ว่าจบก็รีบเร่งฝีเท้าเข้าร้านไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยเจ้าคนหัวดื้ออ้าปากพะงาบๆอย่างเจ็บใจ
ภายในร้านอาหารเล็กๆที่ตกแต่งธรรมดา มีบาร์และโต๊ะนั่งไม้เบๆ คงเป็นเพราะว่ายังไม่ดึกเท่าไหร่ ผู้คนจึงแน่นขนัดเต็มร้าน ทันทีที่ชายหนุ่มร่างสูงลงนั่งตรงโต๊ะตัวในสุด พนักงานสาวร่างท้วมก็รีบเอาเมนูมาให้ดู แซมแอบมองพี่ชายที่กำลังกุมท้องเดินมาถึงประตูร้าน จึงรีบสั่งอาหารให้อย่างรวดเร็วก่อนจะลุกมาเปิดประตูให้ คนเป็นพี่พยายามยืดตัวอกผายไหล่ผึ่ง เก็บอาการเหนื่อยแทบสลบ ยกนิ้วชี้ไปยังโต๊ะข้างกาย
"นายลืมที่พ่อสอนแล้วเหรอแซม ว่าเราควรจะเลือกนั่งโต๊ะใกล้ประตูไว้ เผื่อมีเหตุการณ์อะไรขึ้นมาเราจะได้หนีทัน"
"เหรอ...สงสัยพ่อคงลืมสอนฉัน"
คนร่างสูงกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม เป็นเชิงรู้ทันว่าอีกฝ่ายกุเรื่องขึ้นมาเพราะลากสังขารต่อไปไม่ไหวแล้ว พี่ชายจึงทำหน้าเซ็งขณะวางก้นลงบนเก้าอี้ไม้ พนักงานร่างท้วมคนเดิมจึงรีบกุลีกุจอเข้ามารับออร์เดอร์ แซมรีบตัดบท
"ไม่ต้องแล้วล่ะ ฉันสั่งให้แล้ว ชีสเบอร์เกอร์ พาย แล้วก็เบียร์"
"เยี่ยม แต่ฉันรู้ว่านายลืมไปอย่าง"
ดีนมองหน้าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าง ก่อนจะยิ้มขึ้นมาอย่างนึกสนุกแล้วหันขวับไปทางคนรับออร์เดอร์ "ใส่หอมไปในเบอร์เกอร์เยอะๆ เลยนะคุณผู้หญิง"
"เฮ้ ดีน...แต่ไอ้คนที่ต้องอยู่กับหอมเยอะๆจากปากของนายนี่มันฉันนะ"
"อ่ะเหรอ รู้อะไรไหมแซมมี่ หอมเนี่ยมีประโยชน์นะ"
"อะไร ?"
"อิ่ม"
ดีนพูดสั้นๆ พลางเลิกคิ้วขึ้นจนเห็นหน้าผากเป็นร่องเล็กๆดูกวนอารมณ์ คนฟังมองกลับตาขวาง ได้แต่ขยับมือขึ้นลงไม่รู้จะเริ่มอธิบายยังไงกับคนตรงหน้าให้รู้จักใส่ใจคนรอบข้างเสียบ้าง ของกินยังไงมันก็อิ่มเหมือนกันล่ะ แต่กลิ่นยามพูดเนี่ยล่ะโว้ย
"ฉันน่ะนะ...ไม่เห็นว่าของพรรค์นั้นมันจะมีประโยชน์ตรงไหน...เหม็นก็เหม็น ปอกก็แสบตา ใช้ไล่ผีก็ไม่ได้ เป็นพืชที่น่ารังเกียจสุดๆ"
....พอสิ้นคำ ก็มีแสงสว่างจ้าเข้ามาในร้าน ราวกับมีเทวดาปรากฏกาย....
....ก็คิดว่าไม่เป็นอะไร แต่ตื่นเช้าขึ้นมา แซมก็มีรากขึ้นที่เท้า....
......................................................................
[ "เอาล่ะครับตอนนี้ทุกคนหั่นหอมใหญ่กว่าหนึ่งกระจาดเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ! น้ำตาไหลพรากๆ กันอย่างกับน้ำตกไนแองกาล่าเลยครับ ! โอ้โหวววว ผมไม่แน่ใจว่าระหว่างกระเป๋าตังค์หายกับหั่นหอม อันไหนจะทำให้น้ำตาไหลได้มากกว่ากัน" ]
......................................................................
"นายกำลังจะกลายเป็นหัวหอมพร้อมปลูกแซม...ภายในหนึ่งอาทิตย์"
"อะไรนะ ?"
"หัวหอมพร้อมปลูก"
เจ้าพี่บ้าย้ำพร้อมกับยื่นหนังสือเกี่ยวกับตำนานพื้นเมืองให้ดู ในนั้นเขียนภาพเทพเจ้าซึ่งคุ้มครองคนในแถบนี้ ที่ชอบสั่งสอนมนุษย์ให้รู้จักรักในสิ่งที่เกลียด แซมถอนหายใจหนักขณะเอาเท้าที่เต็มไปด้วยรากจุ่มลงไปในถังน้ำเพื่อดับกระหาย มิน่าตอนที่เขาพูดคำว่าเกลียดหัวหอม คนทั้งร้านถึงสะดุ้งโหยงขนาดนั้น
"แล้วยังไงต่อ ?"
"ไม่ยังไง ถ้ามันเป็นคำสาปเฉพาะที่ก็ทำลายไม่ได้อยู่แล้ว แต่ดูนี่สิ เขาเขียนบอกไว้ว่า ต้องทำสิ่งที่เกลียดภายในอาทิตย์นั้นเยอะๆจนเทพพอใจเพื่อป้องกันการกลายร่าง แล้วก็นี่..." ดีนชี้ไปที่โฆษณาในเว็บไซด์ที่เพิ่งค้นเจอ "หมู่บ้านข้างๆมีเทศกาลบูชาเทพหอมใหญ่อยู่พอดี สมัครฟรีด้วย"
"ให้ฉันควงมีดทาเนยไปไล่ผีดีกว่า"
คนฟังถึงกับทิ้งตัว เอนหลังไปยังพนักพิง แขนก็ตวัดขึ้นก่ายหน้าผากอย่างเหนื่อยใจ และนั่นยิ่งทำให้อีกฝ่ายนึกสนุกขึ้นไปใหญ่
"ไม่เอาน่าแซมมี่ ฉันไม่อยากไปปราบปีศาจพร้อมกับหอมใหญ่หรอกนะ ลองคิดดูสิ เทศกาลนี้มันน่าสนุกดีออก แล้วถ้าชนะ นายก็จะได้ตั้งพันดอลล์เชียวนะ"
....เรื่องมันก็เป็นแบบนี้.....
......................................................................
"วู้ว!! สุดท้ายก็ชนะจนได้ สุดยอดเลยไอ้น้องชาย!"
ดีนหัวเราะร่าบอกขณะขับรถไปตามทาง หน้าต่างของอิมพาร่าสีดำขลับถูกเปิดกว้างเพื่อให้อากาศหอมๆได้ถ่ายเท งานนี้เทพคงจะพอใจอย่างที่พี่ชายว่า แน่ล่ะ จะไม่ให้พอใจได้ยังไง ทั้งปอกจนน้ำตาไหล ด่านต่อไปก็ต้องมาคั้นน้ำกิน อีกส่วนก็ราดอาบตัวอีก นี่ถ้ารากที่เท้าไม่หลุด แซมคงคิดว่าคำสาปกลายเป็นหัวหอมนั่นสัมฤทธิ์ผลไปแล้ว
"นี่ดีน นายสัญญากับฉันไว้จำได้ไหม ว่าถ้าฉันชนะ ฉันจะยกเงินให้นาย แต่ฉันขออะไรอย่าง"
คนเป็นน้องทวงสัญญาด้วยน้ำเสียงราบเรียบจนพาให้คู่สนทนารู้สึกหวาดหวั่น บางทีจำนวนเงินมันก็ทำให้คนเราหน้ามืดยอมรับปากอะไรง่ายๆ ดีนจึงใช้คติใจดีสู้เสือพยายามยิ้มถามกลับ
"อะ...อะไร ?"
"ฉันจะจูบนาย"
ว่าเสร็จก็โอบคอหมับ อีกฝ่ายร้องตกใจที่จู่ๆน้องชายก็กระโจนเข้ามา มือเผลอปัดพวงมาลัยเสียรถไถลไปผิดเลน คนขับรีบหมุนมันกลับมา แซมยังคงส่งเสียงอ้อนพี่ที่ยังคงเหยียบ 120 อยู่
"ทำไม นายรังเกียจที่จะรับจูบหอมๆของฉันเหรอ ชอบหอมเยอะๆไม่ใช่รึไง ?"
"หอมเยอะๆน่ะฉันชอบเว้ย แต่จะให้ฉันจูบนายได้ไงล่ะฮะ ?"
"รังเกียจเหรอ ?"
"เออสิ !"
แล้วแสงสว่างก็วาบขึ้นกลางรถวูบหนึ่งก่อนจะหายไป ดีนถึงกับหน้าถอดสีรีบเหยียบเบรคหยุดรถเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนพ่อหนุ่มคนข้างกายก็เขยิบตัวกลับมานั่งตามเดิมแล้วเริ่มฮัมเพลง คนเป็นพี่เริ่มหน้าซีด
"นายว่า...มันจะเกิดอะไรขึ้น"
"ก็ระหว่างทีมฮันเตอร์ที่มีแซมมี่สองคน กับมากกว่าจูบที่จะทำให้เทพพอใจล่ะมั้ง"
ว่าแล้วก็หัวเราะคิกใส่ก่อนจะเบนหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มออกนอกหน้าต่าง หนีอีกคนที่กำลังตีหน้ายักษ์มองมา ดีนเอื้อมมือไปเปิดวิทยุสุดเสียง ก่อนจะเข้าเกียร์ให้รถคู่ใจทะยานไปบนท้องถนน
......................................................................
end
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in