อัปเดต ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565
สถานะ: สัมภาษณ์วีซ่ารอบ 3 ไม่ผ่าน และยอมแพ้กับออแพร์อเมริกาแล้วค่ะ
...................................................................................................
เราคิดว่าหลายคนคงรู้เกี่ยวกับโครงการออแพร์อเมริกาแล้ว แต่อเกริ่นสักนิดเนอะ โครงการออแพร์อเมริกาเป็นโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมถือวีซ่า J-1 และจำเป็นที่จะต้องทำเอกสารผ่านเอเจนซีเท่านั้น ไม่สามารตกลงปลงใจกับโฮสต์และดำเนินเอกสารเองได้แบบยุโรปหลายประเทศ โดยโครงการออแพร์นี้นอกจากจะต้องเลี้ยงลูกให้กับครอบครัวอุปถัมป์และจะได้อาศัยอยู่กับครอบครัวอุปถัมป์ชาวอเมริกันเป็นระยะเวลา 1-2 ปี ซึ่งจะได้รับโอกาสในการในการลงคอร์สเรียนในค่าเรียนไม่เกิน 500เหรียญ ได้รับวันหยุดแต่ละสัปดาห์ที่ 1วันครึ่ง-2วัน และมีวันหยุดพักร้อนยาว 2 สัปดาห์ และเมื่อจบโครงการสามารอย่ท่องเที่ยวต่อในอเมริกาได้ต่ออีก1เดือน โดยผู้สมัครเข้าร่วมโครงการจะต้องมีอายุไม่เกิน27ปี (เท้าแตะอเมริกาภายในอายุ27) แนะนำว่าถ้าสนใจ อยากให้เริ่มทำเอกสารตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะเอเจนซี่ส่วนใหญ่จะรับถึงอายุ 25 ค่ะ อาจจะมีบางที่รับถึง26 แต่น้อยมากเพราะกระชั้นชิดมาก มีคนเคยทำได้แบบที่อาย27เป๊ะเท้าแตะอเมริกามาแล้วก็มีค่ะ 555555555 ซึ่งสมัครได้ทั้งหญิงและชาย แต่บางเอเจนซีเท่านั้นที่รับเพศชาย ลองสอบถามกันแต่ละที่ดูนะคะ
ตัวเราเองรู้จักโครงการออแพร์ครั้งแรกเมื่อตอนปี 2018 ค่ะ และศึกษาข้อมูลมาตลอด ได้ลองเข้าไปฟังสัมนาของหลาย ๆ เอเจนซีมาและตัดสินใจสมัครทำเอกสารกับเอเจนซีนึงค่ะ
ส่วนนี้จะเป็นไทม์ไลน์การทำเอกสารของเราเอง
1. วันที่ 7 มกราคม 2020 - ทำการเข้าไปกรอกใบสมัครโครงการออแพร์อเมริกา จำราคาไม่ได้ แต่น่าจะ 7,000 บาท ใบสมัครมีอายุหกเดือน (ส่งเอกสารทั้งหมดภายในระยะเวลาหกเดือนเพื่อออนไลน์หาโฮสต์)
2. เริ่มเก็บชั่วโมงเลีี้ยงเด็กวัย 3เดือน - 4ขวบปี ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2020 - 20 มีนาคม 2020
3. 12 มีนาคม 2020 ได้รับใบขับขี่ชนิดชั่วคราว 2ปี
4. 21 มีนาคม 2020 อบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิต 1,800 บาท (อันนี้เอเจนซีไม่บังคับนะคะ เราไปอบรมเองค่ะ)
5. 7 พฤษภาคม 2020 ตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและฉีดวัคซันTDAP+MMR 3,300 บาท (แต่ละโรงพยยาบาลและแต่ละเอเจนซีมีใบตรวจร่างกายและราคาที่ต่างกันออกไปค่ะ)
6. 7 พฤษภาคม 2020 ส่งเอกสารตามเช็คลิสต์เอเจนทั้งหมดทางอีเมล์ และนัดสัมภาษณ์รอบสดท้ายก่อนออนไลน์กับเอเจนซี
7. 11 พฤษภา 2020 สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษรอบสุดท้ายกับเอเจนซีเพื่อรอออนไลน์ในระบบ
8. 5 มินายน 2020 อัปโหลดวีดีโอลงระบบ
9. 9 มินายน 2020 ทำแบบทดสอบ PREDOT เรียบร้อย
10. 22 มินายน 2020 ทางอเมริกาประกาศระงับวีซ่า J-1 ชั่วคราว จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2020
11. 16 กรกฎาคม 2020 ได้รับอีเมล์จากศูนย์ใหญ่ที่อังกฤษว่าโปรไฟล์ได้ออนไลน์บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการแล้ว
12. 9 สิงหาคม 2020 โฮสต์บ้านแรกเข้ามาวิวโปรไฟล์ (นัดวีดีโอคอลสไกป์ 3 ครั้ง และคุยอีเมล์กันทุกอาทิตย์ ล่าสุดที่วีดีโอคอลคุยกันคือ 6 ตุลาคม 2020)
13. 1 ตุลาคม 2020 โฮสต์บ้านที่สองเข้ามาวิวโปรไฟล์ นัดคุยสไกป์วันที่ 6 ตุลาคม 2020 แต่โฮสต์ยกเลิกเนื่องจากติดธุระทำฟัน
14. 6 ตุลาคม 2020 วีดีโอคอลคุยกับโฮสต์บ้านแรก และตกลงแมทช์กัน
15. 13 ตุลาคม 2020 โฮสต์บ้านที่สามเข้ามาวิวโปรไฟล์ แต่เราปฏิเสธไป
16. 20 ตุลาคม 2020 ระบบขึ้นให้กดยืนยันการแมทช์กับโฮสต์ในระบบ
17. จำวันที่ไม่ได้ แต่ทางการอเมริกาอนุโลมให้ครอบครัวในอเมริกาที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น เป็นบุคลากรแถวหน้าในการทำงานเกี่ยวกับโควิด ; หมอ พยาบาล นักวิจัย etc. หรือ ครอบครัวที่มีลูกเป็นspecial need โดยมีคำเรียกคนกลุ่มนี้ว่า NIE สามารถทำเรื่องเอกสารรับออแพร์เข้าอเมริกาได้ก่อนกำหนดการระงับวีซ่าสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2020
18. 12 พฤศจิกายน 2020 8.30 สัมภาษณ์วีซ่า แต่ไปถึงก่อนเวลาเลยได้สัมภาษณ์เร็ว เสร็จเร็วมากเลยน่าจะประมาณ 7.36 ผลคือไม่ผ่าน
19. โฮสต์ตัดสินใจรอและอยากให้สัมภาษณ์อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเลื่อนวันเดินทางออกไปด้วย
20. 1 กุมภาพันธ์ 2021 8.30 สัมภาษณ์วีซ่าครั้งที่2 ไปถึงก่อนเวลาเหมือนเดิม และได้สัมภาษณ์ก่อนเวลานิดหน่อย แต่จำเวลาไม่ได้ ผลคือไม่ผ่าน
21. เราโดนลบโปรไฟล์ในอีก 3วัน หลังจากการสัมภาษณ์วีซ่ารอบ2 ไม่ผ่าน และโฮสต์ตัดสินใจออกจากเอเจนซีนี้ด้วยเช่นกันหลังจากเราโดนลบโปรไฟล์
กะว่าจะทำงานนี้ต่อไปอีกพักใหญ่เพื่อเก็บประสบการณ์เกี่ยวกับเด็กให้มากกว่านี้เพื่อพิสูจน์ตัวเองกับท่านกงสุลและทางอเมริกาว่าเราสามารถเข้าร่วมโครงการได้เต็มที่และเพิ่มศักยภาพให้กับตัวเองในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในการทำงานจริงกับเด็ก
เรายังมีความหวังที่จะสัมภาษณ์วีซ่าในรอบที่3 ในโครงการออแพร์อเมริกานี้ เรายังหวังว่าเราจะมีโอกาสได้ออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างเต็มที่เพื่อกลับมาต่อยอดอาชีพของเราในอนาคตที่ไทยหลังจากจบโครงการ
อดน, 1 เมษายน 2021