เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Book ReviewsLucreazia
เกมลวงโลก (Klein no Tsubo)

  • ชื่อเรื่อง: เกมลวงโลก (Klein no Tsubo)
    ผู้แต่ง: โอะคะจิมะ ฟุตะริ 
    ผู้แปล: กนกวรรณ เกตุชัยมาศ 
    สำนักพิมพ์: แพรวนิยายแปล/อมรินทร์
    ราคา: 295 บาท


    คำโปรยปกหลัง:


    "เมื่อเกมที่คุณรู้จักเปลี่ยนไป 
    ทั้งสัมผัส รสชาติ กลิ่น เสียงและแม้กระทั่งความเจ็บปวด คือ ของจริง

    อุเอะสุงิ อะกิฮิโกะ ได้รับข้อเสนอจากบริษัท อิปซีลอน โปรเจ็กต์ เรื่องการขอซื้อลิขสิทธิ์ต้นฉบับหนังสือเกม 'เบรนซินโดรม' ที่เขาเป็นผู้เขียนขึ้น เพื่อไปพัฒนาเป็นเกมเสมือนจริงที่จะพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของวงการเกม เพราะผู้เล่นสามารถเข้าไปในโลกของเกมที่เปรียบเสมือนกับเป็นโลกจริง ๆ ได้

    หลังจากที่ได้ตกลงทำสัญญา อุเอะสุงิกลับไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากบริษัททั้งสิ้น จนกระทั่งผ่านไปปีครึ่งจึงได้รับการติดต่อมาว่า ทางบริษัทต้องการให้เขาเข้าร่วมการทดสอบเกมต้นแบบเบรนซินโดรมพร้อมกับ ทะคะอิชิ ริสะ หญิงสาวที่ถูกคัดเลือกมาเพื่อให้เข้าร่วมทดสอบเกมด้วยเช่นกัน

    แต่แล้วเรื่องแปลกๆก็เกิดขึ้น เพราะเมื่ออุเอะสุงิเริ่มการทดสอบเกม เขากลับได้รับคำเตือนจากเสียงปริศนาที่ดังก้องอยู่ในหัวของเขาเองว่า 
    กลับไปซะ 
    และอย่าเข้ามาอีกเป็นครั้งที่สอง"


    ความเห็นหลังอ่านจบ: เอาไปเลย ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ (5/5 คะแนน)

    เริ่มอ่านช่วงเเรกจะอืด ๆ หนืด ๆ นิดนึง เเต่ไม่ถึงกับน่าเบื่อ ไม่น่าอ่านจนต้องทนอ่านนะ
    เเต่จะเเค่รู้สึกชักช้า เพราะยุคสมัยในเรื่องคือสามสิบสองปีก่อน คือไม่มีมือถือเล็ก ๆ มีเเต่โทรศัพท์ฝากข้อความ ยิ่งสมาร์ทโฟนนี่ไม่ต้องพูดถึง 5555

    แต่ถามว่าสนุกไหม?
    ขอตอบเลยนะว่าสนุก ถึงเนื้อเรื่อง+บรรยากาศในเรื่อง มันจะดูตกยุคไปบ้าง แต่ก็เหมือนกับเวลาที่เราอ่านวรรณกรรมน้ำดีทั่วไป พวกคินดะอิจิ, เชอร์ล็อคโฮล์มสหรือว่าเเอร์กูล ปัวโรต์ 
    คือไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานเท่าไร พอหยิบมาอ่านเมื่อไหร่ เนื้อหาของเรื่องก็ยังคงสนุกอยู่อย่างนั้น
    เรื่องนี้ก็เป็นแบบเดียวกันที่ว่ามา

    กว่าเราจะรู้สึกว่าเรื่องนี้เริ่มสนุกมากกก อ่านแล้วติดลมบนจนวางไม่ลงก็คือตั้งแต่หน้า 190 เป็นต้นไป 55555555555555
    อ่านจบเเล้ว ยังนั่งเหวอไปพักนึง
    ขบคิดตามต่อว่าตกลงแล้วบทสรุปเป็นยังไงกันเเน่
    จบปลายเปิด ให้คนอ่านได้คิดต่อ
    เเต่ไม่จบเห่ย ๆ แบบตกม้าตายนะ 
    ส่วนตัวเราคิดว่าการที่จะแต่งเรื่องให้จบปลายเปิดแล้วจบได้ดีจนสามารถทิ้งความรู้สึกหลงเหลือค้างไว้ให้คนอ่านได้คิดต่อเนี่ย... มันเป็นอะไรที่ทำได้ยากมากเลยนะ แต่เราว่าเรื่องนี้ทำได้ดีเลยทีเดียวเชียวแหละ

    ใครที่เคยอ่านผลงานของนักเขียนท่านนี้ (ความจริงคือสองท่าน เพราะโคกันสองคนเขียนด้วยกัน) มาก่อนก็จะชอบ เพราะงานมีลายเซ็นที่มองไม่เห็นกำกับอยู่ คืออ่านปุ๊บ รู้ปั๊บว่าคนนี้เขียน
    เราชอบเล่มก่อนมากกว่านิดนึง ชื่อเรื่อง "แผนลักพาตัว 99%" ของ Bliss Publishing สมัยรุ่งเรือง ยังไม่ล่มสลาย 
    /พูดแล้วเศร้า ขอเหล้าเข้ม ๆ

    เอาเป็นว่า ถ้าลองคิดเเละระลึกอยู่เสมอว่าเรื่องนี้ต้นฉบับถูกตีพิมพ์ในปี 1985 จะดีมาก
    นี่ก็อ่านไปด้วยพื้นฐานที่ว่ามาข้างต้น เพราะงั้นเลยอ่านมาด้วยความทึ่งตลอดตั้งเเต่ต้นจนจบ 
    คือมันเจ๋งมากกกกกกกก อ.สองท่านที่เขียนคือคูลสุด ๆ สามารถเขียนเทคโนโลยีที่มีเเบบในเรื่องได้ตอน 32 ปีที่เเล้ว!
    กราบสิคะ รออัลไล!
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in