เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
SUMMER AT SALMON: มนุษย์(ใจ)ปลาซิวในฝูงปลาส้มfridaysummer
ภาระ101
  • "เป็นกองบรรณาธิการ อ่านแต่หนังสือ"

    ข้อความข้างต้นมีส่วนถูกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับ 100% เพราะจากการทำงานในฐานะบ.ก.ฝึกหัดมาเกือบ 2 เดือน พบว่าดีเทลการทำงานมันมีอะไรมากกว่าการนั่งอ่านต้นฉบับวนไปเยอะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าแต่ละสำนักพิมพ์จะมีแพทเทิร์นการทำงานเหมือนกันไหม แต่สำหรับการเป็นบรรณาธิการที่สำนักพิมพ์ปลาส้มเนี่ย สามารถสรุปขอบเขตภาระหน้าที่อย่างง่ายๆ ได้ด้วยหลัก "สี่งาน" ดังนี้

    1. งานขาย

    งานขายที่ว่าก็คือขายหนังสือในสำนักพิมพ์นั่นเอง ทั้งหนังสือที่ตีพิมพ์เก่าและใหม่ บรรณาธิการต้องพยายามหาทางขายหนังสือเหล่านั้นสู่สาธารณชนให้ได้ โดยหน้าที่ที่ปลาซิวต้องทำตอนฝึกงานก็คือหาวิธีโปรโมทหนังสือเล่มที่พี่ๆ ได้มอบหมายมาให้ ไปเสาะแสวงหาไอเดียมาขายพี่เพื่อให้เอาไปใช้ขายหนังสืออีกที ไอเดียจะเป็นอะไรก็ได้ไม่จำกัด แต่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในรูปบทความสั้นๆ แคปชั่นชวนซื้อ หรือเกาะกระแสไปกับสิ่งที่เป็นเทรนด์อยู่ช่วงนั้น ซึ่งพวกคอนเทนต์ขายหนังสือที่ทำก็จะเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งเพจบนเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม หรือแม้กระทั่งทวิตเตอร์ของสำนักพิมพ์ ความจริงถ้าทำป้ายบิลบอร์ดแปะตรงทางด่วนได้ก็อยากจะทำแต่งบดันไม่ถึง เอาเป็นว่าขายเก่งมาก ขายเก่งสุด ขายจนปลาซิวแอบคิดในใจอยู่หลายต่อหลายครั้ง

    เป็นบรรณาธิการ ต้องขายเก่งกว่าเซลล์ประกัน!

    2. งานคิด

    งานคิดไม่ต่างอะไรจากงานขาย แค่แยกหัวข้อให้มันดูมีอะไรเฉยๆ คริ ล้อเล่นน่า งานคิดไม่ได้จำกัดแค่การคิดวิธีโปรโมทหนังสือ แต่ยังหมายรวมไปถึงคอนเทนต์ที่จะลงเพจ Cont. ที่สำนักพิมพ์ดูแลอยู่ด้วย แต่ละสัปดาห์ บรรณาธิการจะต้องช่วยกันหาหัวข้อที่จะเขียนลงเพจ บางครั้งก็ให้ความรู้ บางครั้งก็ชวนดูหนัง และหลายครั้งที่แอบจิกกัดเสียดสีความเฮงซวยและห่วยแตกของสถานการณ์ที่บังคับให้ทุกคนเจอกันได้ผ่านหน้าจออย่างเดียวแบบนี้ แต่ส่วนตัวแล้วปลาซิวทำแค่หาไอเดียโปรโมทหนังสือ ไม่ค่อยได้เข้าไปแตะส่วนคอนเทนต์บนเพจเท่าไหร่ เนื่องด้วยหัวตีบตันและขาดจินตนาการเกินกว่าจะหาอะไรว้าวซ่าคูลๆ มาเขียนได้ เคยช่วยพี่ๆ หาข้อมูลนิดหน่อยเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นปลาส้มออริฯ ที่รับผิดชอบนั่นเอง

    3. งานเขียน

    งานเขียนเป็นงานที่ต่อยอดจากงานขายและงานคิด มันคือการนำไอเดียที่เป็นนามธรรมกระจัดกระจายมาเรียบเรียงให้กลายเป็นผลงานรูปธรรม ไอเดียเอิงเอยใดๆ ที่เอาไปขายและผ่านการเห็นชอบจากทุกฝ่ายแล้วว่าโอเค นัมเบอร์วัน ก็จะถูกนำมาโมดิฟายให้กลายเป็นคอนเทนต์เพื่ออัพลงเพจต่อไป ปลาซิวเองก็ได้เขียนงานลงเพจสำนักพิมพ์ด้วยสองถึงสามงานได้ มีเรื่องแนะนำเกาะเมี้ยว บทสัมภาษณ์ที่ชวนคนมาอ่านหนังสือ แล้วก็พาสำรวจอดีตประเทศไทยนู่นนี่นี่นั่น ซึ่งกว่าจะคลอดออกมาเป็นคอนเทนต์หนึ่งเรื่อง บอกเลยว่าใช้เวลานานมากเพราะต้องแก้แล้วแก้อีก เสียเหงื่อ เสียน้ำตา แบบไม่ต้องใช้กล้องคุณภาพดีๆ ซูมก็เห็นหยดน้ำบนปลายจมูกได้ชัดแจ๋วนะเออ (ดังนั้นถ้าใครเห็นใจก็ตามไปอ่านและกดไลค์คึหรือพิมพ์สาธุ99 ให้กำลังใจกันได้ที่เพจสำนักพิมพ์นะ หงิงง)

    4. งานค้น

    มาถึงงานสุดท้ายที่เป็นหัวใจสำคัญของการเป็นบรรณาธิการ งานค้นหมายถึงงานค้นต้นฉบับ เป็นการอ่าน อีดิท และคอมเมนต์ตัวงานเขียนที่สำนักพิมพ์ดูแล หน้าที่นี้แหละที่จะทำให้ได้อ่านเยอะมากๆ (มากแบบใส่ไม้ยมกซักร้อยอันได้) แต่อ่านแล้วก็ต้องค้นหาไปด้วยว่าผลงานชิ้นนั้นยังต้องปรับปรุงหรือแก้ไขอะไรอีกบ้าง หรือหากมีตรงไหนที่ไม่แน่ใจ อยากเพิ่มหรือลดส่วนใด ก็สามารถคอมเมนต์บอกคุณนักเขียนเพื่อให้เขานำไปใช้เป็นความเห็นอ้างอิง นอกจากนั้น บ.ก. ยังต้องช่วยอีดิทภาษา แต่ต้องไม่ทำลายเอกลักษณ์ของงานเขียน เพราะนักเขียนทุกคนต่างมีสไตล์เป็นของตัวเอง สิ่งที่ทำได้จึงมีเพียงการพยายามปรับให้เนื้อหาอ่านได้เข้าใจง่ายกว่าเดิมโดยไม่ล้ำเส้นตัวตนที่เจ้าของผลงานสอดแทรกไว้ระหว่างบรรทัด ปลาส้มในฝูงเคยบอกไว้ว่า "บ.ก. คือนักอ่านคนแรก" งานใดๆ ก็ตามที่ผ่านมือ ควรพิจารณาจากมุมมองของผู้อ่านและลองถามตัวเองว่า ผลงานเล่มนี้ดีพอหรือยัง เราจะเสียเงินให้มันได้ไหม แล้วค่อยพยายามประกอบร่างหนังสือให้สมบูรณ์และตรงกับธงที่ปักไว้ในใจของเราให้มากที่สุด

    และทั้งหมดที่กล่าวก็คือสี่งานภาระทั่วไปของการเป็นบ.ก. เท่าที่ได้สัมผัสมา บางงานก็โซอีซี่ บางงานก็ต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาสกิล แต่ที่แน่ๆ คือได้เรียนรู้ว่าบรรณาธิการเนี่ยไม่ได้เป็นกันง่ายๆ งานอ่านก็ต้องทำได้ งานขายก็ต้องทำดีนะทุกคน!

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in