เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
แปลบทสัมภาษณ์ช่วงคัมแบค The Name Chapter: FreefallLillyv_
TXT Talks The Name Chapter: Freefall การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และความเจ็บปวดที่ยังคงเพิ่มขึ้น
  • "ฉันรู้สึกว่าพวกเราไม่ได้อยู่ในเนเวอร์แลนด์อีกต่อไปแล้ว"
    บทความโดย : SARA DELGADO 
    13 ตุลาคม 2023

    ในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่ที่พวกเขาเดบิวท์ TXT (Tomorrow X Together) มักจะเปิดรับแนวคิดแบบผสมผสาน (eclecticism) มาโดยตลอด แต่พวกเขาได้ก้าวไปอีกขั้นในอัลบั้มเต็มชุดที่สาม The Name Chapter: Freefall 

    เมื่อพวกเขาเริ่มเข้าสู่เรื่องราวต่างๆ TXT ก็ถักทอเรื่องราวที่สลับซับซ้อนเข้าด้วยกัน โดยการบอกเล่าผ่านเลนส์ของกลุ่มเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่ง เริ่มจาก The Dream Chapter ซี่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงจากวัยเด็กสู่วัยรุ่น อาศัยสุนทรียศาสตร์ที่มีชีวิตชีวา และมีการแต่งเนื้อร้องแบบมองโลกในแง่ดี จากนั้นก็มาถึงบทที่เป็นกึ่งๆความรู้สึกหดหู่และสิ้นหวังอย่าง The Chaos Chapter ซึ่งทำลายภาพลวงตาของความฝันจนแตกละเอียด การนำเสนอปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริง และความรู้สึกถึงภาระหน้าที่อันเลือนราง อย่าง The Name Chapter ที่ปรากฏอยู่ในหน้าสุดท้าย (จนถึงตอนนี้) ในหนังสือเล่มใหญ่ของ TXT เล่มนี้ 

    "The Name Chapter เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับช่วงที่คุณทำให้ตัวตนและชื่อของคุณแข็งแกร่งขึ้นเมื่อคุณเติบโตเป็นผู้ใหญ่” แทฮยอนอธิบายกับ Teen Vogue เมื่อต้นปี ซึ่งเป็นตอนแรกของ chapter นี้อย่าง Temptation ถูกนำเสนอสู่สายตาชาวโลก โดย Temptation เป็นการมองไปที่ Peter Pan เพื่อหาแรงบันดาลใจในการพรรณนาถึงความปรารถนาในความไร้เดียงสาที่หายไป แต่ Freefall ไม่มีเวลาสำหรับเทพนิยายอีกต่อไป เหล่าเด็กหนุ่มกำลังเดินทางจากทุ่งหญ้าอันงดงามของเนเวอร์แลนด์ สู่ถนนที่เต็มไปด้วยภาพวาดบนความเป็นจริงที่คุณจะต้องต่อสู้เพื่อให้ความฝันของคุณประสบความสำเร็จ 



    เหมือนกับที่บอมกยูได้ชี้ให้เห็นในระหว่างงานโชว์เคสของอัลบั้มใหม่ เพลงสุดท้ายของ Temptation อย่าง "Farewell, Neverland" ทำหน้าที่เชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับ Freefall โดยเริ่มต้นด้วย "Growing Pain" ซึ่งเป็นการลองเข้าสู่แนวเพลงแบบเมลทัลครั้งแรกของ TXT ก่อนหน้านี้ทางวงเคยปล่อยเพลง "Back for More" และ "Do It Like That" ที่เขียนโดย Ryan Tedder โดยเป็นการร่วมงานกับ Anitta และ Jonas Brothers ตามลำดับ

    จากเพลงซินธ์ป็อปยุค 80 ในเพลงไตเติ้ลที่โปรดิวซ์โดย Rock Mafia อย่าง "Chasing That Feeling" ไปจนถึงเพลงอาร์แอนด์บีอันไพเราะใน "Dreamer" เจอร์ซีย์คลับใน "Deep Down" และ "Happily Ever After" โดยในอัลบี้ม The Name Chapter: Freefall จะได้ค้นพบกับประสบการณ์ของ TXT ที่ไม่เคยมีมาก่อนในเพลงต้นฉบับทั้งเก้าเพลง พร้อมด้วยเพลงไตเติ้ลเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษที่มีแค่ในดิจิทัลเท่านั้นอีกด้วย




  • ก่อนการเปิดตัวอัลบั้ม Teen Vogue ได้พบกับสมาชิกทั้งห้าคนผ่าน Zoom เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการทำงานในอัลบั้ม การเดินทาง และ "การร่วงหล่น" ของพวกเขาในการเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

    Teen Vogue: ขอแสดงความยินดีกับอีกหนึ่งอัลบั้มที่ยอดเยี่ยมนะคะ ฉันอยากเริ่มต้นง่ายๆ เพียงให้คุณเลือกเพลงโปรดจาก The Name Chapter: Freefall ค่ะ

    แทฮยอน : สำหรับผม มันเปลี่ยนไปทุกวันครับ งั้นวันนี้ผมจะเลือก "Deep Down" 
    ยอนจุน : ส่วนผม "Growing Pain" ครับ 
    บอมกยู :  “물수제비” — หรือ “Skipping Stones” ครับ
    ซูบิน : สำหรับผมก็ "Skipping Stones" เหมือนกันครับ เพราะมันเป็นเพลงสไตล์อินดี้ร็อค ซึ่งผมชอบมาก และมันเป็นการทำเพลงแนวนี้ครั้งแรก ดังนั้นผมจึงชอบเพลงนี้มากๆครับ
    ฮยูนิงไค: ตอนนี้ผมเลือก "Dreamer" ครับ 

    TV: ฉันคิดว่าพวกคุณบางคนคงจะพูดว่า "Blue Spring" ซะอีก เพราะนั่นเป็นบทเพลงของคุณถึงโมอาที่พวกคุณเขียนร่วมกัน

    ฮยูนิงไค : *หัวเราะคิคิ* 

    TV: จริงๆ แล้วคุณได้เปิดเผยเพลงนี้ระหว่างทัวร์ครั้งล่าสุด Act: Sweet Mirage ใช่ไหม?

    แทฮยอน: ใช่แล้วครับ จริงๆ แล้วเราทำเพลง "Blue Spring" สำหรับทัวร์คอนเสิร์ตเพราะเราคิดว่ามันคงจะดีถ้าได้นำเสนอต่อโมอาแบบสดๆ เราจึงทำมันค่อนข้างเร็วก่อนทัวร์เพื่อที่เราจะได้ใส่ไว้ในเซ็ตลิสต์ครับ

    TV: ตอนแรกมันเป็นแค่เพลงตอนทัวร์ หรือมีแผนจะเพิ่มลงในอัลบั้มหลังจากนั้นมาตลอด?

    ฮยูนิงไค: ถ้ามีโอกาสเราคิดว่าใส่เพิ่มเข้าไปในอัลบั้มเลยก็ดีเหมือนกันครับ นั่นเป็นแผนที่คิดจะทำ โดยที่เรายังไม่รู้เลยว่าอัลบั้มจะเป็นแบบไหน และโชคดีที่มันเข้ากับอัลบั้ม The Name Chapter: Freefall ได้ดีจนเพิ่มมันเข้าไปในอัลบั้มได้ครับ 




  • Teen Vogye: ในวิดีโอ TMI ที่ปล่อยมาล่าสุด ซึ่งฉันคิดว่าน่าจะมาจากหนึ่งในไลฟ์ของคุณ บอมกยูบอกว่านี่เป็นอัลบั้มโปรดของเขานับตั้งแต่คุณเดบิวต์ แม้ว่าคุณจะชอบทุกอัลบั้มที่คุณปล่อยออกมาก็ตาม ทำไมคุณถึงชอบอัลบั้มนี้มากที่สุด?

    บอมกยู: โดยปกติแล้วเวลาที่ผมฟังเพลง (ต่อให้)ผมชอบแนวเพลงหลายๆ แนวแค่ไหน ผมก็มักจะเลือกเพลงที่มีไวบ์คล้ายๆกัน และมีไวบ์แบบเฉพาะเจาะจงอยู่ครับ อัลบั้มนี้มีหลากหลายแนวเพลง แต่ผมก็ยังสนุกกับมันมาก ผมชอบมันมากครับ ผมคิดว่าเรามีอะไรบางอย่างที่จะส่งถึงทุกคน และ(เพราะแบบนั้น)ผมจึงฟังมันมาจนถึงทุกวันนี้เลยครับ

    TV: ใช่เลย มันเป็นการผสมผสานกันที่ลงตัวมาก คุณมีแนวเพลงที่หลากหลายจริงๆ ในวิดีโอเดียวกันนั้น ยอนจุน คุณบอกว่าการเตรียมอัลบั้มนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณหมายถึงอะไร? เป็นเพราะตารางงานของคุณแน่นหรือเปล่า? เป็นเพราะว่ามันเป็นอัลบั้มเต็มหลังจากผ่านไประยะหนึ่งหรือเปล่า? มันแตกต่างหรือมีความต้องการมากกว่าครั้งก่อนๆ ของคุณอย่างไร? โดยเฉพาะอัลบั้ม The Name Chapter: Temptation เพราะฉันคิดว่าคุณก็ได้รวมแนวเพลงหลากหลายประเภทไว้ในนั้นเช่นกัน...

    ยอนจุน: ใช่ครับ ตามตารางเวลาตอนนั้น เราเขียนเนื้อเพลงในขณะที่เรากำลังทัวร์ ดังนั้นมันจึงค่อนข้างยุ่งยาก และมันก็ไม่ได้เร็วอย่างที่เราคิด นอกจากนี้ ตอนที่เราเขียนเนื้อเพลง เราก็ดำเนินงานตามค่ายเพลงของเรา เนื่องจากเราทุกคนมีความคิดและมุมมองเกี่ยวกับเพลงที่แตกต่างกัน และ(ต้องร่วมมือกันเพื่อหาทางเลือกที่ดีที่สุด)
    ฮยูนิงไค: เพราะนี่คือสตูดิโออัลบั้มของเราในรอบสองปีสี่เดือนครับ เราอยากจะทำให้แน่ใจว่าอัลบั้มของเราจะมีคุณภาพสูงสุด และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงมีคนจำนวนมากเข้ามาแบ่งปันไอเดียและข้อเสนอแนะครับ

    TV: เยี่ยมเลย เป็นกระบวนการทำงานร่วมกันที่ดีมาก ในขณะที่ฟังอัลบั้มนี้ ฉันอดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นว่าคุณได้อ้างอิงถึงเพลงตอนเดบิวท์ของคุณอย่างเพลง "Crown" ทั้งในเนื้อเพลง "Blue Spring" และในคำบรรยายภาษาเกาหลีของเพลง "Deep Down" ท่อน “머리에 솟아난 뿔은 나의 왕관이었다” ซึ่งแปลว่า "เขาที่งอกออกมาจากหัวของผมมันคือมงกุฎของผม" ทำไมคุณถึงตัดสินใจทำเพลงให้วนกลับไป และกลับมาเล่นเพลงแรกของคุณ?

    แทฮยอน: อัลบั้มนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับความเป็นจริง และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะเติบโต ซึ่งแน่นอนว่ามาพร้อมกับความเจ็บปวด — ความเจ็บปวดที่เพิ่มมากขึ้น (เป็นเรื่องธรรมชาติ) ย้อนกลับไปที่เพลง Crown ของเรา เพราะว่าในอีกแง่มุมนึงมันก็พูดถึงความเจ็บปวดเหล่านั้นเช่นกันครับ มีเขางอกออกมาจากหัวของฉัน ผมคิดว่ามันเจ็บปวดนะครับ แต่เพราะเรามีเขานั้น เราจึงสามารถเติบโตได้ จริงๆ แล้วมันคือมงกุฎ ไม่ใช่เขาครับ 







  • TV: อย่างที่คุณบอกไปแล้ว ตีมหลักของบทนี้คือการเติบโตและการก้าวไปสู่ความเป็นจริง ฉันรู้ว่าคุณมีกลุ่มเด็กชายอยู่ในเรื่องราวของคุณ แต่โดยส่วนตัวแล้ว อะไรคือช่วงเวลาในชีวิตของคุณที่คุณตระหนักว่าคุณไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว? "การร่วงหล่น" ของคุณคืออะไร?

    แทฮยอน: ผมคิดว่าตั้งแต่ผมได้มาร่วมงานกับบริษัทของพวกเรา  (นั่น)แสดงความเป็นจริง(ของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่)ให้ผมเห็นแล้วล่ะครับ

    TV: หมายถึง มันเกิดขึ้นตอนที่คุณได้ทำงานใช่ไหม? 

    แทฮยอน : ใช่แล้วครับ 

    TV : ความรับผิดชอบสินะ

    ยอนจุน: ใช่ครับ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับสิ่งที่แทฮยอนพูดนะครับ เนื่องจากเราอายุยังน้องตอนที่เราเริ่ม ผมคิดว่าการเข้าร่วมกับบริษัทก็เหมือนกับการกระโดดเข้าสู่สังคมและ "ร่วงหล่น" ไปสู่ความเป็นจริง (ของการเป็นผู้ใหญ่) แล้วครับ

    TV: มันต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แน่เลย แต่ตอนนี้คุณทำได้ดีมากนะ ดังนั้นมันจึงผ่านไปได้ด้วยดี

    ซูบิน: ขอบคุณนะครับ!
    ฮยูนิงไค : ขอบคุณมากครับ!

    TV : โอเค อีกหนึ่งคอนเซปต์ในอัลบั้มนี้คือความเศร้าโศก ตอนนี้เราทุกคนอยู่ในโลกของวัยผู้ใหญ่แล้ว อะไรคือสิ่งที่คุณคิดถึงที่สุดในวัยเด็กของคุณ? มีอะไรที่จะพาคุณย้อนกลับไปและนำความทรงจำดีๆ กลับมาบ้างไหม? 

    ยอนจุน: ผมคิดว่า สำหรับผม มันคือวันธรรมดาๆ ตอนที่คุณไปโรงเรียน และออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนครับ นั่นคือช่วงเวลาที่ผมอยากย้อนกลับไปมากที่สุด ผมคิดว่าการได้กลับไปจะทำให้ผมรู้สึกขอบคุณกับช่วงเวลาที่แสนล้ำค่าและความงดงามในสมัยนั้นครับ 

    TV:  ค่ะ สำหรับฉันคือการได้ดูการ์ตูนในตอนเช้าในช่วงสุดสัปดาห์ค่ะ 

    ทุกๆคน : *หัวเราะ*




  • TV: จากอาชีพการงานของคุณ ตอนนี้พวกคุณอายุได้ห้าปีกันแล้ว ซึ่งน่าเหลือเชื่อมากเพราะรู้สึกเหมือนพวกคุณเพิ่งเปิดตัวเมื่อวานนี้เอง คุณรู้สึกอย่างไรที่คุณเปลี่ยนแปลงหรือเติบโตขึ้นจากตอนที่คุณเป็นรุกกี้ตอนนั้น? อะไรคือความกลัวและความวิตกกังวลที่คุณมีในตอนนี้ หากเทียบกับตอนที่คุณเริ่มต้น?

    บอมกยู: ผมรู้สึกว่าเราเติบโตขึ้นมากทั้งแบบส่วนตัวและในฐานะทีม (และนั่นสามารถเห็นได้จาก)บนเวทีใหญ่ที่เราได้แสดงเมื่อเร็วๆนี้ครับ โดยส่วนตัวแล้ว ตอนที่เราเพิ่งเดบิวต์จนถึงช่วงครึ่งแรกของอาชีพของพวกเรา ผมไม่คิดว่าผมจะกังวลกับการขึ้นเวทีมากเกินไป แต่(เมื่อเวทีมีสเกลที่ใหญ่ขึ้น)ผมรู้สึกว่ามันทำให้ผมกังวลใจมากขึ้นอีกเล็กน้อย ผมรู้สึกเครียดและวิตกกังวลมากขึ้นเล็กน้อยในช่วงนี้ (แม้จะมีประสบการณ์ก็ตาม) ที่บอกว่า ทันทีที่ผมอยู่บนเวที ผมจะรู้สึกดีขึ้นทันทีเมื่อได้พึ่งพาเมมเบอร์คนอื่นๆครับ 

    TV: ทำไมคุณถึงรู้สึกว่าคุณประสบกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนั้น? ทำไมตอนนี้คุณถึงรู้สึก "กดดัน" มากขึ้นเมื่อขึ้นเวที? มันก็แค่สเกลนะคะ?

    บอมกยู: ช่ายครับ (ผมก็คิดแบบนั้น) จริงๆแล้วผมพยายามอย่างหนักที่จะหาคำตอบนะครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าทำไม ผมกำลังพยายามค้นหา(คำตอบที่เป็นรูปธรรม) แต่(ผมรู้ว่าผม)กังวลมาก(ในเวทีใหญ่ๆหรือท่ามกลางผู้คนจำนวนมากช่วงนี้)

    TV: เดี๋ยวคุณก็จะหาคำตอบได้เองค่ะ แล้วเมมเบอร์ที่เหลือรู้สึกเหมือนกันไหม หรือจากประสบการณ์ของคุณ คุณรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อคุณอยู่บนเวทีที่ยิ่งใหญ่ตอนที่คุณมีเวิร์ลทัวร์และ Lollapalooza ในครั้งที่2?


    แทฮยอน: โดยส่วนตัวแล้ว (ใช่อย่างแน่นอน) เพราะเราอยู่บนเวทีที่ใหญ่ขึ้น และเรายังได้แสดงการแสดงของเราสำหรับเพลงพรีรีลีสในเวทีที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ผมคิดว่าผมได้สั่งสมประสบการณ์ และได้เพลินเพลินไปกับช่วงเวลา (บนเวที) มากขึ้น มันก็สนุกดีนะครับ 

    TV: บอกความลับของคุณกับบอมกยูสิคะ มันจะได้ทำให้เขารู้สึกสบายใจมากขึ้นก่อนขึ้นเวทีใหญ่ๆ

    ทุกๆคน : *หัวเราะ* 


  • TV: ในส่วนหนึ่งของ Act: Sweet Mirage คุณมีตารางคอนเสิร์ตอีกสองสามครั้งที่กรุงโซลในช่วงปลายปีนี้ และแน่นอนว่าช่วงสิ้นปีถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของการแสดงขนาดใหญ่ คุณมีเซอร์ไพรส์อะไรบ้างสำหรับการแสดงครั้งต่อไป?

    แทฮยอน: เรามีคอนเสิร์ตปิดท้ายที่โซลในเดือนธันวาคม ดังนั้นเราจะทำให้เป็นการปิดฉากที่ยิ่งใหญ่(และมีเกียรติ)ที่สุดเลยครับ มันจะดูฉูดฉาดขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย และเราจะมีเซ็ตลิสต์ที่ยาวมาก ทุกคนตั้งรอได้เลยครับ

    TV: เซ็ตลิสต์ยาวๆ โอเค กลับมาสู่ The Name Chapter: Freefall มีจุดไหนบ้างที่คุณตื่นเต้นที่สุดที่แฟนๆ จะได้เห็นตอนที่คุณแสดงเพลงเหล่านี้แบบสดๆ? ฉันได้ยินมาว่าท่าเต้นสำหรับเพลงไตเติ้ลเป็นแนวโว้กหน่อยๆใช่ไหมคะ..

    ฮยูนิงไค: ใช่ครับ อย่างที่คุณบอก จะต้องมีท่าที่โว้กนิดหน่อยในช่วงแด๊นซ์เบรค ผมจึงคิดว่าเราสามารถทำให้มันกลายเป็นชาเลนจ์ได้ และถ้ามันกลายเป็นกระแส เราก็จะชอบมันเหมือนกัน มันไม่ได้ยากขนาดนั้น ผมเลยคิดว่ามันสามารถเป็นไวรัลได้ครับ

    TV: เราจะตั้งตารอสิ่งนั้นแน่นนอน 100% แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอัลบั้ม แต่คุณได้ร่วมงานกับศิลปินคนใหม่มากมายในปัจจุบันอย่าง Anitta, Coi Leray เมื่อปีที่แล้ว และ Jonas Brothers.... ฉันจะไม่ถามคุณว่าคุณอยากจะร่วมงานกับใครในอนาคตเพราะฉันรู้ว่าคุณได้ตอบคำถามนั้นหลายครั้ง แต่ฉันอยากรู้ว่าคุณได้เรียนรู้อะไรจากการร่วมงานกับศิลปินคนอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มที่คุณอยู่ มีประสบการณ์หรือบทเรียนที่น่าจดจำที่พวกเขาสอนคุณหรือคุณเคยรู้สึกทึ่งที่ได้ร่วมงานกับศิลปินที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้หรือไม่?

    แทฮยอน: แน่นอนครับ ในด้านดนตรี เราเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากพวกเขา โดยส่วนตัวแล้ว (ผมรู้สึกทึ่งนิดหน่อย) เมื่อได้พบกับ Jonas Brothers ผมคิดว่า "พวกเขาเป็นดาราดังมาก แต่พวกเขาถ่อมตัวมากครับ พวกเขาใจดีมาก อ่อนโยน และเป็นคนดี" ผมก็เลยคิดว่าผมอยากจะเป็นเหมือนพวกเขา แม้ตอนที่ผมกลายเป็นดาราที่ยิ่งใหญ่ แต่ผมก็ยังอยากจะถ่อมตัวและเป็นคนที่มีใจดีเหมือนพวกเขา แถมพวกเขายังหล่อมากอีกด้วยครับ

    ทีวี: พวกเขาเริ่มต้นในช่วงอายุที่พอๆกับคุณเลยนี่คะ

    ฮยูนิงไค: ถูกต้องครับ



  • TV: เนื่องจากอัลบั้มนี้มีแต่เรื่องล้มลุกคลุกคลาน คุณเคยตกหลุมพรางกับอะไรบ้างไหมคะ? คุณมีความหลงใหลอะไรใหม่ๆไหม? ฉันรู้ว่าสำหรับซูบิน น่าจะเป็นอนิเมะ...

    ซูบิน: *หัวเราะและพยักหน้า*

    TV: คุณเอ็นจอยไปกับอะไรมากที่สุดตอนที่คุณไม่ได้ทำงาน?

    ยอนจุน: ผมชื่นชอบการฟังและสะสมแผ่นเสียงมากครับ เมื่อถึงวันเกิดของผม ผมถึงกับขอให้เมมเบอร์และเพื่อนๆ มอบแผ่นเสียงที่พวกเขาชอบและตามรสนิยมของพวกเขามาให้ผมด้วยแหละครับ

    TV: แล้วพวกเขาทำตามไหมคะ เขามอบแผ่นเสียงให้คุณหรือเปล่า?

    ยอนจุน : ครับ เมมเบอร์ทุกคนมอบแผ่นเสียงให้ผม!

    TV : เยี่ยมเลยค่ะ มีใครอยากแชร์สิ่งที่คุณชอบช่วงนอกเวลางานอีกมั้ยคะ?

    ซูบิน: สำหรับผม อย่างที่คุณบอก ผมชอบดูละครกับอนิเมะหลังเลิกงานครับ แต่ถ้าหากเรามีวันหยุด ผมมักจะชอบไปเดินเล่นอย่างไม่มีจุดหมายปลายทางครับ ผมจะเลือกไปแถวๆ — กังนัม อิแทวอน .. — ไปที่นั้นพร้อมกับแผ่นที่ของผม แล้วก็เดินไปรอบๆ ถ้าผมเห็นคาเฟ่ หรือร้านเสื้อผ้าทีสะดุดตา ผมก็จะเดินเข้าไปและดูว่ามีอะไรอยู่ที่นั่นบ้าง นี่คือสิ่งที่ผมชอบทำในช่วงนี้ครับ ใช้เวลาทั้งวันไปกับการเดินไปเรื่อยเปื่อยโดยไม่มีจุดหมาย ไปตามที่ที่ผมชอบครับ

    TV: ความวิตกกังวลในการเข้าสังคมของฉันจะไม่ปล่อยให้ฉันเดินไปเรื่อยๆโดยไร้จุดหมายนะคะ แต่ฉันก็ภูมิใจในตัวคุณที่คุณทำแบบนั้นได้ ฟังดูน่ารักจังเลยค่ะ

    ทุกคน: *หัวเราะ* 




    TV: ในด้านดนตรี ช่วงนี้เพลย์ลิสต์ของคุณมีเพลงอะไรน่าฟังบ้าง? มีเพลงอะไรบ้างที่คุณฟังในช่วงนี้และรู้สึกว่าเข้ากันได้ดีกับ The Name Chapter: Freefall?

    แทฮยอน:  ช่วงนี้ผมฟังเพลงร็อคเยอะมากครับ เพลงของ Bon Jovi, Guns N' Roses พวกเขาคือศิลปินที่ผมชอบครับ

    TV : รุ่นเดอะเลยนะคะนั่น

    ซูบิน: ผมคิดว่าเมมเบอร์น่าจะรู้เรื่องนี้กันอยู่แล้ว แต่ "Skipping Stones" คือเพลงที่ผมชอบที่สุดในอัลบั้มใหม่นี้ และ(หนึ่งใน)ผู้เขียนเพลงนี้คือคุณ ฮันโรโร เธอเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงครับ ผมเป็นแฟนคลับตัวยงของเธอมานานมาก แต่เมื่อไม่นานมานี้ผมได้กลับมาฟังเพลงของเธออีกครั้ง ผมชอบเพลงของเธอมากๆครับ หนึ่งในนั้นมีเพลงของเธอที่ชื่อว่า "정류장" และผมคิดว่ามันเข้ากันได้ดีกับอัลบั้มของเรา เพราะมีไวบ์ที่คล้ายกันมากจริงๆครับ 

    TV : วนกลับมาที่โมเม้นเดิมอีกแล้วสินะคะ

    ซูบิน : ใช่ครับ *หัวเราะ*

    TV : อัลบั้มกำลังจะถูกวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 13 นี้ ซึ่งวันนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นวันที่น่ากลัวและโชคร้ายมาก หวังว่าคุณจะไม่ได้รับส่วนที่โชคร้ายนั่นนะคะ แล้วคุณมีความเชื่อเรื่องโชคลางบ้างไหมคะ? คุณเชื่อเรื่องนั้นบ้างไหม?

    แทฮยอน: ผมไม่คิดว่านี่คือเรื่องของความเชื่องมงายนะครับ แต่(ผมจะขอกลับคำ)ผมขอให้ทุกคนมาฟังเพลงของพวกเรา เยอะๆ นั่นมันก็แทบจะเป็นเรื่องน่ากลัวแล้วครับ

    TV: โอเค เยี่ยมไปเลยค่ะ คุณกำลังสะกดจิตให้ผู้คนชอบอัลบั้มนี้สินะคะ

    ฮยูนิงไค: *หัวเราะ*

    TV: ฉันคิดว่ามันน่าจะได้ผลนะคะ

    ฮยูนิงไค: ผมคิดว่าความเชื่อถือทางไสยศาสตร์สนุกดีนะครับ ผมสนใจในเรื่องนี้มากๆ 

    TV: เพื่อเป็นการสรุปทุกๆอย่าง คุณอยากจะอธิบายอัลบั้มนี้ด้วยคำคำเดียวไหม?

    ฮยูนิง: อลังการ
    แทฮยอน: มาสเตอร์พีซ (ผลงานชิ้นเอก)
    บอมกยู: ชอบที่สุด
    ยอนจุน: สุดยอด
    ซูบิน: วัยหนุ่มสาว

    TV: เอามารวมกันทั้งหมดก็จะเป็น ผลงานชิ้นเอกสำหรับวัยหนุ่มสาวที่สุดแสนจะอลังการงานสร้างที่สุดยอดที่สุดและชื่นชอบมากที่สุดของคุณ 

    ทุกคน: *หัวเราะ*

    แทฮยอน: ใช่เลยครับ

  • ***สามารถรับชมวิดีโอต่างๆผ่านทางข้อความตัวสีเหลืองในบทความด้านบนได้เลยนะคะ** 

    ช่องทางการติดตามหนุ่มๆ TXT 
    IG :  txt_bighit , yawnzzn (ยอนจุน) , page.soobin (ซูบิน) 
    Weverse : TOMORROW X TOGETHER

    สุดท้ายนี้..หากแปลผิดพลาดตรงไหนก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ 🙇‍♀️ 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in