Passengers เล่าถึงยานอวกาศลำหนึ่งที่กำลังเดินทางไปยังดาวเคราะห์เสมือนโลกดวงใหม่ที่ใช้เวลา 120 ปีในการเดินทาง ผู้โดยสารทุกคนรวมทั้งลูกเรือจึงต้องถูกทำให้อยู่ในภาวะจำศีล มิเช่นนั้นคงจะตายกันทั้งยานก่อนถึงดาว ปมของเรื่องเริ่มขึ้นเมื่อเครื่องจำศีลของชายหนุ่มคนหนึ่งเกิด error ขึ้นมาทำให้เขาหลุดจากภาวะจำศีลเร็วกว่าที่ควรถึง 90 ปี!
ทั้งๆที่หนังมีทั้งพล็อตไซไฟอวกาศ และความรักที่เกิดขึ้นกลางห้วงจักรวาล
แต่ทำไม๊ทำไมหุ่นยนต์ประกอบฉาก 1 ตัว ถึงขโมยความสนใจจากผมไปได้
"Arthur" คือชื่อของหุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์ประจำบาร์ในยานอวกาศเดินทางข้ามจักรวาลและเป็นหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์เพียงตัวเดียวของทั้งยาน แน่นอนว่าจุดประสงค์ของการสร้าง Arthur ขึ้นมาก็เพื่อให้มันทำเครื่องดื่มและ "พูดคุย" กับ "ลูกค้า" ในร้านเหมือนบาร์เทนเดอร์ทั่วไป
ด้วยเทคโนโลยีในเรื่องนั้น การจะสร้างหุ่นยนต์หนึ่งตัวที่ชงเครื่องดื่มได้นั้นคงจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่เหมือนจะเป็นปัญหาคือการทำให้หุ่นยนต์ "พูดคุย" กับมนุษย์
[เรื่องราวต่อจากนี้จะมีการสปอยล์เนื้อหาของหนัง]
[ฉากที่ 1 : คำแนะนำจากหุ่นยนต์]
ตัวเอกหนุ่มของเรากำลังกลุ้มใจว่าจะปลุกสาวสวยที่เค้าอยากเจอขึ้นมาจากการจำศีลมั้ย เขาจึงลองปรึกษาเรื่องนี้กับ Arthur ดู แน่นอนว่าคำตอบนั้นตอบได้ทั้ง ปลุก หรือ ไม่ปลุก ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้เหตุผลอะไร ตัวเอกหนุ่มบอกเหตุผลที่เค้าอยากปลุกสาวสวย Arthur : ปลุกเลย! และหลังจากที่เค้าอธิบายว่าทำไมเค้าถึงไม่ควรปลุก Arthur : งั้นคุณก็ไม่ควรปลุกเค้า (เอ้า! ยังไง!) สรุปแล้ว Arthur ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ต่อให้มันเลือก 1 ทางเลือกมันก็จะเป็นการตัดสินใจที่มาจาก "มนุษย์" ที่เป็นคนเขียนโปรแกรม ซึ่งก็คือมันไม่สามารถ "ตัดสินใจ" หรือ "คิดเอง" ได้
[ฉากที่ 2 : เราไม่มีความลับต่อกันอีกแล้ว ]
จากที่ตัวเอกของเราเคยกำชับ Arthur เอาไว้ว่า "ห้าม" บอกความจริงที่เขาปลุกหญิงสาวขึ้นมาเด็ดขาด Arthur สามารถทำตามคำสั่งนี้ได้อย่างดี (เพราะว่ามันเป็น "คำสั่ง" ที่หมายความตามที่สั่งไงล่ะ) แต่จุดโป๊ะแตกของเรื่องก็มาถึงเมื่อหญิงสาวดันพูดว่า "ชั้นกับเค้าไม่มีความลับอะไรต่อกันอีกแล้ว" แน่นอนว่าฝ่ายตัวเอกของเราถึงจะยังมีความลับอยู่ก็ต้องเออออตามน้ำไปสิว่า "ใช่ๆ ไม่มีความลับต่อกันอีกแล้ว" (คงไม่ต้องบอกเหตุผล) ฝั่ง Arthur ได้ยินเข้าก็คิดไปสิ "อ๋อ เค้าไม่มีความลับกันแล้ว งั้นก็ไม่มีเรื่องต้องปิดบังและ" นั่นแหละครับ ตู้ม ความแตก
สาเหตุก็เป็นเพราะ Arthur ไม่สามารถเอาบริบทของสถานการณ์มาประเมินได้ ประโยค 1 ประโยคของมนุษย์อาจสื่อความหมายได้หลายอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นคืออาจจะไม่ได้หมายความตามที่พูดเลยด้วยซ้ำ ซึ่งนี่ก็ถือเป็นโจทย์ที่ยากมากที่จะทำให้หุ่นยนต์ "เข้าใจ" ความหมายที่ซ่อนอยู่ได้
ถ้า Arthur สามารถแก้ไขปัญหาสองอย่างด้านบนได้ก็นับว่าเป็นเพื่อนคุยที่น่าสนุกและน่ากลัวในเวลาเดียวกันเลยทีเดียว (ยิ่งเหมือนมนุษย์เท่าไหร่ก็ยิ่งน่ากลัว เพราะมนุษย์มันน่ากลัวไง) ซึ่งหุ่นยนต์ที่ทำแบบนี้ได้เท่าที่เคยเห็นก็เหมือนจะเป็น "TARS" จาก interstellar นี่แหละ (เซ็ตเปอร์เซ็นความจริงใจของหุ่นยนต์ได้ โคตรคูล)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in