Theme: Rainy Night
Pairing: Chwe Hansol x Boo Seungkwan
Rating: PG15
Warning: เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
◍ ◍ แนะนำให้ฟังเพลง Something About Us ของ Daft Punk
I'll be the blood,
If you'll be the bones.
ผมเช็ดผมที่เปียกชุ่มของเขาอย่างแผ่วเบา ไม่ปกติเท่าไรนักที่เขาจะมาหาผม เพราะเราต่างรักษาระยะห่างระหว่างกัน ไม่ใกล้ชิดหรือเหินห่างจนเกินไป
แต่หากวันไหนที่ผมหรือเขาเลือกที่จะแหกกฎที่เราตั้งเอาไว้ วันนั้นจะรายล้อมด้วยความเงียบ... ที่ทำให้เราทั้งคู่สบายใจและอึดอัดในคราเดียวกัน
เฉกเช่นวันนี้
ผมมองด้านหลังของเขาที่ดูไม่เหมือนเขาเลยแม้แต่น้อย แผ่นหลังที่เคยเหยียดตรงเสมอห่อลงแลดูน่าสงสาร เขาปล่อยให้ผมเช็ดผมของเขาไปและไม่ปริปากเอ่ยคำใด ๆ นับแต่ทำห้องของผมเลอะเทอะเพราะเนื้อตัวเปียกโชกจากสายฝนที่ยังคงกระหน่ำไม่หยุดจวบจนตอนนี้
ผมไม่คิดจะถามเขาให้มากความ เรารู้ดีอยู่แล้วว่าสาเหตุของเรื่องนี้คืออะไร ซึ่งผมเองก็ไม่ต่างจากเขาเท่าไร เพียงแต่คนที่เสียสละและเลือกจะรับแรงปะทะทั้งหมดก็คือเขา
ผมตัดสินใจบางอย่าง หยุดเช็ดผมของเขาและพาดผ้าขนหนูบนโซฟา
เขาคงจะแปลกใจไม่น้อยว่าทำไมผมถึงหยุด
และคงจะแปลกใจยิ่งกว่าเก่า เมื่อถูกผมสวมกอดหลวม ๆ จากด้านหลัง พลางแนบแก้มกับซอกคอที่เย็นกว่าของเขาอย่างที่ไม่ค่อยได้ทำนัก
ครั้งสุดท้ายที่ทำแบบนี้เมื่อไรกัน... ผมจำได้นะ แต่ไม่ค่อยอยากจะหวนไปนึกถึงมันนัก
อาจเป็นเพราะนั่นคือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เรากำลังจะทำต่อจากนี้
ผมหลับตาลงเมื่อรู้สึกถึงมือที่เย็นพอ ๆ กับลำคอของเขาขยับมากุมมือของผมไว้
เราต่างไม่พูดอะไร
ผมหลับตาลง ปล่อยให้เวลาแห่งความสงบไหลเอื่อยไปอย่างใจเย็น ซึมซับเสียงฝนจังหวะสม่ำเสมอเช่นเดียวกับลมหายใจที่ผ่อนเข้าและออกของเขา
“ซึงกวาน”
ผมลืมตาขึ้นมาเพราะเสียงเรียกนั่น และพบว่าเขากำลังหันมาเพื่อเผชิญหน้ากับผม
ผมและเขาสบสายตากันและกันอยู่ครู่หนึ่ง
เราต่างรู้ดีว่า
เรา...
ต้องการอะไร
ริมฝีปากที่เริ่มอุ่นขึ้นบ้างของเจ้าของจุมพิตหนักหน่วงเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เปลี่ยนจังหวะระหว่างเราในครั้งนี้ ริมฝีปากบางทาบทับบนริมฝีปากของผม ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต่างจากจูบก่อนหน้านั้นตอนที่ผมเปิดประตูให้ เพียงแต่มันนุ่มนวลกว่า คล้ายกับสัมผัสของขนนก
จูบปลอบประโลมที่เรามอบให้กันนั้นช่างอ่อนโยน
เหมือนกับทุก ๆ ครั้ง จูบของเรามักจะเริ่มต้นด้วยความร้อนแรงเอาแต่ใจ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะเขา ก่อนที่จะจบลงด้วยความอ่อนโยนและเข้าใจ
ไม่มีใครรู้จักเขาได้ดีเท่าผม
และไม่มีใครรู้จักผมได้ดีเท่าเขา
ผมเป็นฝ่ายผละริมฝีปากออกมาก่อน และกดจูบที่มุมปากของเขาอีกครั้ง
เราไม่ใช่คนรัก
เพราะสัมผัสระหว่างเราไม่เคยเกินเลยกว่ากอดและจูบ
ไม่สิ
เคยถลำลึกเพียงครั้งหนึ่ง แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
เพื่อนนะเหรอ
ก็คงไม่มีทางทำแบบนี้ใช่ไหมล่ะ?
เขากอดผมแน่นและร้องไห้อย่างเงียบงัน ไม่มีเสียงสะอื้นหรือสบถด่า รู้แค่ว่ากลางอกของผมชุ่มไปด้วยน้ำตาของเขา อิริยาบถในตอนนี้ไม่ใคร่จะสบายตัวนัก หากปล่อยให้เขากอดผมทั้ง ๆ ที่ยืนเป็นหุ่นเช่นนี้
เขาดึงร่างของผมให้นั่งลงบนตักของเขา หากเป็นเวลาปกติคงตลกพิลึก แต่ครั้งนี้ผมยอมอย่างง่ายดายและกอดเขาตอบ ลูบเรือนผมที่ยังไม่แห้งดีไปพลาง
คำสัญญาเมื่อสิบกว่าปีก่อนยังคงดังก้องในหัวของผม
เช่นเดียวกับคำสัญญาที่เขาให้กับผมในวันที่พ่อของผมจากไป
‘ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่านายจะต้องการหรือไม่ ฉันจะอยู่กับนาย’
ผมยิ้ม
น่าเสียดายที่ผมปากหนักเกินกว่าจะเอ่ยมันอีกครั้ง พยายามใช้ทุกการกระทำสื่อประโยคนี้ออกไปให้ได้มากที่สุด เพราะเพียงแค่กระซิบแผ่วเบากับตัวเอง นั่นก็เกินพอแล้ว
End.
◍ ◍ talk with me free wifi :
- ชื่อเรื่องเอามาจากเนื้อเพลง wolves without teeth ของ of monsters and men นะคะ
- เนื้อเพลง something about us ของ daft punk อธิบายความสัมพันธ์ของสองคนได้ดีและแจ่มแจ้งเลยค่ะ แถม casual affair ของ panic! at the disco อีกเพลง ชอบท่อน a lover on the left, a sinner on the right มาก
- เราวางคาร์น้องทั้งสองคนนี้ไว้ช่วง 30 กลางๆ อารมณ์ฝ่ายหนึ่งมีครอบครัวแล้ว แต่อีกคนอยู่เป็นโสดอะไรประมาณนี้
- มีอะไรติชมกันได้ที่ #kurofics ในทวิตภพหรือจะคอมเมนต์ตรงนี้ก็ได้นะคะ น้อมรับฟังเสมอ
- enjoy reading ♡
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in