เราไม่ชอบดูหนังอวกาศ---
หนังที่เนื้อเรื่องมีฉากหลังเต็มไปด้วยความมืดมิดของจักรวาลและดวงดาวระยิบระยับมากมายคือหนึ่งในประเภทหนังที่เราคิดว่า
ด้วยเหตุนี้การจะเลือกหนังมาดูเพื่อเสริมสร้างจินตนาการของหญิงสาววัยเฉียดสามสิบอย่างเรานั้นต้องเป็นอะไรที่เข้าใจง่าย โอเค ซับซ้อนนิดหน่อยพอให้หัวใจสูบฉีดก็ยังพอไหว แต่ถ้า
ตู้มม…!!!
ฮัลโหลลล ซิสเรามาคำนวนด้วยหลักสูตรตรีโกณผสมแคลคูลัสบวกกับการใช้สารแอมโมเนียมไนเตรทผนวกกับไขมันจากสันหลังเอเลี่ยนเพื่อหาวิธีการลงจอดบนดาวนาแม็กกันเถอะ
โนค่ะ!!
ยากไป เปลืองพื้นที่ในสมอง
: สนุกมากนะ
: เรื่องที่แล้วก็ทำเราเวียนหัวไปรอบหนึ่งแล้วนะ
Interstellar คือเรื่องที่ว่า อื้อหือออ…เราจ้องตั้งแต่ฉากแรกที่ฉายยันฉากจบ
ไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจเลย…!!
( ทำปากคว่ำพร้อมกับทึ้งหัวตัวเองแรงๆ )
: แต่อันนี้เข้าใจง่ายจริงๆ
ใครคนนั้นยังคงเอ่ยเชิญชวน
: นะ นะ นะะะ
: โอเค โอเค จะพยายามกับหนังแนวนี้อีกสักที
Martian เป็นเรื่องราวที่บอกเล่าถึงลูกเรือของยานเฮอร์มีสที่ขึ้นไปทำภารกิจบนดาวอังคารแต่ในระหว่างนั้น ดาวอังคารเกิดพายุขนาดใหญ่ ทำให้ภารกิจต้องถูกยกเลิกกลางคันและลูกเรือทุกคนต้องกลับขึ้นยานเพื่อเดินทางกลับมายังโลก
แต่เรื่องมันดันเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งในลูกเรืออย่าง
มาร์ค วัทนีย์ ถูกปล่อยทิ้งคนเดียวบนดาวอังคารอันกว้างใหญ่ ดินแดนที่เต็มไปด้วยความแห้งแล้งและทะเลทราย ซึ่งหากจะต้องรอความช่วยเหลือจากนาซ่าที่อยู่ห่างจากที่ๆเขาอยู่ไป 140 ล้านไมล์แล้วละก็เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดโดยมีแค่อุปกรณ์ที่ใช้ในการสำรวจดาว
และสมอง—
หากถามว่าเรารู้สึกยังไงทันทีที่หนังจบ
เราตอบได้เลยว่า ทึ่ง
เราบอกเลยว่าเราทึ่งมากแม้จะไม่เข้าใจสูตรการคำนวนต่างๆ ก็เถอะแต่มันเจ๋งมากสำหรับคนที่เคยกลัวหนังอวกาศมากทฤษฎี ทุกอย่างที่ตัวเอกของเรื่องถ่ายทอดออกมามันทำให้รู้ว่าเขาเชื่อมั่นในสิ่งที่เขาร่ำเรียนมาเป็นอย่างมาก
และทึ่งที่สอง เราขอมอบให้กับสภาพจิตใจที่โคตรจะเข้มแข็ง
—เอาจริงๆ ถ้าเราเจอสภาวะแบบนี้มันมีแค่ความรู้สึกแบบเดียวที่นึกถึงคือ ท้อแท้ และสิ้นหวัง
เมื่อไหร่ละ ที่ความช่วยเหลือจะมา
เมื่อไหร่ละ ที่อาหารจะหมด
และเมื่อไหร่ละ ที่เราควรจะตายไปจากตรงนี้ให้สิ้นเรื่อง
เรามองออกว่าตัวมาร์คเองก็มีความรู้สึกเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวเต็มไปหมด เขาทั้งเหงา ทั้งโดดเดี่ยว ทั้งสิ้นหวัง แต่ในความสิ้นหวังที่เขามองเห็นอยู่เต็มสองตา
….หัวใจเขาก็มองเห็น ความหวัง
มาร์ค วัทนีย์ ทำให้เรามองเห็นความพยายามและความไม่ยอมแพ้ต่ออะไรที่ใครก็มองว่าเป็นไปไม่ได้ และ
เรารู้สึกว่าท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับมนุษย์เราก็ตาม สิ่งแรกที่เราควรเรียกหามากที่สุดคือ สติ เราคิดว่าปัญหาทุกอย่างล้วนมีทางแก้เสมอ แม้บางครั้งมันอาจจะยากเกินกว่าที่จะจินตนาการไหวแต่หากเราใช้ชีวิตแบบมีสติและไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งเร้าต่างๆ
—ผลลัพธ์ที่ได้ มันคือรางวัลที่ยิ่งใหญ่เกินคาดฝันเสมอ
มาร์ค วัทนีย์ สำหรับใครหลายคนอาจเป็นแค่หนึ่งในตัวละครจากหนังเรื่องโปรด
แต่สำหรับเรา เราขอยกให้เขาเป็นแรงบันดาลใจที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่แล้วกัน
เพราะหลายครั้งที่เราท้อกับชีวิต ท้อกับปัญหาต่างๆ มากมาย แต่พอกดเพลย์หนังเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร หัวใจเรามักจะเข้มแข็งขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ก็ดูสิ ขนาดถูกทิ้งไว้บนดาวอังคารคนเดียวยังไม่สิ้นหวังแล้วคนที่เท้ายังคงเหยียบพื้นโลก แถมยังมีเพื่อนอีกเป็นล้านๆ คนอย่างเราจะทำให้หัวใจตัวเองรู้สึกหมดหวังไปทำไม
—จริงไหมละ :D
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in