เมื่อไม่นานมานี้ ไม่เกิน 3-5 ปีหรอก เคยมีข่าวเจอนิ้วคนงานทำไส้กรอกในไส้กรอกอีสานบ้านเรา นั่นนับว่าสยองแล้ว แม้เราจะได้รู้ว่าคนงานดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่ดี แม้แบบไม่ครบ 32 ก็ตาม

สำหรับในชิคาโก ปี ค.ศ. 1897 ออกจะเป็นอุบัติเหตุที่จบไม่สวยเล็กน้อย เมื่อมีลูกค้ารายนึงซวยเจอชิ้นส่วนกระดูกข้อต่อนิ้วเท้าของมนุษย์เพศหญิงจากในไส้กรอกของบริษัทดังรายใหญ่ (อ้วก) ของนาย Adolph Luetgert (December 27, 1845 – July 7, 1899) แถมเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่ เมิื่อภรรยาคนปัจจุบันของเขาหายไปตัว ครั้งแรกเขาบอกคนอื่นว่าเธอไปเยี่ยมญาติสักพัก ก่อนจะกลายเป็นการหนีตามชู้รักไปซะงั้น?! 

มันเกิดขึ้นได้อย่างไร! 

ก่อนอื่นเราต้องขอกล่าวถึงปูมหลังชีวิตของนายอดอล์ฟ ลุตท์กัทช์ เขาเกิดที่เยอรมัน เป็นบุตรแฝดคนที่สาม จากทั้งหมด 11 คนในครอบครัว ดูเหมือนว่าสำหรับคนอื่นๆ เขาดูจะเป็นแฝดนรกสำหรับครอบครัว เมื่อออกจากการเรียนเมื่ออายุ 14 ก็ทำงานเป็นคนฟอกหนังจนถึง 19 เขาก็เดินทางไปแสวงโชคในลอนดอนสักพัก ราวๆ หกเดือนกับความล้มเหลว ก็เผ่นแน่บมานิวยอร์กแทน ไต่เต้าจากที่นั่นที่นี่ในฐานะช่างฟอกหนัง มาจนเริ่มกิจการของตนเองได้ในปี 1872 โดยเริ่มจากธุรกิจสุรา ในระยะเวลาเดียวกับที่เริ่มต้นชีวิตคู่กับภรรยาคนแรกแรกในปี 1871 Caroline Roepke อยู่กันจนลูกสอง เธอก็ตายจากไปอย่างรวดเร็วในปี 1877

ภายหลังในปี 1879 เขาก็เริ่มต้นธุรกิจผลิตไส้กรอกในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เคียงคู่เมียคนที่สอง Louisa Bicknese ซึ่งแต่งงานกันหลังจากคนแรกตายไปได้ 2 เดือน คงเป็นรักแรกพบคู่แท้ที่หากันเจอจริงๆ ธุรกิจไส้กรอกรุ่งเรืองหนักมากจนเขาได้ฉายาราชาไส้กรอก ทุกอย่างไปได้สวยจนกระทั่ง 1 พฤษภาคม 1897 ราชินีไส้กรอกของเขาหายตัวไปอย่างลึกลับ

ซ้าย Louise Luetgert ;ขวา Adolph Luetgert ภาพจาก bizarrepedia.com


เริ่มแรกเขาบอกคนอื่นไปว่าเธอเดินทางไปเยี่ยมน้องสาว แต่ไม่กลับมาอีก กระทั่งพี่ชายของเธอเริ่มแจ้งความ คราวนี้อดอล์ฟกลับคำ บอกตำรวจว่าเธอหนีตามชู้ไปซะงั้น แต่การสืบสวนที่ตามมาพบว่าแท้จริงภายใต้ฉากหน้าสวยหรู ราชากับราชีนีแดนไส้กรอกไม่ได้แฮปปี้กับชีวิตคู่นัก มีเรื่องการทะเลาะและความรุนแรงเข้ามาร่วมเป็นระยะ และดูเหมือนว่าโรงงานของเขากำลังมีปัญหาการเงิน และเขาต้องหาทางออก...ทางออกง่ายๆ กับเศรษฐีนีใจถึงสักคนอย่างที่เคยได้จาก  Louisa 

พยานปากสำคัญบอกว่าเขาได้เห็นผัวเมียลุตช์กัทช์ เข้าไปในโรงงานตอนประมาณ 10:30 pm. และจากนั้น Louisa ก็ไม่ได้กลับออกมาจากโรงงานในสภาพเดิม...เธอแค่กลายร่างเป็นชิ้นส่วนทำไส้กรอกในถังเท่านั้นเอง!

นอกจากนี้ยังมีการพบว่านายลุตช์กัทช์ได้ซื้อสารหนูในวันก่อนการฆาตกรรม การค้นโรงงานยังพบชิ้นส่วนของมนุษย์เพศหญิง หรือในทีนี้คือนางลูอิสซาในเครื่องจักรส่วนต่างๆ โดยเฉพาะในเครื่องบดเนื้อ นอกจากนี้ยังพบแหวนของเธออีกด้วย ดูเหมือนเธอจะได้รับการแปรรูปอย่างครบวงจรพร้อมปรุงรสเลยทีเดียว 

นายอดอล์ฟยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ตัวเองเสมอในชั้นศาล และเป็นคดีตัวอย่างที่โด่งดังมากในสมัยนั้น นักข่าวบางคนแทบจะปลอบตัวเข้าไปนั่งในคณะลูกขุนเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม...ราชาไส้หรอกก็ต้องโทษคุมขัง และเสียชีวิตในคุกหลังจากนั้นไม่นาน 

คำตัดสินโดยคณะลูกขุนในคดีฯ ภาพจาก bizarrepedia.com

แต่เรื่องนี้ดันมีเงื่อนงำมากกว่าที่คิด มีหลายคนเชื่อว่าภายหลังการตายของลูอิสซา ซึ่งอาจจะเป็นการจัดฉากของเธอเองเพื่อจัดการกับสามีหัวร้อนของตน มีรายงานการพบเห็นเธอใน 12 รัฐ รวมถึงการจองตั๋วจากนิวยอร์กไปยังยุโรป

อย่างไรก็ตาม...คนตายไปแล้วคงจะส่งเสียงลำบาก ไม่ว่าความจริงเป็นอย่างไร การเจอชิ้นส่วนและศพของหญิงสาวในเครื่องบดของโรงงานผลิตไส้กรอกเจ้าดังของชิคาโก ก็ยังเป็นเรื่องสะเทือนขวัญคนทั่วไปอยู่ดี แม้ว่าโรงงานดังกล่าวจะถูกไฟไหม้ไปในปี 1904 แต่ซากของมันยังปรากฏให้เห็นอยู่ ณ West Diversey Park เผื่อใครอยากลองเยี่ยมเยียนตามรอยคดีฆาตกรรมเด็ดๆ ซึ่งชิคาโกเองจัดว่าเป็นตัวพ่อตัวแม่พอสมควร

นิทานเรื่องนี้คงพอจะจบลงได้ว่า...ไม่ว่าราชาไส้กรอกจะได้ฆ่าใคร ราชีนีจะกลายเป็นแม่มดใจร้ายหรือไม่ แต่คนอ่านจบคงพะอืดพะอมกับการกินไส้กรอกไปบ้างเล็กน้อย เอาเถอะ! นี่มันประเทศไทยปี 2017 นะ ใครเค้าจะยังเจอเศษนิ้วคนในไส้กรอกอีกล่ะ...

แต่ถ้าเจอก็อย่าลืมขอเลขเด็ดล่ะ...เผื่อจะแม่นกว่าขอลูกกรอก

---