เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#30daymarknodiaryofmyboys
DAY - 24 Intervenor : 1st [Teacher and Me]
  • Title: Intervenor : 1 st [Teacher and Me]

    Author: DiaryOfMyboys

    Warning: 3 Chapters




    ณ ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยหมู่ไม้นานาพรรณ ดอกไม้หลากสีสันแข่งกันผลิบานรับแสงอรุณแรกของวันเหล่านกต่างขับขานครื้นเครงรับวันอันสดใสในฤดูร้อน

    ดรีเมอร์แลนด์เป็นเหมือนเมืองในสรวงสวรรค์ทุกสิ่งดูสวยงามสดใส ผู้คนหน้าตางดงามหมดจดยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างเป็นมิตรให้กันอยู่เสมอ

     

    จะยกเว้นก็แต่คนตรงหน้าเค้านี่ล่ะมั้งที่ไม่เคยจะเห็นรอยยิ้มจากใบหน้าหล่อเหลานั่นเลยสักครั้ง

     

    เจโน่เป็นเจ้าชายองค์เล็กของราชาผู้ครองเมืองนี้ เจ้าชายน้อยรูปงามแสนฉลาดเฉลียวและร่าเริง เป็นที่รักของทุกคนที่ได้พบเห็น และในวันเกิดปีนี้เจ้าชายจะมีอายุครบ18 ปี ซึ่งถือว่าจะเข้าสู่ช่วงวัยใหม่ จึงมีธรรมเนียมสำหรับเหล่าราชวงศ์ที่จะเข้าสู่ช่วงวัยผู้ใหญ่นั่นก็คือการขี่ม้าข้ามภูเขาศักดิ์สิทธิ์

    ที่เป็นปัญหาก็คือเจโน่นั้นกลัวการขี่ม้ามาตั้งแต่เด็กแล้วจึงไม่เคยได้เรียนขี่ม้าเหมือนพวกพี่ๆมาก่อน แต่พิธีนั้นก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้เช่นกันทำให้เจโน่ต้องเข้ารับการฝึกขี่ม้าอย่างเร่งด่วน เพราะวันเกิดของเค้าจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้แล้ว

    และครูที่จะมาฝึกสอนเจ้าชายน้อยให้ขี่ม้านั้นไม่ใช่คนอื่นไกลเป็นพระสหายของเจ้าชายเจฟฟรี่พี่ชายของเจโน่นั่นเองอีกทั้งยังเป็นลูกชายคนเดียวของท่านแม่ทัพใหญ่ผู้เชี่ยวชาญการขี่ม้ามาตั้งแต่เด็กแต่ถึงจะคุ้นเคยเห็นหน้าค่าตากันบ่อย ๆแต่ก็ใช่ว่าจะสนิทสนมกันนัก เพราะท่านมาร์คนั้นออกจะเป็นบุคคลที่แตกต่างจากชาวเมืองดรีเมอร์แลนด์อยู่มากทีเดียว

    ดูอย่างตอนนี้ที่เดินนำหน้าเจโน่เพื่อไปที่โรงฝึกม้าก็นิ่งและดูเยือกเย็นจนคนที่เดินสวนมาต้องหลีกทางก้มหัวหลบหน้ากันไปหมดขนาดเจโน่เป็นเจ้าชายยังรู้สึกว่าคนข้างหน้านี่ได้รับความยำเกรงจากคนรอบข้างมากกว่าเค้าซะอีก

     

    “ท่านมาร์คเราต้องฝึกกี่วันเหรอถึงจะขี่ได้คล่องน่ะ”

    ด้วยอยากจะขจัดความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ไปเจ้าชายจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามไถ่ขึ้นมาก่อนแต่ก็ดูท่าจะไม่ได้ทำให้คนเงียบขรึมคนนั้นหันกลับมาตอบได้เลยยังคงมุ่งหน้าเดินตรงไปยังจุดหมายอย่างเดิม

     

    “มันก็แล้วแต่ทักษะของแต่ละคนน่ะพ่ะย่ะค่ะเจ้าชาย ถ้าหัวไวสองสามวันก็คล่อง แต่ถ้าหัวช้าหรือขี้ขลาดก็อาจจะหลายวันหน่อย”

    กว่าจะได้คำตอบของคำถามก็ต้องรอให้เดินมาถึงคอกม้าแล้วนั่นล่ะ แถมคำตอบนิ่งๆแถมยังเหล่มองมาทางนี้ ดูเหมือนจะค่อนขอดว่าเค้าขี้ขลาดซะอย่างนั้น

    “คนเรามันก็ต้องมีสิ่งที่กลัวกันบ้างเป็นธรรมดาไม่เห็นเกี่ยวกับความขี้ขลาดตรงไหน”

    กอดอกเถียงกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้

    “เอาเถอะ ถ้าพระองค์ยังอยากจะเป็นคนในราชวงศ์นี้อยู่ก็ขอให้ทรงทิ้งความกลัวไปก่อนแล้วกันนะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทำได้แค่สอนแต่ลบความกลัวให้ใครไม่ได้หรอก”

    ว่าจบก็ตรงดิ่งไปเปิดประตูที่กั้นม้าสีขาวตัวหนึ่งไว้แล้วเดินเข้าไปจับจูงมันออกมา

    “นี่คือโนอาห์ม้าทรงของพระองค์ที่จะใช้ในวันพิธี ก่อนอื่นคือต้องทำให้ชินกับมันให้ได้ก่อน”

    ครูฝึกจูงม้าตัวนั้นเข้ามาใกล้ทำเอาเจ้าชายน้อยตกใจถอยหลังหนีไปสองสามก้าว แล้วก็มานึกขึ้นได้ว่าจะต้องทำใจสู้เข้าไว้ไม่งั้นจะโดนท่านมาร์คขี้เก๊กนี่หาว่าขี้ขลาดได้อีก จึงค่อยๆตั้งหลักเดินกลับเข้าไปตรงจุดเดิม

    “ยื่นมือออกมาหน่อยเจ้าชาย”

    สะดุ้งกับคำบอกกล่าวนั้นแต่ก็ค่อย ๆยกมือขึ้นมา คนใจร้อนคงเห็นท่าว่าวันนี้ปลายนิ้วก็อาจจะแตะไม่โดนเจ้าม้าที่ยืนรอท่าอยู่เสียทีจึงยื่นมือมาจับมือเรียวที่ติดจะสั่นไหวนั่นไว้

     

    ผิวเนื้อที่สัมผัสโดนกันเป็นครั้งแรกเหมือนมีประจุไฟบางๆแล่นผ่านตรงรอยสัมผัส แล้วประจุนั้นก็วิ่งอย่างรวดเร็วไปกระตุ้นให้หัวใจสั่นไหวแปลกๆ


    เรียกสติกลับมาได้มือหนาก็นำพามือเรียวขาวนุ่มนิ่มนั้นมาสู่ข้างแก้มของเจ้าม้าใจดีตัวสีขาวได้เป็นผลสำเร็จ

     

    แต่ตอนนี้เจ้าชายเจโน่ไม่รู้ว่าหัวใจที่เต้นรัวนี้นั้นเกิดจากความตื่นเต้นที่ได้สัมผัสม้าครั้งแรกหรือเพราะได้สัมผัสกับมือคู่นั้นที่เค้าเฝ้ามองมาเนิ่นนานแล้วกันแน่



    หยุดเลยนะเจ้าหัวใจบ้า ห้ามเต้นรัวให้คนที่เค้ามีคู่หมายอยู่แล้วสิเจ้าโง่

    .


    .

     

    .

     

    To be continued.

                           #inmarkno

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
baejuhyeol (@baejuhyeol)
กรี้ดดดดดดดดดดดดด มาต่อด่วนเพคะะะะะ คุณครูฝึกมีคู่หมั้นอยู่แล้วซะด้วยสิ ;_; แล้วเจ้าชายจะทำไงคะะ