เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเล่าจากเราเองvalentearz
If she is my life, you are my heart.



  • ชื่อโปรดของข้าคือวาเลนติน่า


    ข้าเปลี่ยนขื่อไปมาอยู่บ่อยครั้งแต่ชื่อนี้คือชื่อที่ข้าชอบมากที่สุด


    เพราะมันเป็นชื่อของนักบุญคนหนึ่ง...นักบุญที่ทั่วทั้งโลกต่างเฉลิมฉลองให้กับเขาในฐานะวันแห่งความรัก


    ข้าใช้ชีวิตอย่างธรรมดาอยู่ร่วมกับมนุษย์ธรรมดา กินอาหารอย่างธรรมดา...และมีความรักอย่างธรรมดา


    แต่บุคคลที่ข้ารักล้วนอยู่กับข้าไม่นานเพราะชีวิตของมนุษย์ช่างแสนสั้น


    ข้าเรียนรู้ที่จะไม่ผูกพันกับมนุษย์เกินความจำเป็นอีกครั้งแต่ไม่ใช่เพราะเกรงกลัวว่าจะถูกจับดังเช่นกาลก่อน


    กลับเป็นเพราะข้ากลัวว่าข้าจะรักพวกเขาเกินกว่าที่ควรจะเป็น


    ชีวิตของมนุษย์ในศตวรรษที่20 ยิ่งทำให้ทุกอย่างง่าย...ไม่มีใครเชื่อเรื่องแม่มดอีกต่อไปแล้ว


    ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกข้าใช้ชีวิตอย่างหญิงสาวทั่วไป ตอนเช้าเปิดร้านกาแฟตอนค่ำเปลี่ยนเป็นร้านเหล้าที่ห่างออกไปสองสามมุมถนน ข้าไม่จำเป็นต้องติดต่อกับใคร ข้าร่ำรวย แม้ในความเป็นจริง ถึงข้าไม่มีอะไร ข้าก็อยู่ได้เป็นเดือนต่อให้ข้าจะไม่ต้องกินอะไรเลยก็ตาม


    จนกระทั่งวันหนึ่งที่เจ้าเด็กนี่ถูกทิ้งอยู่หน้าร้านของข้า


    อันที่จริงมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งและในทุกครั้งจะมีคนมาช่วยรับเด็กไปโดยเร็ว แต่อาจไม่ใช่ในครั้งนี้


    วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ วันแห่งการเฉลิมฉลอง วันแห่งความรัก


    เด็กคนนี้มองข้าด้วยแววตาใสซื่อของมนุษย์ที่ยังไม่ผ่านโลก ยังไม่แปดเปื้อนสิ่งใด ดวงตาที่ทำให้ข้ายอมแพ้


    ข้าเป็นแม่มด ข้าไม่แน่ใจว่าแม่มดคนอื่นๆ นับถือนักบุญหรือไม่ แต่ข้าเชื่อว่าข้าค่อนข้างหัวสมัยใหม่ทีเดียว


    หากนี่คือความปรารถนาของนักบุญวาเลนไทน์ ข้าจะยอมผูกพันกับเด็กคนนี้


    หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง...เจ้าเด็กน้อย



     

     

     

     

     

    20 กว่าปีผ่านไป


     

    ตอนนี้ข้าและเด็กหนุ่มคนนั้นย้ายออกจากเมืองเดิมแล้ว


    ก็แน่ล่ะอยู่เมืองเดิมตั้ง 20 ปีด้วยรูปลักษณ์ที่เหมือนเดิมได้ซะที่ไหน


    เจ้าเด็กน้อยที่เคยนอนอยู่ในกล่องร้องไห้โยเยต้องคอยให้ข้าอุ้มป้อนข้าวป้อนน้ำไม่มีอีกแล้ว...เด็กคนนี้เติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา สดใส แข็งแรงและมีชีวิตเป็นของตัวเอง


    นอกจากนี้เขายังเป็นเด็กฉลาดทีเดียว ข้าพอจะรู้ระบบการศึกษาของมนุษย์มาบ้าง เหมือนเขาจะเรียนต่อในระดับที่สูงพอสมควร


    ข้าไม่เคยผ่านการร่ำเรียนแบบนั้นข้าจึงไม่ชอบให้เขาไปขลุกอยู่กับมันมากนัก แต่ข้าไม่อาจห้ามเขาได้


    หากเขาต้องการอยู่ในโลกมนุษย์เขาก็ควรจะทำทุกอย่างเหมือนมนุษย์


    แม้ข้าจะไม่ชอบใจที่เขาไปพบกับหญิงสาวผู้หนึ่งอยู่เป็นประจำก็ตาม

     

    “วาเลนติน่า”เขาเรียกชื่อข้าในตอนบ่ายของวันวาเลนไทน์ วันนี้เขากลับเร็วกว่าปกติ


    “มีอะไร?”


    “สอนผมทำขนมเค้กได้มั้ย?”


    “ได้สิ”


    ข้าตอบเขาไปเช่นนั้น แม้จะย้ายเมืองแต่ข้ายังคงยึดอาชีพเดิม และร้านกาแฟไม่อาจปราศจากของหวานได้


    เค้กของข้าเขาจะเอาไปให้เด็กสาวคนนั้น


    แต่ไม่เป็นไร ข้ายินดี


    เพราะมันทำให้เขาเห็นรอยยิ้มของเขา

     

     





     

    30 กว่าปีผ่านไป


     

    “คุณไม่ย้ายไปไม่ได้เหรอ?”


    “ข้าไม่อาจอยู่ที่ใดได้นาน...เจ้ารู้ดีอยู่แล้ว”


    “นี่ผมกำลังจะแต่งงานนะ” เขาพูดเป็นเชิงตัดพ้อ “อย่างน้อยก็อยู่ร่วมพิธีก่อนสิครับ”


    ข้ายิ้มให้เขา


    ข้ารู้ว่าเขากำลังจะแต่งงาน


    ข้ารู้ว่าในอนาคตของเขาไม่จำเป็นต้องมีข้า...เพราะอนาคตของเขาต่อจากนี้จะถูกสร้างร่วมกันกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ข้า


    ด้วยเหตุนี้ข้าจึงต้องไป


    ให้ข้าจากไปตอนนี้ยังดีกว่า


    จะอย่างไรข้าก็ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา...เข็มนาฬิกาของเขาและของข้าไม่ได้เดินบนนาฬิกาเรือนเดียวกัน

     

     





     

    70 กว่าปีผ่านไป


     

    ข้าอาจประเมินเด็กน้อยของข้าต่ำไป


    แม้ข้าไม่มีเครื่องมือติดต่อสื่อสารไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ที่ใด ซ้ำยังเปลี่ยนชื่อหลายต่อหลายครั้ง เขาก็ยังตามหาข้าจนพบ


    แม้จะไม่ใช่ด้วยตัวเองก็ตามเพราะในยามนี้เขาก็แก่ชรามากแล้ว


    หลานของเขา ที่มีดวงตาเหมือนกันกับเขาไม่ผิดเพี้ยน เป็นผู้ตามหาข้าจนเจอ เพียงเพื่อที่จะแจ้งข่าวว่าปู่ของเขาป่วยหนักเพียงใดและเขามีความปรารถนาที่จะตามหาข้ามากมายเพียงใด


    คุณปู่จะเสียใจมากหากไม่ได้พบคุณ เด็กหนุ่มบอกกับข้าเช่นนั้น


    ข้ายอมกลับไปตามคำขอแม้รู้ว่าใจข้าอาจปวดร้าวกว่าเดิมเมื่อได้พบเขา


    และเป็นจริงดังคาด...ข้าไม่ได้ปวดร้าวที่เขาไม่รักข้าอีกแล้ว ข้ายินดีกับการที่เขามีภรรยาที่สามารถแก่ชราไปพร้อมกับเขาได้ มีลูกหลานที่น่ารักและคอยดูแลบุพการีของตนในยามที่พวกเขาดูแลตัวเองไม่ได้


    แต่ข้าปวดร้าวที่ข้าไม่มีสิทธิ์อยู่ตรงนั้น


    ข้าไม่สามารถเจ็บป่วยแบบมนุษย์ไปพร้อมกับเขา ไม่สามารถแก่ชราไปพร้อมเขา และไม่สามารถจากโลกนี้ไปเช่นเดียวกันกับเขา


    “วาเลนติน่า”


    เขาเรียกข้าด้วยชื่อที่ข้าทิ้งไปหลายปีหลังจากไล่ทุกคนออกไปจากห้องแล้ว เสียงของเขาเป็นเสียงของคนชรา แหบพร่าไม่น่าฟัง แต่กลับเป็นเสียงที่ข้าอยากได้ยินที่สุดมาตลอดหลายปี


    “มีอะไร?”


    ข้าตอบเขาด้วยประโยคเดิม เสียงของข้าสั่นเครือไม่แพ้เขา ไม่ใช่เพราะความแก่ชรา แต่เป็นเพราะน้ำตาที่กำลังจะรินไหล


    สั้นเพียงเท่านี้เองชีวิตของมนุษย์


    เขากำลังจะจากข้าไปตลอดกาล


    “ผมไม่เคยบอกคุณแต่คิดว่าคุณควรจะรู้ไว้ คุณช่วยรับฟังหน่อยได้มั้ย?”


    ข้าพยักหน้า


    “ผมอยากขอโทษที่ผมขอให้คุณอยู่ในตอนนั้น”


    “...”


    “ผมรู้ว่าทำไมคุณถึงต้องจากไป”เขายิ้ม “ผมเข้าใจดี ผมแค่เห็นแก่ตัวมาก มากพอที่จะขอให้คุณอยู่ทั้งที่รู้ว่าคุณรู้สึกยังไง”


    ข้าอยากบอกว่าข้าไม่โกรธเขา ไม่มีอะไรที่เขาจะต้องขอโทษ แต่เขากลับบีบมือข้าแน่นขึ้นราวกับจะบอกให้ข้าตั้งใจฟังเงียบๆ ต่อไป


    “อย่าเอาชีวิตมายึดติดกับมนุษย์ธรรมดาอย่างผม อย่าจมอยู่กับความเศร้านานนัก ผมก็แค่มนุษย์คนหนึ่งไม่ว่าผมจะรักคุณมากแค่ไหนก็ตาม”


    ...


    ใครจะไปทำได้


    เจ้าทำได้หรือ?


    “ถ้าผมเกิดมาแล้วเป็นพ่อมดผมคงแต่งงานกับคุณไปแล้ว”


    เขาพูดติดตลก


    “ภรรยาของผม ผมรักและให้เกียรติเธอมาก เธอเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตของผม แต่คุณเป็นมากกว่านั้น...ผมรู้ดีว่าผมเห็นแก่ตัวมากแค่ไหน แต่ถ้าเธอคนนั้นคือชีวิตของผม คุณก็คือหัวใจ”


    เขาเอื้อมมือที่มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตระโยงระยางไปข้างเตียงหยิบสัญลักษณ์ของวันแห่งความรักมาให้ ดอกกุหลาบสีแดง


    “ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะให้คุณในวันวาเลนไทน์จริงๆ แต่มันคงไม่มีวันนั้นสำหรับผมในปีต่อไปอีกแล้ว”


    เขาจับมือข้าให้รับดอกกุหลาบในมือ


    “สุขสันต์วันแห่งความรักครับวาเลนติน่า...และยินดีเป็นที่สุดที่ได้พบคุณอีกครั้ง”




    ข้าร้องไห้


    และข้าไม่อาจกลั้นน้ำตาของตัวเองได้เลย



    -------------------------------------------------------------------------------------------

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in