Rich Man, Poor Woman (Fuji TV, 2013)
คิดงานไม่ออก ในหัวมีแต่ชุนซังลอยไปลอยมา (เฮียเป็นคนหรือกระสือนิ) เลยคันไม้คันมือ หาที่ระบายความฟินสักหน่อย สาวกซีรีส์สายฟิน ใครที่ยังไม่เคยดูเรื่อง Rich Man, Poor Woman นั้นขอแนะนำให้รีบไปหามาดูให้ไว แล้วจะพบว่า 11 ตอนนั้นผ่านไปไวเหมือนไม่เคยได้ดูมาก่อน แม้จะตามไปดูตอนพิเศษแล้วก็เถอะ ฮิวกะซัง ประธานผู้มั่นใจในความสามารถและหนังหน้าตัวเองจะทำให้เราทั้งฟินและอยากกระโดดถีบในเวลาเดียวกัน ส่วนสาวอะนาล็อคอย่างนัทสึอิ แรก ๆอาจจะรำคาญเสียงที่จะสูงไปไหนของนาง แต่เราก็ให้อภัยในความพยายามและความมีน้ำใจของนาง อีกทั้งเรายังขอมอบฉายา “ศรีทนได้” ให้กับนางเอกเรื่องนี้ไปเลย เจอพระเอกวีนใส่ร้อยครั้ง นางต้องให้อภัยพระเอกหนึ่งร้อยหนึ่งครั้ง แหม่ ช่างสตรองและโพสสิทีฟเสียจริงๆ เป็นเรา ไปนานแล้ววววววว คิดว่าเราจะหลอกล่อคุณด้วยการพล่ามของเราแค่นี้เหรอ ไม่มีทาง เราจะทำการเอาฉากฟินในเรื่องมาหลอกล่อต่างหาก มามะ มาตกหลุมไปพร้อมกับเรา
เลือกเสื้อผ้า
ฉากธรรมดา ๆ แต่เราฟิน เพราะการมีแฟนหนุ่มไปชอปปิ้งด้วยพร้อมกับคอยเลือกเสื้อผ้า ตัวนั้นตัวนี้ให้เรา ช่วยออกความคิดเห็น แล้วรอเราลองเสื้อผ้าออกมาให้เห็นสายตาและสีหน้าอันชื่นชอบชื่นชมของเขา นี่คือหนึ่งในสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนอยากให้แฟนตัวเองเป็น แต่เราก็รู้ว่าการชอปปิ้งของเรามันน่าเบื่อขนาดไหนอะนะ เรื่องนี้เราไม่บังคับ แต่ถ้าทำได้อย่างฮิวกะ เราจะปลื้มมาก
ขอโทษเรอะ
เป็นการไปขอโทษหญิงและคืนรองเท้าได้ฮาร์ดคอร์มาก เพราะก่อนจะคืนท่านประธานเล่นด่าซะแทบฟังไม่ทัน แต่ในคำพูดน่ากระโดดถีบนั้นก็ยังเอ่ยถึงข้อดีและความพยายามของนัทสึอิอยู่บ้าง พอคิดตามที่ฮิวกะพูดแล้วก็สรุปได้ว่า เค้ามาขอโทษจ้า แต่เกิดมาไม่ค่อยได้ขอโทษคนอื่นสักเท่าไหร่ เลยต้องกัดต้องด่าตามความเคยชินของปากไปซะก่อน แล้วค่อยลงท้ายอ่อยๆ ว่า ขอโทษมั้ง พร้อมกับการที่ไปคุ้ยหารองเท้าของนัทสึอิที่พี่แกโยนลงถังขยะแล้ว เอากลับมาคืนพร้อมกับห่อให้อย่างดีเพราะทนน้ำตาและความรู้สึกผิดที่โยนของของชาวบ้านทิ้งไป แถมยังโมโหอีกว่า ถ้าของมันสำคัญ มีค่าทางจิตใจขนาดนั้น พอเธอร้องไห้แหมะ ๆ แล้ว ทำไมไม่รู้จักไปทวงคืนมาห๊ะ ลำบากให้ต้องเอามาคืนเลยเห็นมะ (มันน่ากระโดดเตะอีกรอบ ก็แกบอกเค้าว่าแกโยนทิ้งไปแล้วไง๊)
เดทมั้ย
จะเรียกเดทได้มั้ยก็ไม่รู้ เพราะฮิวกะมานั่งแทนที่คู่เดทของนัทสึอิที่ชิ่งไม่ยอมมา พี่แกทนเห็นสาวเจ้านั่งเศร้าซึมอยู่ที่โต๊ะคนเดียวไม่ไหว เลยมานั่งแทนซะเลย ประกอบกับที่นัทสึอิเคยบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอก พี่ท่านก็เลยได้ข้ออ้างว่าร้านนี้มันแพงนะ เงินเดือนเธอจ่ายไม่ไหวหรอก จะบอกอะไรก็บอกมาแล้วกัน ฉันจะนั่งกินข้าวที่นี่แหละ (เนียนนะแกรรรร) แต่เรื่องสำคัญของนัทสึอินั่นก็เรื่องคอขาดบาดตาย เลยเกิดอาการป๊อด สั่งเหล้ามาดื่มเรียกความกล้าสักหน่อย ดื่มไปดื่มมา ความเกร็งเลยหายกลายเป็นรั่วซะงั้น บรรยากาศมื้ออาหารเลยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความมุ้งมื้งๆ เพราะครั้งนี้ต่อให้นัทสึอิจะพูดว่าตัวเองยังไง ฮิวกะก็ไม่ยักจะโกรธแถมยังฮาไปกับความรั่วของนางด้วย (หมั่นไส้)
ที่ปรึกษา การทำงานด้วยกันต้องแขนชนแขนกันขนาดนี้มั้ย (มองบน เบ้ปาก อิจฉานางเอกมาก) พนักงานทั้งบริษัทไม่มีใครตอบโจทย์ท่านประธานได้สักคน มีแต่นัทสึอิคนเดียวที่มองทะลุโครงการนี้แล้วรู้ว่าคนใช้งานจริงต้องการอะไร ฮิวกะเลยลากนัทสึอิมานั่งทำงานด้วยซะเลย นั่งทำระบบไป ปรึกษางานกันไป มุ้งมิ้งสิ้นดี ชิส์
นามบัตร
ปกติพนักงานจะต้องทำนามบัตรเอง โดยทางบริษัทจะมีรูปแบบให้ แต่ของนัทสึอิเพราะเข้ามาด้วยวิธีไม่ปกติเหมือนชาวบ้านเขา แถมยังไม่รู้เรื่องพวกนี้ด้วย ฮิวกะเลยเป็นคนทำให้เอง ครั้งแรกให้เหตุผลว่า เพราะนัทสิอิทำเองไม่เป็นยังไงล่ะ เลยต้องทำให้ (คนดูคิดในใจว่า เลขาท่านก็มีนะคะ สั่งคนอื่นทำให้ก็ได้มั้งคะท่านนนน) ครั้งที่สองหลังจากเรียกกลับมาทำงานใหม่แล้ว ฮิวกะยังยกแผนกให้นัทสึอิไปทั้งแผนกเลย แถมตำแหน่งหัวหน้าให้อีก เพราะทั้งแผนกมีคนเดียวไง (กวนไปนะบางที) เวลาให้ก็ไม่ให้ดีๆ นะ ต้องมีสกินชิพ หึ นี่ไม่เรียกว่าใส่ใจกันก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรนะคะ ท่านประธานนนนนนน
ซบ
ปกติซบกันเบาๆ ติ่งก็ฟินแล้ว แต่นี่คือท่านประธานฮิวกะ ท่านไม่ธรรมดา มีการเอาหัวไถๆ เหมือนหามุมสบายที่สุด จากนั้นท่านก็หลับไม่รู้เรื่องอะไร แต่คนดูนี่ทำหน้าตาเหมือนนางเอกนั่นแหละ แรก ๆ ก็ทำอะไรไม่ถูก พอสักพักก็อดยิ้มฟินออกมาไม่ได้ มันเขินอะค่ะ มันเขินนนนนนนนนนนน (ชีวิตจริงเหรอคะ หลับหัวโขกกระจกตลอดเว)
ฉันรู้นะยะ
อารมณ์คนดูก็เป็นเหมือนโยโกะตอนฉากนี้นั่นแหละ เธอสองคนอย่ามาทำเป็นไม่มีอะไร ขนาดฉัน(โยโกะ) บุกไปจูบแถมด้วยการบอกรักแกถึงบ้าน พอโทรศัพท์จากนัทสึอิดังขึ้นเท่านั้นแหละ แกก็เมินฉันเลย อย่ามาทำท่านั่งจับแก้วไวน์แบ๊วว่าไม่มีอะไรกัน อย่ามา ฉันดูออกนะยะ (อินเนอร์คนดูผสมโยโกะ)
Focus on Yourself
ต่อเนื่องจากฉากฉันรู้นะยะ นัทสึอิใกล้จะหมดสัญญากับบริษัทแล้ว ได้งานทำที่ใหม่เรียบร้อยแล้วด้วย แต่.....ใจมันยังอยากอยู่ใกล้ๆ ฮิวกะ เลยเดินคุยกันไป พรรณนาโวหารไป สุดท้ายนางก็เข้าเรื่องว่า จ้างฉันต่อเถอะ อยากทำงานที่นี่ต่อนะ อยากมีเจ้านายที่เจ๋งแบบฮิวกะ อิตาประธานก็หันกลับมาตอบกลับว่า ไหนว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วไง อย่าทำอะไรตามอารมณ์ดิ คิดถึงตัวเองแล้วก็อนาคตของตัวเองเอาไว้ นัทสึอิโดนน็อคเอ้าท์ไป เลยยอมรับแล้วแถเป็นเรื่องกลัวการเปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้จริงจังอะไรหรอกประธาน ขอโทษที่รบกวนนะคะ คนดูดูแล้วคิดไปไกลว่า ไอ้ประโยคจ้างฉันต่อเถอะของนางอะ เหมือนนางสารภาพรักกลายๆ แล้ว ถ้าฮิวกะตอบโอเคนี่คือ กลั้นลมหายใจไปไม่ถูกเลยทีเดียว แต่ท่านประธานไม่ใช่ว่าไม่อยากโอคนะ ดูสายตาเขาสิ แต่บริษัทตอนนี้เพิ่งรอดจากวิกฤติหนักมา จะเป็นยังไงต่อไปก็ไม่รู้ นัทสึอิก็ไม่ใช่คนทำงานสายนี้ ปล่อยให้ไปทำงานสายอาชีพตัวเองนั่นแหละ นางจะได้เจริญรุ่งเรืองในทางของนางเอง (แมนมากค่ะท่าน) นอกจากฟาดฟันคนดูด้วยสายตาที่ไม่ตรงกับปากแล้ว ฮิวกะยังโชว์แมนและแสดงการเอาใจใส่ด้วยการเรียกแท็กซี่แล้วจับนัทสึอิยัดเข้าไป พร้อมด้วยบอก กู๊ดไนท์ แล้วปิดประตูเดินจากไป ป๊าดดดดดดดดดดดด เท๊เท่ ปกติท่านไม่เรียกแท็กซี่ให้ใครนะคะ ท่านเรียกเอง ขึ้นเอง คำบอกลาแทบไม่เคยออกจากปากท่าน แต่กับนัทสึอิ ท่านทำแบบนี้ คนดูตายยยยย
แต่งหล่อง้อสาว
หลังจากที่ด่านางเอกเปิงไปแล้ว (รอบที่ห้าร้อยแล้วมั้ง) ฮิวกะก็รู้ความจริงและสำนึกได้ เลยลากชุดหล่อมาเดินรอจะง้อสาว แต่พอเขามา ต่อมยางอายฮิวกะที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นเลยเริ่มทำงาน เกิดเป็นภาพอย่างที่เห็นคือ ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะยิ้ม จะเดินไปหา หรือจะพูดอะไร คนฉลาดล้ำเลิศอย่างฮิวกะน้านนนน เลยตัดสินใจหลบหลังเสาแล้วค่อยๆ ชะโงกหน้ามาดู ซึ่งทั้งนางเอกทั้งคนดูก็เอ็นดูในการกระทำของเขา ก่อนหน้านี้ที่เคยด่ากันเปิดเปิงเลยให้อภัยอย่างง่ายดาย (แม้จะโดนด่าอีกว่าใช้กระดาษเปลืองก็เถอะ)
ถามหาความรับผิดชอบ
ฮิวกะเจอกระดาษที่นัทสึอิเขียนไว้ว่าต้องการทำลายกำแพงในใจของฮิวกะลงให้ได้ ท่านประธานเลยเรียกนางมาเข้ามุมถามหาความรับผิดชอบในตัวท่านด้วย เพราะไม่ว่าจะยังไง ท่านก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไว้ใจนัทสึอิ (นี่แกพูดขนาดนี้แล้ว ผู้หญิงเขาก็เขียนบอกความรู้สึกเขาขนาดนั้นแล้วด้วย แกยังไม่รู้อีกเรอะว่าแกคิดยังไงกับเขาห๊ะ)
ซบมั่ง
หลังจากตระเวนพบปะลูกค้ากันเหน็ดเหนื่อย พอขึ้นรถเมล์ไปสักพัก นัทสึอิก็หลับ แต่นางก็หลับแล้วหันมาซบคนข้างๆ ตามปกติมนุษย์อะนะ แต่คนข้างๆอะ ทีแรกก็ไม่ได้หลับอะไรหรอกนะ พอเขามาซบเท่านั้นแหละ เอียงหัวไปซบเขากลับแล้วหลับตาเฉ๊ยยยย แกเหนื่อยรึไงห๊ะ หมั่นไส้จริงๆ
คลับฟรายเดย์
โทรไปนัดสาวแล้วสาวไม่มา แถมยังบอกว่าไม่อยากเจอหน้า เพราะรักมากจนเจ็บปวดไปหมดแล้ว ฮิวกะผู้ฉลาดแต่เรื่องงานจึงงงเป็นไก่ตาแตก ต้องมาปรึกษาอาซาฮินะเพื่อนรัก ประหนึ่งโทรไปปรึกษาพี่อ้อยพี่ฉอดกันเลย พอเพื่อนให้คำปรึกษาแล้ว ก็ยังไม่เก็ทอีก เพื่อนเลยบอกว่า เอ็งก็ต้องคิดเองมั่งดิวะ เอ้า กลับไปคิด มันฟินเพราะฮิวกะไม่รู้เรื่องอะไรนี่แหละ ในขณะที่อาซาฮินะก็ทั้งขำทั้งสะใจที่เห็นฮิวกะมันทรมานบ้างอะไรบ้าง
ระยะทางไม่ใช่ปัญหา
พอรู้ตัวว่ารักคุณเข้าแล้ว แต่นัทสึอิก็ต้องไปทำงานที่บราซิล ในขณะที่นัทสึอิกำลังสับสนวุ่นวายใจอยู่ว่าจะทำยังไงดี บราซิลก็ต้องไป แต่ผู้ชายก็อยากคบด้วย เพราะแอบชอบเขามานานแล้ว นี่ยังมาง้อถึงสนามบินอีก จะทำยังไงดี แต่ฮิวกะคนคูลของเราก็ไม่ทำให้ผิดหวัง บอกนัทสึอิให้ไปทำงานที่บราซิลได้เลย เรื่องระยะทางระหว่างบราซิลกับญี่ปุ่นนั้น เขาจะลดลงให้เป็นศูนย์เอง เพราะเรื่องนี้มันเรื่องสิวๆ ไม่ต้องกังวลเบ่เบ๋ (อันนี้ใส่เอง ฮา) นัทสึอิเลยไปทำงานได้อย่างแฮปปี้เพราะวินทั้งงานทั้งความรัก (อิจฉานาง)
มานี่มะ
พออยู่คนละประเทศ เวลามาเจอกันน้อย นัทสึอิก็งอแงบ้าง เพราะมาเจอกันนี่ ฮิวกะยังต้องทำงานไม่หยุดอีก แต่ไม่เป็นไรเพราะฮิวกะตอนทำงานนี่แหละ ที่เท่ที่สุด ท่านประธานได้ยินแฟนบ่นแบบนั้นก็เลยเรียก มานี่มะ แล้วมอบกอดแน่นๆ ให้ไป (คนดูก็บ่นนะ ก็ไม่ค่อยได้เจอท่านประธานเท่าไหร่ อยากกอดมั่งอะไรมั่ง) นัทสึอิก็ฟินไปสิคะ
ฉันยอม
แค่เรื่องแขวนผ้าขนหนูก็ฟินได้ เพราะก่อนหน้านี้ฮิวกะผู้ไม่เคยอยู่ร่วมกับใคร ไม่ชอบอะไรที่ไม่เป็นระเบียบและไร้รสนิยม แต่พอมาเจอนัทสึอิที่โตมาแบบอบอุ่นล้นๆ ก็ต้องปรับตัวกันบ้าง ปกติไม่แขวนผ้าขนหนูที่ราวแขวน เพราะเขาถือว่ามันเปียก มันสกปรก มันไม่โอเคสำหรับตัวเขาเอง ใช้แล้วก็ทิ้งลงตะกร้ารอเอาไปซักสิ แต่นัทสึอิก็มองว่า ใครๆ เขาก็แขวนผ้าขนหนูเอาไว้กันทั้งนั้นแหละ เวลาล้างมือ ล้างหน้าเสร็จก็จะได้หยิบมาเช็ดได้เลยสะดวกๆ แขวนเอาไว้มันจะได้ไม่อับด้วย ไม่เปลืองผ้าด้วย โอเคนะ การยอมให้แขวนผ้าขนหนูแต่ไม่เอาลายหมีน่าเกลียดในความเห็นของฮิวกะ ก็เป็นสัญญาณในการปรับตัวยอมรับนัทสึอิเข้ามาในชีวิตแล้ว
สุดท้ายสำหรับฟูจิทีวี เรารู้ว่ามีตอนพิเศษมาให้เราแล้ว แต่เราอยากบอกว่า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in