาเลย รังเกียจฉันนักนี่ เออ ลืมบอกไปว่าแอบถุยน้ำลายใส่ไปแล้ว” ฝาแฝดคนพี่ว่า เปลี่ยนกริยามาเท้าคางเอาศอกยันกับโต๊ะ หรี่ตามองด้วยท่าทางที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกว่าโดนยั่วโมโห มืออีกข้างยื่นส้อมในมือมาเคาะจานของเขา “เป็นอะไรของนาย อารมณ์แปรปรวนทุกปี นี่นายเข้าวัยทองแล้วหรือเปล่า”




    นี่หมอนั่นทำเป็นเฉไฉไม่รู้ว่าเขาอารมณ์เสียเรื่องอะไรได้ยังไง นี่มันมันจงใจแกล้งกันชัดๆ




    “อี๋ โคตรน่ารังเกียจ เล่นอะไรไม่รู้จักโตเหมือนอายุสมองนายไม่มีผิด!” คนเป็นน้องทำท่ายี้ออกนอกหน้า ไสจานออกไปให้ห่างจากตัว




    “ไม่โตได้ไง ครบยี่สิบสี่ปีนี้ อ้อ วันนี้พอดีเลยด้วย” เบ็นว่าด้วยท่าทางไม่รู้สึกรู้สากับประโยคเต็มไปด้วยอารมณ์และโทสะของน้องชาย น้ำเสียงเห็นอกเห็นใจฟังดูเสแสร้งจนน่าหมั่นไส้ แย่งของในจานอีกคนกินหน้าตาเฉย “นายก็ไม่ต้องเสียใจไปหรอก ช้ากว่าแค่สี่นาทีแต่ตอนนี้ก็เท่ากันแล้ว”




    เพราะรู้จักกันดีเหมือนหลังฝ่ามือของตัวเอง หมอนั่นถึงเข้าใจหาอะไรมาจี้จุดเขาดีนัก แถมยังกวนประสาททำไม่รู้ไม่เห็นได้น่าโมโหมากด้วย




    “อวดได้อยู่เรื่องเดียวหรือไง”




    “มีหลายเรื่องเลยแหละ ทั้งเรื่องที่หน้าตาดีกว่า เก่งกว่า...” ฝาแฝดคาร์เดลคนโตขมวดคิ้ว เสียงอู้อี้เพราะพูดทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่ ก่อนทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้ “อ้อ ฉันว่าฉันพอจะรู้แล้วว่านายอารมณ์เสียเรื่องอะไร”




    เบนเลิกคิ้ว มองใบหน้าที่เขาลงความเห็นว่าโง่เง่าสิ้นดี รอฟังว่าเบ็นมีอะไรจะถากถางกันอีกจะได้ชำระด้วยประโยคเจ็บแสบทีเดียวจะได้ไม่เปลืองพลังงาน




    “เกลียดที่ฉันไม่ได้บอกว่าสุขสันต์วันเกิดล่ะสิ” 


    “...”




    โมโหจนพูดไม่ออกเป็นอย่างไร เขาก็ได้รู้ในตอนนี้เอง – ตอนที่ฟังไอ้หมอนี่พล่ามเรื่องเป็นไปไม่ได้ซึ่งฟังดูน่าขนลุกพิกล ปีไหนๆ มันก็ไม่เคยสติแตกเพ้อเจ้อเท่านี้ไม่ใช่หรือไง 




    “อยากให้พูดว่าดีใจที่นายเกิดมาหรือเปล่า เออ ไม่มีใครกวนโมโหได้น่าสนุกเท่านายหรอก”




    เบนอยากจะด่าว่านั่นเอาสมองถั่วๆ คิดก่อนพูดแล้วใช่ไหม ขอบอกว่ามันน่าขยะแขยงกว่าของกินที่อีกฝ่ายทำเมื่อเช้าสิบเท่า แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรหลุดออกมา ได้แต่สงสัยว่านี่มันแทคติคใหม่ของไอ้บ้าที่ทำให้ด่าไม่ถูกหรือยังไง




    มันไม่แฟร์เลยจริงๆ ยิ่งกว่าสี่นาทีที่เขาเสียเปรียบหมอนั่นเสียอีก



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in