11 Nov 2017
คอนเสิร์ต The Switch ผลัดกันเล่นผลัดกันร้อง จัดโดยค่าย Boxx Music โดยก็จะเป็นคอนเสิร์ตที่ร่วมแจมกัน Switch เพลงกัน ระหว่างศิลปินค่ายบ็อกซ์กับค่ายอื่น ๆ จัดที่ดาดฟ้าตึกฟอร์จูน รัชดา บัตรราคาเต็มน่าจะ 500 บาท แต่เราซื้อแบบ Early มา เป็นโปรเหงา ๆ 350 บาท ก็ราคากลาง ๆ ไม่แพงมาก แล้วบัตรก็หมดไวมาก รู้สึกโชคดีมากที่จองทัน
ฉันขึ้นจาก MRT ปุ๊บก็หันขวามองหา Fortune Tower เจอตึกแล้วก็วิ่งเข้าไป ลองขึ้นบันไดเลื่อนไปก่อนชั้นนึง แล้วก็เดินงง ๆ จนเจอลิฟต์ ตรงหน้าลิฟต์ก็เจอคนแนว ๆ เดียวกัน แล้วมีคนสะพายกีตาร์ด้วย โอเค ตามเขาไปละกัน พอลิฟต์จอดที่ดาดฟ้า เราก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปถึงที่จัดงาน รับริสแบนด์อย่างรวดเร็ว ต้องขอชมเลยว่าทีมงานจัดการดีมาก มีลำดับเลขบัตรให้ไปต่อแถวตามล็อกตัวเอง เลยไม่ต้องรอนาน แล้วก็เดินดุ่ม ๆ ไปหาที่นั่งที่ใกล้เวทีที่สุด นั่งพื้นรอจน 6 โมงนิด ๆ The Switch คู่แรกก็เริ่มขึ้นเวที ไฟแบ็คกราวด์เวทีก็เริ่มเปิด
The Switch คู่แรกเป็น The Kastle กับ De Flamingo เราชอบเพลงชีวิตเธอดีอยู่แล้วกับเพลงอื่น ๆ ของ The Kastle อยู่แล้ว ก็เลยตื่นเต้นมากที่จะได้ฟังสด ๆ ครั้งแรก แต่เวทีมันช่างสูงและกั้นซะห่างเหลือเกิน ทั้งที่ไม่ใช่เวทีใหญ่มาก เราก็ยืนเกือบจะหน้าสุดละนะ แต่ก็รู้สึกห่างจากศิลปินเหลือเกิน ส่วน De Flamingo เราไม่ค่อยอินแนวเพลงเท่าไร แต่ความหล่อเท่ของมือกลองกับมือเบสแย่งซีนมาก
คู่ถัดมาเป็น พี่แม็กซ์ เจนฯ & The Toys คู่ที่รอคอยมากที่สุด แค่ขึ้นมาซาวด์เช็ค สาว ๆ หน้าเวทีก็ทั้งกรี๊ดทั้งเชียร์กันลั่นดาดฟ้า แล้วทอยก็ลงจากเวทีให้พี่แม็กซ์โชว์ก่อน เฮียก็จัดมาครบทุกเพลงฮิตเลยจ้า แต่เด็ดสุดคือเพลงดารา ที่ปล่อยมาสักพักแล้ว แต่เราเพิ่งได้ฟังสดครั้งแรกที่นี่ แล้วแบบทั้ง Position ทั้งการจัดแสงดีงามมาก โคตรส่ง โคตรปัง แล้วก็ถึงตา The Toys คนฮอต ก็ไม่ยอมน้อยหน้าพี่แม็กซ์ ขนมาทั้งเพลงฮิตทั้งเพลงจังหวะสนุก แล้วก็มา Switch กันในเพลงบันไดสีแดง ทำเอาบรรดาแฟนคลับเลือกกรี๊ดไม่ถูก จนเรารู้สึกว่าเป็นโชว์ที่จบเร็วมาก ๆ
โชว์ที่ 3 เป็น Nap A Lean กับ อิ้งค์ วรันธร ก็เฮฮาและรับส่งมุกกันได้ดี ส่วนตัวเราฟังเพลงแล้วก็เจอคู่นี้บ่อยอยู่ ตามหลาย ๆ งานที่เคยไป เลยไม่ค่อยตื่นเต้นมาก แต่เพลงก็ดีเหมือนเดิม ชอบตอนที่ผลัดกันร้อง พอเป็นเสียงพี่โต้หรือเสียงอิ้งค์แล้วมันเป็นอีกฟีลนึงเลยอะ แล้วอิ้งค์ก็เต้นน่ารักดี
ต่อมาก็เปิดโชว์ด้วยโอ ปวีณ์ และวงชายชุดขาวของเขา เป็นแร็ปแบบโจ๊ะ ๆ นิดนึง คนก็ดูชอบกันมาก แล้ว The Parkinson ก็ขึ้นมาวาดลวดลายแจ๊ซเท่ ๆ ขนเพลงฮิตตั้งแต่จะบอกเธอว่ารัก จนถึงเพื่อนรัก ส่วนเพลงพยายามของโอก็ยังกินใจเหมือนเดิม
ลากยาวมาถึงคู่สุดท้าย นี่มันก็ 5 ทุ่มเศษแล้ว ตามกำหนดการบอกว่าถึงแค่ 4 ทุ่มครึ่ง แต่เราก็อดทนรอจนพี่ปอย Portrait ร้องขอดาว และ Better Weather ร้องยังไม่รู้ แล้วก็ฝ่าฝูงชนออกมา ปวดขามาก มาราธอนเกือบ 6 ชม. แล้วก็เดินลงจากตึก จะบอกว่าทางเดินน่ากลัวมาก มันเป็นลานจอดรถมืด ๆ อะ เราเดินลงประมาณ 3-4 ชั้น ก็เจอประตูเข้าห้าง ก็โล่งใจ เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
ชอบสีของแสงช็อตนี้มาก ๆ สแนปอย่างรวดเร็ว
สำหรับความประทับใจโดยรวมของงานนี้ก็ยังไม่รู้สึกประทับเท่าที่ควร เราเคยไปงานที่อบอุ่นใกล้ชิดกว่านี้ ไม่ก็ยิ่งใหญ่อลังการกว่านี้ แต่คอนเสิร์ตนี้มันยังขาด ๆ เกิน ๆ อยู่บ้าง ศิลปินส่วนใหญ่เวลาพูดคุยเล่นมุกก็จะเล่นกันเอง คือบางอันคนดูก็อึนไปเลย ถ้าเล่นกับคนดูอีกนิดน่าจะสนุกกว่านี้ ที่ปังสุดก็น่าจะเป็น The Toys แหละ เซอร์วิสแฟน ๆ สุดฤทธิ์ และเวทีสูงไป ห่างไกลคนดูไปหน่อย คืองงว่าถ้าเป็นคอนเสิร์ตเล็ก ๆ ก็ให้คนดูได้ใกล้ชิดศิลปินหน่อยมั้ย หรือถ้าจะทำใหญ่ก็ให้เวทีใหญ่กว่านี้ไปเลย ศิลปินจะได้ไม่แน่นเวทีมาก แล้วก็เรื่องเวลาจัดงานที่ยืดไปหน่อย เข้าใจว่าอยากให้สนุกกันเต็มที่ยันเที่ยงคืน คนดูก็ได้กำไร แต่สำหรับบางคนที่ไม่ได้อินกับบางโชว์อยากรอดูโชว์ท้าย ๆ ก็ต้องรอนาน (ไม่อยากออกเพราะเดี๋ยวเข้ายาก) ก็เป็นข้อติเล็ก ๆ ส่วนที่ดีก็มี อย่างการเข้าคิวรับริสแบนด์ที่ไม่เคยเจองานไหนสะดวกรวดเร็วเท่านี้มาก่อน (หรือเพราะเราไปสายหว่า) อีกอย่างคือการออกแบบเวที แสงสีสวยงาม เท่ แถมยังครีเอตมาก (ตัดเรื่องป้ายโลตัสยักษ์ใหญ่ออก) ขอชื่นชมทีมครีเอทีฟ คนออกแบบอาร์ตเวิร์ค คนจัดแสงที่ทำได้ดี ไม่หลุดธีม ส่งเสริมคาแรกเตอร์ของศิลปินแต่ละคนแต่ละคู่ จังหวะแสงในแต่ละเพลงก็โอเคเลย สรุปแล้วความประทับใจเราก็อยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ ยังไม่ได้ประทับใจเท่าหลายงานที่เคยไป แต่ถ้า Boxx Music จัดงานปาร์ตี้หรือคอนเสิร์ตที่น่าสนใจอีกก็คงจะไปอีก เพราะหลาย ๆ เพลงในค่ายนี้ก็ทำได้ดี และเป็นเพลย์ลิสต์ที่คงไม่ยอมเลิกฟัง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in