เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
WWOOF till the sun goes downkookkookisachick
did not go as planned และความน่ารัก vol.1
  • มันไม่เป็นไปตามแผน..
    ความขรุขระของการบินเดี่ยวรอบนี้มีปรากฎตั้งแต่เราลงจาก N'EX สู่สถานีโตเกียว
    อยากอุทานว่าพระเจ้าช่วย แต่ดูกระแดะอะ เพราะความเป็นจริงตอนเงยหน้ามาจากใต้ดินคือ
    ไอ้สัสสสสสสสสสสส บ้าไปแล้ววววววววว
    เฮี้ยะ! เป็นสถานีแห่งความวุ่นวาย หรือเพระาตอนเราไปถึงมันช่วงที่เค้ากำลังเป็น rush hour พอดี
    ซะลารี่มัง ( Salary Man) ชุดสูทดำเดินกันขวักไขว่
    ตอนนั้นเรางงเป็นไก่ตาแตก จับทิศไม่ถูก เหมือนทางมีเป็นหกแฉก จะเดินไปไหนวะไอ้บ้า
    แต่ที่แน่ๆคืออีก 20 นาทีเราจะตกชินคันเซ็นไป Aomori แน่นอน
    ที่ต้องทำคือหา Tohoku Shinkansen จากจอบนหัวให้เจอก่อน
    แต่ความฝันของชึ้นคือซื้อข้าวกล่องไปนั่งกินชิลลๆ์บนรถไฟนี่หว่า ผายมือไปที่ร้านขายข้าวกล่อง.. 
    ร้านไหนวะ.. คือมันเยอะร้านไม่พอชนิดข้าวกล่องมันก็ยังเยอะมากๆ แล้วเราแม่งเป็นประเภทชอบดู ค่อยๆดูและพิจารณาโอ๊ะอันนี้ข้าวกล่องหอยลาย อันนี้เนื้อสับ อันนี้อูนิกับปลาไหล
     โว้ย กุตกรถไฟแน่ๆ 
    คือชุ้นจะตกรถไฟไม่ได้ หยิบน้ำหยิบข้าวแล้วไปจ่ายตังค์ซะนังบ้า ก็ต้องสะกดจิตกันไปแบบนี้
    ก็ขึ้นมาบนชานชาลาเนอะ คืองี้ ช่วงมอต้นเราก็ดูซีรีส์ญี่ปุ่นนะคะ 
    Gokusen นี่ชอบมากกก ก็มีภาพช่วง rush hour ของบ้านเขาอยู่บ้างแหละ
    และเรามาทันตอนเปลี่ยนพนักงานในขบวน แม่มน่ารักมากๆๆๆๆๆ
    อย่างกับในซีรีส์เลยอะคุณ เขาก็โค้งให้กัน พูดทีโค้งทีโดยมีเราพากย์ซับไทยอยู่ในใจ
     คงจะประมาณ
     - ฝากตัวด้วยนะคะรุ่นพี่ *โค้ง
    งานหนักหน่อยแต่ก็ช่วยตั้งใจทำงานด้วยะนะคะ *โค้ง
    เรามาตั้งใจทำงานกันเถอะจ้ะกิโกะจัง *ตาเป็นประกายแปดแฉก
    สรุปคือชอบมาก 
    ตัดภาพมาที่ขึ้นมาบนชินคันเซ็นไม่ถึงชั่วโมง หลับค่ะ 
    หลับคากล่องข้าวไม่เหลือความเก๋ใดๆให้พูดถึง 
  • สำหรับเรา ระยะทางเกือบ 900 โลกับเวลาที่น่าจะไม่เกินสามชั่วโมงนิดๆนี่พีคนะ
    แต่ความพีคมันอยู่หลังจากนี้ลากไปยาวๆเลยต่างหาก โผล่จากสถานี Shin-Aomori มา 
    ก็เหมือนคนบ้าเลย หน้าผากมีคำว่า 'งง' แปะอยู่ มันก็คือต่างจังหวัดอะเนอะ มีความบ้านๆ 
    ให้ฟีลเหมือนเรามานครสวรรค์อะ

    รถไฟสาย JR มันสุดแค่ตรงนี้ แต่บ้านโฮสต์เราอยู่ตืนเขา Iwaki San ในชานเมือง Hirosaki
    เราต้องต่อ Local Train เข้าไปที่ฮิโระอีก ซึ่งก็ไปทำเรื่องไว้เยอะ
     แต่คนเขาน่ารักมากๆเลยะนะคะ   เริ่มตั้งแต่ยืนรอรถไฟไปฮิโระ 
    เราทำแผ่นพับปลิวเพราะลมแรงมากๆ คุณยามและคนแถวนั่นวิ่งไล่ช่วยกันตะครุบมาคืนเราที่ยืนอ้าปากค้างอยู่  เป็นความประทับใจแรกเลย 
    จนมาถึงสถานี Hirosaki เราต้องรอบัสหมายเลข 16 ต่อเข้าไปที่ yoyoi-kitaguchi แล้วโฮสท์จะมารอรับเราตรงนั้น ซึ่งนัดกันไว้ว่า เมื่อเรามาถึงสถานีนี้ ให้โทรหาเค้าก่อนเราเตรียมตัวมาดีมาก ซื้อ sim 2 fly ที่ใช้โทรได้มา
     แต่เราก็ไม่รู้ว่าเพราะความบ้านนอกของเราเปล่านะ ซิมมันใช้ไม่ได้อะเห้ยยยยย 
    ร้อนใจแล้วค่ะตอนนั้น ทำไงดีวะนั่นไง information ตัวเบ้อเริ่ม เราก็เข้าไปค่ะ 
    มีพนักงานผู้หญิงอยู่ 3 คนเราก็ถามเค้าว่ามีตู้โทรศัพท์ใกล้ๆไหม 
    เพราะเราใช้เป็นอยู่  คือนอกจากจะไม่รู้ว่าตู้มีไม่มี เขาก็พูดภาษาอังกฤษกันไม่ได้ซักคนด้วย
    แต่เค้าก็พยายามจะช่วยเราให้สุดเหมือนกัน เขาให้เราเขียนชื่อโฮสท์ 
    ซึ่งก็คือคุณชิระโทริไว้ที่กระดาษ แล้วการช่วยเหลือของเค้าคือเปิดสมุดหน้าเหลืองหาเบอร์โทร
    แล้วยกโทรศัทพ์บ้านมาโทรหาโฮสท์ให้เรา
    วินาทีนั้นคือแบบแทบอยากจะกระโดดกอดเขา 
    มันบ่ายแก่ๆแล้ว เราใจร้อน ร้อนใจมาก คือตรงๆเจ้าฮิโรซากิเนี่ย สำหรับเราก็บ้านนอกนะ       
    มีห้างมีสตาร์บัค แต่ให้ฟีลบ้านๆเลย 
    แต่สำหรับความใจดีของคนในเมืองนี้ที่มีกับเรามันล้นมากอะ   
    เรายืนๆรอบัสอยู่ ก็มีนักเรียนตัวน้อยกับพี่สาวมาชวนคุย พูดอังกฤษคล่องกันทั้งสองคน ชวนคุยจนรถเรามา แล้วเขายืนรอส่งเราขึ้นบัสจนบัสออก 
    บนบัสก็พีคอีก นี่อย่างกับคนแปลกหน้าอะหรือชั้นเป็นฆาตรกรวะ ตอนนั้นฟีลให้มาก ทุกคนบนนั้นหันมามองนี่ที่หน้าไทยสุดๆ มาพร้อมกระเป๋าแบ็คแพ็ค 1 ใบ เป๋าลาก 1 ใบ สภาพใกล้ๆกับซอมบี้ใน WWZ 
    ชั้นจะบอกว่าชั้นก็ระแวงโว้ย 5555555555555555 คือเราไม่รู้ว่า yoyoi-kitaguchi มันจะอยู่ตรงไหน
    คนขับก็บอกเราไม่ได้ ฉนั้นตอนนั่งบนรถมันเป็นอะไรที่แบบ เห้ยนั่นป้าย! เห้ยไม่ช่ายยย ยังไม่ถึง!
    จนเรามองเห็นไกลๆ คือมันไกลมากจริงๆนะ จะขึ้นภูเขาแล้วอะ เราเห็นป้ายว่า yayoi 
    เราก็ถามคนขับซ้ำว่า นี่ใช่มั้ยคะ ยาโย่ยคิตะกุชิ เค้าก็ ไฮ่! นี่ก็ลง ยืนได้ซักชั่วโมงนึง ไหนโฮสท์กุล่ะ.. 
    ไหนว่ามารอแล้ว  ซักพักเจอเก๋งปอนๆคันนึงมาจอดเทียบแล้วถามว่า Kook?
    โอโฮะะะ นี่แทบจะโค้งติดพื้น โฮสท์ชุ้นเองงงงงงแงงงงงงงใจความก็คือ กุลงผิดป้าย.. 
    โฮสท์บอกป้ายที่ต้องลงมันอีกป้ายข้างหน้าโว้ย!  เอ๋า ก็คนขับบอกว่าไฮ่นี่ก็ลงง่ะ 
    สรุปคือที่โฮสท์รู้ว่าเรายืนอยู่ตรงนี้เพราะคนขับไปบอกแกว่ามีผู้หญิงท่าทางแปลกๆยืนงงๆอยู่ป้ายก่อนหน้า ไปดูให้หน่อย ซึ่งคนนั้นก็ดิชั้นเองค่าา /ผายมือ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in