เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Football Manager The Seriesโพนี่จี้จุด
ยุทธการปั้น จาร์รอด โบเวน สู่ Raumdeuter คนต่อไป
  • ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน เราได้รู้จักกองหน้าดาวรุ่งจากศูนย์ฝึกเยาวชนบาเยิร์น มิวนิคในนามว่า โธมัส มึลเลอร์ โดยเขาได้ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือที่มีบุคลิกเย่อหยิ่ง จองหอง อวดตัว แต่ฝีมือก็ไม่แพ้ฝีปากในช่วงเวลาขณะนั้น และให้ มึลเลอร์ เป็นกุญแจสำคัญในเกมรุกของ บาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาล 2009/2010 ซึ่งในขวบปีแรกเขาก็สามารถทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งด้วยการยิง 19 ประตู กับจ่ายบอลให้เพื่อนอีก 16 แอสซิสต์ คำถามที่หลายคนสงสัยมีอยู่ไม่น้อย นั่นคือ ตัวของ มึลเลอร์ นั้น ไม่ได้มีการเลี้ยงบอลที่โดดเด่น การจบสกอร์ที่น่าทึ่ง ตัวก็ดูเก้งก้างไม่น่าจะวิ่งเร็ว แถมยังมีร่างกายที่บอบบางสวนทางกับสถิติการยิงประตู และส่ง แต่เมื่อเราได้สังเกตสไตล์การเล่นของเขาแล้ว มันดูผิดแปลกจากนักเตะทั่วไปนั่นคือ เขาเป็นคนที่ไม่ยึดติดตำหน่งแหน่งตัวเอง และยืนอยู่ถูกที่ถูกเวลาอยู่เสมอ จนในท้ายที่สุดสื่อในเยอรมันตั้งชื่อลักษณะการเล่นแบบนี้ว่า 'Raumdueter'

  • ความหมายที่แท้จริงของ Raumdeuter
    Raumdeuter เป็นภาษาเยอรมันแปลว่า 'นักล่าหาช่อง' นักเตะที่เล่นตำแหน่งนี้จะมีจินตนาการในการเล่นฟุตบอล และการอ่านเกมโดยรวมของทีมสูงมาก เพราะเขาจะต้องสังเกตการเล่นของเพื่อนร่วมทีม ก่อนจะหาช่องว่างในการโจมตีฝ่ายตรงข้าม ในความเป็นจริงแล้ว Raumdueter ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าผู้เล่นจะต่องเล่นตำแหน่งใดในแนวรุก แต่สำหรับเกม Football Manager 2018 ที่เริ่มนำ Raumdeuter จะให้ผู้เล่นสามารถกำหนดหน้าที่ Raumdeuter ในตำแหน่งปีกซ้าย และปีกขวา


    ทำไมถึงเลือก จาร์รอด โบเวน ?
    จริงๆแล้วมันเป็นความบังเอิญที่ผมกลับมาเล่นเซฟที่คุมซันเดอร์แลนด์ หลังจากพาขึ้นจากลีก 1 สู่แชมเปี้ยนชิป ก็ยังไม่ได้กลับไปเล่นอีกเลย ซึ่งผมได้ซื้อ จาร์รอด โบเวน ทิ้งไว้ในราคา 5 ล้านดอลล่าร์จากฮัลล์ ซิตี้ เพราะเข้ากับแผนเดิมที่จะเอา โบเวน ไปเล่นเป็น Inside Forward ด้วยการเลี้ยงบอล หาช่อง จบสกอร์ และเคลื่อนที่โดยไม่มีบอลได้ดีสังเกตจากค่าพลังประมาณ 13++ ทำให้คิดเล่นๆว่าถ้าเปลี่ยนให้ โบเวน เป็น Raumdueter จะเวิร์คหรือเปล่า

  • Set-Up แผนการเล่น
    ผมเซ็ตแผนเป็น 4-2-3-1 แต่โยกมิดฟิลด์ตัวรุกออกไปทางด้านซ้าย ตั้งเป็น Shadow Striker คอยสอดไปเหมือนกองหน้าตัวที่สอง จับโบเวนเล่น Raumdeuter และปีกซ้ายใช้เป็น Winger (Attack) ใช้กองกลางสองตัวเป็น Deep-Lying Playmaker กับ Box to Box Midfielder คอยบัญชาเกม ส่วนหลัง 4 คน แบ็คซ้าย-ขวา เป็น Wing-Back ขึ้นสุดลงสุด Center Back เป็น Ball Playing Defender คอยเซ็ทเกมจากแดนหลัง

    นอกจากนี้ก็ให้แบ็ค Overlap ขึ้นมา และสั่งให้เปิดบอลต่ำ กดดันเมื่อเสียบอล รวมถึงใช้กับดักล้ำหน้า
  • ติดตามผล
    หลังจากผ่านไป 1 ฤดูกาลมีเรื่องที่เซอร์ไพร์สพอสมควรครับ ตัวเลขการยิงประตูที่คาดหวังไว้ว่าน่าจะเยอะ กลับไม่เยอะ แต่กลายเป็นแอตซิสต์เยอะที่สุดในทีมแทนด้วยตัวเลขถึง 17 ครั้ง จากการลงเล่น 47 นัด

    การยิงประตูเยอะสุด กลับกลายเป็น แอชลีย์ เฟลทเชอร์ กองหน้าของทีมที่ยิงไปถึง 40 ประตูจากการเล่น 48 นัด เพิ่มเติมอีก 5 แอสซิสต์ ซึ่งเครดิตส่วนใหญ่มาจาก จาร์รอด โบเวน 

    แม้ว่า จาร์รอด โบเวนอาจไม่ได้ยิงประตูเยอะเท่าที่ควรเหมือนกับ โธมัส มุลเลอร์ ที่เล่นตำแหน่งนี้โดยธรรมชาติ แต่มีบทบาทสำคัญในทุกๆเกมทั้งการวิ่งทำทาง จ่ายบอลให้เพื่อนยิง ทำให้ผลงานภาพรวมของทีมสามารถขึ้นชั้นไปยังลีกสูงสุดได้สำเร็จ

    หลังจากขึ้นชั้นมาลีกสูงสุดแล้ว ผมก็ลองเล่นต่อไปอีกเรื่อยๆ เพื่อดูว่าถ้าขึ้นไปเล่นในฟุตบอลระดับสูงยังสามารถต่อกรกับทีมอื่นๆได้หรือไม่ ซึ่งแผนนี้แม้ว่าจะยังไม่สามารถคลีนชีตได้ แต่ก็พาทีมเก็บชัยชนะไม่ต่ำกว่า 10 นัด อยู่อันดับ 10 เกินเป้าหมายหนีตกชั้นไปเกินคาด ยังไงถ้ามีอะไรอัพเดทจะมาเขียน Blog อีกครั้งหนึ่งนะครับ

    สำหรับใครที่อยากติดตามผลงานอื่นๆของผมนอกจากการเขียน Blog Football Manager สามารถติดตามได้ที่เพจ "โพนี่จี้จุด" ได้เลยครับ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in