ชายผู้นั้นนั่งอยู่ริมหน้าต่าง เขาเป็นชายผิวคล้ำ รูปร่างไม่ใหญ่ไม่เล็ก และสวมใส่เสื้อผ้าหรูหราแวววาว ในมือข้างหนึ่งของเขามีปากกาขนนก ส่วนอีกข้างเท้าคางมองภาพขบวนเสด็จของกษัตริย์ต่างถิ่นที่กำลังดำเนินผ่านถนนด้านหน้าโรงแรม
เออร็อด อาเรียกำลังบันทึกเหตุการณ์ บางครั้งเขาจะทำเช่นนั้นเมื่อเริ่มเบื่อหน่ายต่อการเล่าเรื่องที่เคยได้ฟังมา หรือไม่ก็มีเหตุการณ์สำคัญที่ขายได้เกิดขึ้น
ปากกาขยับไปบนกระดานส่งเสียงครืดคราด ภาพที่เห็นด้วยสายตาที่มีเพียงข้างเดียวนั้นถูกบันทึกลงเป็นบทกลอน
"บัดนั้นเสียงแตรดังก้องประกา
ศถึงทวนราษฎร์รอบข้างเอ่ยปราศรัย
พลขานชื่อเอ่ยนามท่านจอมไท
กษัตริย์แห่งดาลาไลน์เสด็จเยือน
เสียงสรรเสริญเยินขึ้นที่รอบด้าน
งามตระการสูงส่งหาใดเหมือน
กษัตริย์หนุ่มบนหลังม้าผู้มาเยือน
ค่อยขับเคลื่อนม้าเหยาะย่างตามทาง
พระพักต์นิ่งสงบแลทรงศักดิ์
ผึงผายนักวรกายแลไหล่กว้าง
ผิวคล้ำเข้มเช่นผู้กรำนำหนทาง
เกศาดำเข้าข้างเนตรคมคาย..."
เสียงขยับของปากกาหยุดลง นักเล่านิทานทำหน้าเบื่อหน่าย เขาเอนหลังลงพิงเก้าอี้บุนวมของตน แล้ววางปากกาลง
"...ต้องมาแต่งบทชมโฉมผู้ชายนี่ปวดใจชะมัด" เขาพึมพำกับตนเอง ก่อนใบหน้าสีน้ำตาลนั่นจะเบื่อหน่ายขึ้นไปอีกเมื่อมีเสียงอันไม่ควรจะมีตอบกลับมา
"งั้นก็เลิกไอ้งานบ้าบอที่ท่านกำลังทำอยู่เสียดีไหมราชาของกระหม่อม" เสียงนั้นกล่าวกับนักเล่านิทานผู้รำพันชีวิตอยู่ริมหน้าต่าง
เออร็อด อาเรียไม่ได้หันไปมองตามเสียงนั้น ไม่แปลกใจด้วยซ้ำตอนที่มีเสียงตอบกลับมา
ชายหนุ่มรู้ว่าตนเองมีคนคอยติดตาม และบางครั้งคนพวกนั้นก็ไม่ค่อยสนใจความเป็นส่วนตัวของเขาสักเท่าไร แล้วแอบเข้ามาอยู่ในห้องพักของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต
"ข้าไม่ว่าง ฟังพวกเจ้าบ่นหรอกนะพาคา แล้วก็เลิกเรียกข้าแบบนั้นด้วย" เขาเบ้หน้าบ่นงึมงำ
"ท่านไม่ได้ยุ่งอยู่เสียหน่อยราชาของข้า" เสียงลึกลับว่า ไม่ได้นำพาต่อคำบ่นที่ตามมาในท่อนหลัง
"ข้าก็ยุ่งกับการบันทึกเหตุการณ์การเสด็จเยือนเอ็ดน่าอย่างเป็นทางการของกษัตริย์แอรอนแห่งดาลาไลน์อยู่นี่ยังไง" นักเล่านิทานว่าอย่างเบื่อหน่าย
"พระองค์ทรงตั้งตนเป็นอาลักษณ์ของกษัตริย์แอรอนตั้งแต่เมื่อใดกัน" เสียงปริศนาว่าต่อ แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจนต่อสิ่งที่คนที่เขาถือเป็นราชาทำ
นักเล่านิทานยังเฉยเมย เขามองออกไปนอกหน้า พลางแก้ข้อเข้าใจผิดอย่างเฉื่อยชา
"ข้าหาเรื่องไว้เล่าแลกข้าวกินต่างหาก เรื่องของเหตุการณ์สำคัญแบบนี้ขายดีทีเดียว พวกเจ้าไม่รู้หรือไง" เขาว่า
"ข้าก็นึกว่าพระองค์ทรงเล่าแต่เรื่องที่ได้ฟังมา"
"นี่ก็เป็นเรื่องที่ข้าได้ฟังมาพาคา" นักเล่านิทานหันกลับมามองคนที่ยกให้ตนเป็นนาย "จากสายลม จากผืนดิน จากผู้คน แค่เสียงมันตีกันไปหน่อยข้าเลยต้องจดเรียบเรียงมันขึ้นใหม่" เขาอธิบาย
คนฟังหรี่ตามองอย่างไม่เชื่อ ทำท่าจะบ่นอะไรยืดยาวแต่เออร็อด อาเรียไม่ได้สนใจ เขาหันกลับไปมองหน้าต่างของตน แล้วโวยวายกลบเสียงบ่นที่กำลังจะเริ่ม
"บ้าจริง! เพราะพวกเจ้าแท้ๆข้าเลยพลาดฉากองค์ราชาเสด็จผ่านประตูวังเลยเห็นไหม!"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in