If God is all loving and forgiving, why not forgive Lucifer?
———
“ นี่คือความรัก ไม่ใช่ที่เรารักพระเจ้าแต่ที่พระเจ้าทรงรักเราและทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นเครื่องบูชาลบบาปของเรา เพื่อนที่รักในเมื่อพระเจ้าทรงรักเราเช่นนั้นเราก็ควรรักซึ่งกันและกัน ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้าแต่ถ้าเรารักซึ่งกันและกันพระเจ้าก็ทรงอยู่ในเราและความรักของพระองค์ก็เต็มบริบูรณ์ในเรา “
เสียงเนิบนาบพูดข้อความที่ราวกับลอกไบเบิลมาทั้งบท ดวงตาสีอ่อนดึงสายตาจากบาทหลวงกลับมามองไบเบิลดังเดิม
เสียงพลิกกระดาษเป็นอันบ่งบอกว่าบทต่อไปกำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า
“ มีใครมีคำถามไหม “ บาทหลวงชรายังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงเช่นเดิม
เปลือกตาค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างเอื่อยเฉื่อย จองกุกยื่นตัวตรงสบตากับผู้ที่เอ่ยคำถาม
“ ถ้าพระเจ้าคือความรัก แล้วพระองค์ทรงรักลูซิเฟอร์รึเปล่า “
เขาว่าเขามองเห็นดวงตาของชายชรานั้นกำลังวาวโรจน์ขึ้นมาหน่อยนะ
เสียงถอนหายใจดังขึ้น การคัดลอกไบเบิลเหมือนจะกลายเป็นงานอดิเรกของเขาไปแล้ว
ทำไมกันละ ก็มันน่าสงสัยจริงไม่ใช่เหรอ ในเมื่อพระองค์ทรงรักลูกทุกคน แล้วทำไมมนุษย์ที่เรียกตัวเองว่าบุตรของพระเจ้าถึงรังเกียจลูซิเฟอร์ที่เป็น Son of God
บางทีพระเจ้าอาจจะรักลูซิเฟอร์อยู่ก็ได้ ใครจะรู้
เมื่อไรที่ความคิดนี้แวบผ่าน บางทีจองกุกก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมมนุษย์กับปีศาจถึงอยู่รวมกันไม่ได้ ในเมื่อพวกเราทั้งคู่คือบุตรของพระเจ้า
ทำไมต้องมีนักบวชเพื่อกำจัดผู้ที่มีพ่อคนเดียวกัน ?
ชายชุดรุ่มร่ามที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลยนอกจากเป็นสัญลักษณ์ของศาสนจักร ที่เหลือมันก็ได้แค่ลากพื้นไปวันๆ
ท้องฟ้าที่ถูกฉาบด้วยสีดำทำให้รู้ว่าจองกุกใช่เวลาในการคัดนานแค่ไหน เข็มกลัดติดอกสีทองห้อยระย้าสายไปมาตามการเดิน แสงสะท้อนของมันบ่งบอกถึงความไม่ธรรมดา
แน่ละ ถ้าไม่มีมันเขาคงถูกเรียกว่าพวกนอกรีตนานแล้ว
จองกุกมีพลังในการชำระล้างที่บริสุทธิ์มากตั้งแต่เกิด มากขนาดที่ว่าโดนศาสนจักรดึงตัวมาตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งไข่ด้วยซ้ำ
คนตัวสูงชะงักขา เปลี่ยนทิศทางจากเดินกลับหอเป็นมุ่งหน้าสู่ป่าข้างวิหาร
ทันทีที่พ้นเขตแดนศักดิ์สิทธิ์มาได้ไม่ไกลมาก กลิ่นของปีศาจคละคลุ้งซะจนพวกนักบวชเข้าใหม่ก็ยังรู้สึกได้
ให้ตาย ข้างวิหารเนี่ยนะ ถามจริงคุณปีศาจ ?
จองกุกใช้พลังตัวเองชำระล้างตลอดทางที่ก้าวเดิน ยิ่งเดินเข้าลึกมากเท่าไรอากาศยิ่งอับชื้นขึ้น
มือขาวรีบคว้าชายผ้าที่รุ่มร่ามของชุดขึ้นมากำ ดวงหน้าขาวเริ่มเบ้ลงอย่างหงุดหงิด และการที่ต้องก้มมองไม่ให้ชายชุดเกี่ยวกิ่งไม้ไปตลอดทาง ทำให้จองกุกไม่รู้ว่าอะไรกำลังรอเขาอยู่
เงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกเย็นกว่าปกติมาก
ก่อนเฉดสีอ่อนจะเบิกกว้าง
สิ่งมีชีวิตรูปร่างสูงใหญ่ขดตัวเข้ากับต้นไม้อย่างระวัง กลุ่มผมสีหม่นยาวจรดพื้นของมันปิดรูปลักษร์ไว้เกือบหมด ไหนจะคลื่นสีดำที่มันแผ่ออกมารอบตัวก็ขัดขวางการมองเห็นจนแทบบอกอะไรไม่ได้นอกจากตัวมันใหญ่มาก
จองกุกหุบปากที่อ้ากว้างฉับ
เขาก็อยากจะบอกมันอยู่หรอกว่ามาดี ถ้าทั้งตัวไม่ได้มีไม้กางเขนห้อย ไม่ต่างอะไรจากการเขียนคำว่านักบวชลงบนหน้าผาก
สองมือขาวรีบกระชากไม่กางเขนเขวี้ยงทิ้งอย่างไม่ใยดีเมื่อเห็นว่ามันทำท่าจะหนีขณะที่เขาก้าวไปหา
จนตอนนี้จองกุกสามารถนั่งย่องๆ ห่างจากมันเพียงแค่คืบโดยที่อีกฝ่ายแทบจะแหวกต้นไม้แล้วสิงอยู่ข้างไหนแทน
ใบหน้าหล่อวาดรอยยิ้มกว้างจนตาหยีเหมือนไม่รู้สึกว่าโดนรังเกียจ
“ นายมีชื่อไหม“
“ ฉันได้ยินมาว่าพวกปีศาจชั้นสูงส่วนใหญ่จะโดนซาตานตั้งชื่อกันหมด “
“ รึฉันต้องแนะนำก่อน ฉันชื่อจองกุก“ มนุษย์เพียงหนึ่งพูดคนเดียวราวกับไม่มีคนคบเลยมาลงที่ปีศาจที่บังเอิญพบเจอ
เจ้าของอ่อร่าทะมึนเริ่มขู่ แต่กลับไม่สะเทือนคนดื้อด้านแม้แต่น้อย
“ นายไม่มีชื่อเหรอ“
“ แต่นายดูชั้นสูงนะ“
เมื่อเห็นว่าอีกคนยังคงพล่ามไปเรื่อย เจ้าของดวงตาแดงก่ำรีบฝังหน้าลงกับต้นเป็นการตัดปัญหา แต่กลับให้จองกุกยิ้มเผล่แทน
“ อยากให้ฉันตั้งชื่อให้ไหม “ ร่างสูงใหญ่ราวกับยักษ์ชะงักดวงตาสีเลือดหันมาสบกับจองกุกลอดกลุ่มผม
นอกจากไม่หลบนักบวชหนุ่มยังเท้าค้างกับเข่าเอียงหน้าเข้าไปมองใกล้ๆ กว่าเดิม
นามเรียกสำหรับปีศาจไม่ต่างจากชีวิต ผู้ที่ตั้งนามให้ก็ไม่ต่างจากยกพลังของตัวเองให้
จองกุกยิ้มตาหยีอีกครั้ง
“ ล้อเล่นนะ“
เสียงหัวเราะดังก้องป่า
แต่คนโดนแกล้งไม่ได้ตลกด้วย เสียงเหมือนไฟฟ้าสถิตดังขึ้นเป็นระยะๆ จองกุกหยุดหัวเราะเมื่อรู้สึกว่ากลิ่นอายมันคลุ้งกว่าเดิม
“ เดี๋ยวก็โดนจับได้หรอก “ ดวงตาสีอ่อนมองนิ่ง ก่อนที่คลื่นสีดำจะโดนชำระล้างอีกรอบ
“ นายน่าจะบาดเจ็บ ต้องกินใช่ไหม “ เด็กหนุ่มเลิกแกล้ง แล้วหันมาถามเป็นการเป็นงานขึ้น
“ ฉันได้ยินมาว่าปีศาจกินทุกอย่างของมนุษย์ ไม่ว่าจะอารมณ์ความรู้สึก แม้กระทั่งวิญญาณ “
“ นายจะกินอะไร“
ยังเรียกตัวเองว่านักบวชได้อยู่หรือ
จองกุกขำ มันเหมือนมีคำๆ นี้วิ่งวนอยู่ในดวงตาสีแดงก่ำ
“ แต่ฉันคงให้นายกินวิญญาณไม่ได้ “
เด็กหนุ่มในอาภรณ์สีขาวล้วน ทำท่าคิดหนักราวกับมันเป็นปัญหาโลกแตก ก่อนริมฝีปากจะระบายยิ้มกว้างดังเดิม
“ ลองเลือดไหม “
“ กัดๆ ไปเถอะหน่า! “
เรียกได้ว่าคงเป็นภาพที่พิลึกสำหรับคนที่ผ่านมาเห็นอยู่ไม่น้อยเมื่อนักบวชหน้าตาราวกับหลุดออกมทจากภาพวาดคนหนึ่งกำลังพยายามยัดแขนตัวเองเข้าปากอสูรกายน่าเกลียดอยู่
“ ทำไมดื้อจังวะ!! “
เจ้ายังกล้าว่าคนอื่นอีกหรือ!! ปีศาจตนนั้นไม่ได้กล่าวแต่คิดในใจ
คนตัวสูงโถมทั้งตัวใส่ปีศาจตรงหน้าเมื่อมันไม่ให้ความร่วมมือโดยดี ขายาวก้าวคร่อมขาข้างหนึ่งที่มีขนาดใหญ่เท่าสองขาจองกุกรวมกัน
มือขาวจัดการแหวกผมรุงรังก่อนจะกระชากให้เงยหน้าขึ้น ดวงหน้าขาวแดงจัดทั้งหน้าจากความพยายาม
และในที่สุดก็สำเร็จ แขนขาวก็ถูกกัดจนได้
จองกุกหอบหายใจถี่ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเบะด้วยความเจ็บเมื่อของเหลวในร่างกายถูกดูด
ก็อย่างจะเอ่ยปากแซวที่เล่นตัวอยู่หรอก แต่มันดันเจ็บกว่าที่คิดเยอะเลย ปลายนิ้วขาวจัดกุมผมที่ยาวรุงรังของมันแน่นก่อนดวงหน้างดงามจะซบตามลงไป
ถ้าเขาตาย จองกุกจะตามไปหลอกมัน
ไม่รู้ว่าค้างอยู่ในท่าล่อแหลมนานเท่าไร แค่รู้สึกตัวอีกทีก็เป็นโลหิตจางซะแล้ว มือขาวยันเข้าที่หน้าปลิงตัวโตจนเกิดรอยไหม้
“ นายควรรีบไปนะ“
“ เพราะฉันหมดแรงจะกลบกลิ่นปีศาจนายแล้ว “
เลือดทุกหยดของนักบวชเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณ
จองกุกรู้สึกได้ว่ากรงเล็บแหลมกำลังค่อยๆ ประคองวางใบหน้าของตัวเองลง เห็นอย่างนี้แล้วก็อยากจะเดินไปหัวเราะใส่หน้าพวกบาทหลวงศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
เห็นไหมฟาเธอร์ จองกุกกำลังนอนบนตักปีศาจด้วยละ
สุดปะละ
ก่อนที่ดวงตาจะปิด จองกุกมองเห็นดวงตาสีแดงก่ำกลับคืนสู่สภาพดังเดิมอย่างที่ควรจะเป็น
ใช่จริงๆ สินะ
“ ถึงนายจะมีชื่ออยู่แล้ว“
“ แต่ฉันก็จะตั้งให้ใหม่อยู่ดี“
“ ต่อไปนี้นายจะต้องถูกเรียกว่า เบลเซ่ “
เป็นครั้งแรกที่จองกุกไม่รู้สึกหวาดกลัวความมืดเมื่อหลับตา
วินาทีแรกที่ลืมตา สิ่งแรกที่เห็นกลับไม่ใช่ในป่าที่เดิม แต่เป็นลูกกรงขนาดใหญ่ ข้อมือทั้งสองไม่ได้ถูกมัด ชุดรุ่มร่ามถูกเปลี่ยนเป็นชุดขาวล้วนสำหรับนักโทษของศาสนจักร
จองกุกเค้นยิ้ม ผู้สูงส่งมักจมูกดีจังเลย
“ ลูกมีสิ่งใดจะพูดเกี่ยวกับสิ่งสกปรกที่ติดกายลูกมาหรือมั้ย “ ชายในชุดคลุมสีดำบนระเบียงยื่นออกมาจากยอดหอคอยเป็นผู้กล่าว
“ ลูกคิดว่าฟาเธอร์คงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว “ ฟังดูแปลกที่จองกุกไม่รู้สึกเสียใจเลยสักนิดกับสิ่งที่ทำลงไป
ดวงตาสีอ่อนยังคงจับจ้องไปยังคนที่ทำตัวสูงส่งทั้งๆ ที่จริงๆแล้วพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้ต่างไปจากสิ่งสกปรกที่ตัวเองเรียกเลยแม้แต่น้อย
“ จงใช้เวลาสำนึกถึงสิ่งที่ทำลงไป “
ไม่คิดจะยกโทษอยู่แล้ว จะให้สำนึกทำไมกัน
อัศวินในชุดเกราะเดินออกมาเมื่อคนบนนั้นส่งสัญญาณ ปลายหอกแหลมเจ็ดเล่มหันเข้าหาจองกุกอย่างมีความนัย
7 ที่อาจหมายถึงบาปทั้ง 7
หรืออาจจะ7 ที่หมายถึงอัครเทวฑูตทั้ง 7
ดูสิ ขนาดจะตายอยู่แล้ว ศาสนจักรยังจะให้จองกุกหาคำตอบเองเลย
ริมฝีปากถูกกัดจนได้เลือด เมื่อปลายหอกเล่มแรกถูกแทงทะลุไหล่ สีแดงชโลมชุดขาวให้แปดเปื้อน
“ จงสารภาพบาปของลูกมา “
จองกุกคลี่ยิ้มประจำตัว
“ God bless you, father “
และหอกเล่มที่สองก็แทงทะลุไหล่อีกข้าง
บาดแผลเพียงแค่นี้สำหรับมนุษย์คงพอแล้วที่จะคร่าชีวิต ดูเหมือนว่าการตั้งชื่อให้ความมืดจะได้ผลกว่าที่คิดนะ
ปลายหอกทั้งห้าตั้งท่าพร้อมเพรียง จองกุกได้แต่หลับตา แล้วตอนนี้เขาต้องอ้อนวอนต่อใครกัน
ท่านเจ้าของสวน ขับไล่เขารึยัง
รึต้องอวยพรต่อลูกของพระองค์
“ ต่อข้าก็พอ “
ดวงตาสีดำลืมตาพรึบทั้งๆที่ไม่หวังแล้ว
กรงเล็บสีดำกดหัวจองกุกเข้ากับอก ปีกแปลกประหลาดกางคลุมทั้งตัวเองและจองกุกจนได้ยินเสียงหอกกระทบก่อนจะตามมาด้วยเสียงแตกหัก
“ ปีศาจ“
“ พวกมันบุกวิหารแล้ว!! “
เสียงอื้ออึงถูกกลบจนหมดด้วยอาการตกใจ
ดวงตาสีแดงก่ำตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นแค่สีดำธรรมดาที่แทบไม่ต่างจากมนุษย์นอกเสียจากว่ามันจะดำทั้งตา
รูปร่างสูงใหญ่เล็กลงถนัดตาจนตอนนี้เตี้ยกว่าจองกุกซะอีก
“ เบลเซบับ“ มหาบาปที่5 Gluttony แห่งความตะกละ
“ ตอนนี้เป็นเบลเซ่แล้ว “
ยังไม่ทันจะได้อ้าปากตกใจ ปากสีม่วงคล้ำก็กดลงมาซะก่อนจองกุกได้แต่ตาค้าง อะไรบางอย่างค่อยๆ ส่งเข้ามาในปากเขาผ่านลิ้นที่ไล่เกี่ยวกระหวัด
เฮ้ยๆ ไม่ตลกแล้วนะ
มือขาวเริ่มทุบตี แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการ เจ้าของดวงตาเรียวผละออกไปซะก่อน จองกุกหน้าซีด มีอะไรกำลังเคลื่อนไหวในร่างกายเขา
ทั้งร่างร้อนผ่าวจนต้องทรุดนั่งกับพื้น กลิ่นคาวเลือดอัดแน่นเมื่อเบลเซ่เริ่มลงมือสังหารหมู่
มหาบาปไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะต่อกรได้
จองกุกเริ่มทุรนทุราย ขนนกสีขาวมากมายร่วงหล่นออกมาจากตัว จนเหมือนตัวเองกำลังจะจมลงในกองขนนก
เบลเซ่เมื่อจัดการธุระเสร็จก็เดินกลับมาหาคนที่นอนร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวด มันรอจนขนนกที่ร่วงออกมาแปรเปลี่ยนเป็นสีดำ
เล็บแหลมค่อยๆ ประคองคนที่พึ่งเกิดใหม่มาหมาดๆ ให้หันมาสบตากับเขา
“ เจ้ารอด “
“ เพราะเจ้าอ้อนวอนต่อข้า “
..............
talk ; ทำไมพึ่งส่ง
เอาตรงๆ ก็คือพึ่งแต่งตอนจบได้จ้ะ 5555555
*หมายเหตุ ; เนื้อหาข้างต้นถูกตีความตามเนื้อเพลงจึงอาจไม่ได้ต้องตามหลักศาสนาจริงๆ แต่อย่างใด เพียงแค่อ้างอิงจากไบเบิลในพารากราฟแรกเท่านั้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in