2
ห้องฉุกเฉินในจินตนาการของคุณเป็นยังไง สำหรับเราแล้วนอกจากเวลาดูซีรีส์เกาหลีก็ไม่เคยจินตนาการถึงมันเลย ใครจะไปคิดวะว่าวันนึงจะต้องไปสัมผัสบรรยากาศแบบเรียลไทม์ด้วยตัวเอง 5555555555555555555 อะถามอีกที ห้องฉุกเฉินในจินตนาการของคุณเป็นยังไง ? จากความเดิมตอนที่แล้ว(
อ้าวเห้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หมอ) หลังจากเจาะไขกระดูกเสร็จเรานอนอยู่บนรถเข็นที่กำลังเข็นไปห้องฉุกเฉิน ระหว่างทางว่างๆก็เลยเล่นเป็นนางเอกเอ็มวีนอนร้องไห้เงียบๆน้ำตาไหลเป็นสายไปตลอดทาง
"ญาติรอข้างนอกนะคะ มีอะไรเดี๋ยวประกาศเรียก" พยาบาลในห้องฉุกเฉินบอก อ้าวเดี๋ยวๆ คือไม่ให้ตั้งตัวเลยอ่อ ไม่ต้องมีการร่ำลาอะไรเลยถูกมะ คนเข็นรถ เข็นรถที่บรรทุกเราไปแหมะไว้ที่ฟากหนึ่งของห้อง ตอนนั้นคือคนเยอะมากกกกกก ห้องแน่นมากกกกกกก ฝั่งที่เราได้นอนคือทางเข้าที่เงยหน้าไปปุ๊บจะเจอตัวอักษรตัวใหญ่ๆแปะไว้ว่า 'ห้องฉุกเฉิน' ตรงนั้นมีรถเข็นอยู่สี่คันถ้วน ในส่วนของระยะห่างระหว่างรถเข็นคือหายใจรดต้นคอกันได้ คนเยอะในระดับที่ตรงไหนสามารถจอดรถเข็นได้ แกก็จะได้นอนตรงนั้นแหละ แล้วไม่ต้องนึกถึงภาพเตียงคนไข้นะ แกต้องนอนบนนั้นแหละ บนรถเข็นที่บรรทุกแกมาอะ ที่นี่จะให้เยี่ยมเป็นเวลา วันละสามรอบเข้ามาเยี่ยมได้ครั้งละสองคน ด้วยความพื้นที่น้อยและความวุ่นวายอะนะ หลังจากที่ครอบครัวเรากลับไป เราหลับตาเพื่อคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและพยายามทำใจอยู่กับมันอยู่กับโรคที่เราเป็นให้ได้ พยายามข่มตาหลับเราหลับตาหนีจากไฟนีออนที่เปิดสว่างโล่มาทั้งวันทั้งคืน...
ตุ่ง ตุ่ง ตุ๊ง ขอเชิญญาติคุณมานะนามสมมติที่เคาท์เตอร์พยาบาลด้วยค่ะ
อ่า ไม่เป็นไรๆ ห้องฉุกเฉินก็งี้อะเนอะ เรามาเริ่มกันใหม่ เราหลับตา อะมาละๆ เริ่มเคลิ้มละ..
โว้ยยยยยยย ปล่อยกู กูจะกลับบ้าน เสียงคุณลุงจากฝั่งไหนไม่รู้ตะโกนลั่นห้อง
ตุ่ง ตุ่ง ตุ๊ง ขอเชิญญาติคุณมานีนามสมมติที่เคาท์เตอร์พยาบาลด้วยค่ะ
คุณสมหมายนามสมมติอยู่ไหนคะ
ตุ่ง ตุ่ง ตุ๊ง ขอเชิญญาติคุณบลาๆๆๆที่เคาท์เตอร์พยาบาลด้วยค่ะ
ขอทางด้วยครับ ขอทางด้วย!!! รถเข็นนะครับ!!!!!!
สัส..
คือไอ้เสียงตะโกนอะมันไม่เท่าไหร่เว่ย แต่เฮลโหล แกเข็นรถมาชนรถเราอะ ม่าง ความง่วงกูกระเด็นหล่นหมดแล้วว้อยยยยยยยยยย นี่ยังไม่รวมเวลานอนอยู่ดีๆโดนเข็นสลับที่กับรถคันอื่นนะ สรุปคืนนั้นเราหลับๆตื่นๆทั้งคืน แล้วมันจะมีช่วงที่คุณหมอกับคุณพยาบาลจะมาราวน์วอร์ดกันกลุ่มใหญ่ๆจะเดินมาทีละเตียงแล้วคุยกันว่าคนไข้คนนี้เป็นอะไรมาอาการเป็นยังไงเพื่อส่งเวรกัน ช่วงนั้นเรายกให้เป็นช่วงโคตร awkward time คือเราต้องทำยังไงอะ ทำตัวไม่ถูก ไม่เคยได้รับความสนใจขนาดนี้มาก่อน เวลาหมอมาเยอะๆมารุมที่รถเข็นเราเขาก็ไม่ได้คุยกับเรานะ เขาคุยกันเอง คือเราก็ไม่รู้จะทำตัวยังไงอะให้มองตาหมอก็ไม่ใช่ ต้องนอนหรือจะลุกขึ้นมานั่งร่วมวงสนทนาก็ดูเสือกไปหน่อย เวลาเขามาราวน์แล้วใกล้ถึงเตียงเราเมื่อไหร่เราจะแกล้งหลับแม่งเลย..
อีกสองความทรมานที่เราได้จากห้องฉุกเฉินก็คือ หนึ่ง เราต้องเจาะเลือดทุกๆแปดชม.เพราะต้องติดตามผลเลือดอย่างใกล้ชิด แล้วเราก็ต้องให้น้ำเกลือไปด้วย แกนึกความบวมน้ำเกลือออกปะ มันจะหาเส้นยากอะ รวมทั้งหมดเราโดนแทงไปมากกว่ายี่สิบครั้ง และสอง เราพึ่งโดนเจาะไขกระดูกมามันจะปวดแผลมากแค่ลุกนั่งก็ลำบากแล้วอะ พอให้น้ำเกลือแม่งปวดฉี่บ่อยมากกกก แล้วห้องน้ำไกลมากกก อีรถเข็นนี่ก็สูงมากกกก ขึ้นทีก็ต้องจับให้มั่นเพราะด้วยความมีล้อและเข็นได้รถมันเคลื่อนไปมาได้ตลอด สาดดดดดดดดดดดดดด กว่าจะได้ฉี่ทีนี่โคตรท้ออยากฉี่ราดบนเตียงให้รู้แล้วรู้รอด ห่า
เราได้เตียงในอีกสองวันถัดไป เป็นสามวันสองคืนที่เราขอนิยามห้องฉุกเฉินให้เป็นพื้นที่ที่รวมทุกความวุ่นวายของโลกนี้ไว้ที่นี่ทั้งหมด
ปล.ถึงเราจะหัวร้อนแต่เราเข้าใจทุกความวุ่นวายและขอบคุณหมอ พยาบาลและพนักงานทุกคนที่ทำงานกันอย่างหนักนะคะ
ปล2.จากวันนั้นผ่านมาเดือนกว่าแล้วเรายังจำชื่อป้าเตียงข้างๆได้อยู่เลย เพราะป้าย้ำชื่อตัวเองและเรียกหาหมอทั้งวัน หวังว่าป้าจะสบายดีนะคะ ป้ามาลัย สุทธิประภา
tbc
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in