วันที่ 8 : ลอนดอน
วันนี้พารักษ์อารมณ์ไม่ดี…
ชายหนุ่มแปลกหน้าในห้องพักที่คุ้นเคยมองเจ้าของห้องอยู่เงียบๆ ตั้งแต่กลับมาจากมหาวิทยาลัยก็เอาแต่ทำหน้าบึ้งจนเขาไม่กล้าเข้าไปคุย จะบอกว่าใกล้สอบแล้วหงุดหงิดก็ใช่เรื่อง เพราะพารักษ์จัดการงานที่คั่งค้างไปหมดแล้ว เหลืออ่านหนังสือสำหรับสอบซึ่งเจ้าตัวก็ไม่เคยทำหน้าเครียดขนาดนี้
หูสีเทานุ่มลู่ลงเล็กน้อยขณะที่นั่งขดตัวอยู่ที่มุมห้อง พลันสายตาเหลือบไปเห็นบางสิ่งที่น่าสนใจเข้า
“รักษ์มีเพื่อนอยู่อังกฤษด้วยเหรอครับ” เสียงทุ้มเอ่ยทำลายความเงียบขมุกขมัวภายในห้อง มือใหญ่พลิกโปสการ์ดรูปหอบิ๊กเบนยามค่ำคืนที่มีแสงไฟส่องสว่าง อีกด้านเป็นชื่อที่อยู่และข้อความที่คนถือละไว้ไม่อ่านเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
“อ่า… นานแล้วนะอันนั้น” พารักษ์ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องมาที่มือใหญ่ ชายหนุ่มผมเงินยื่นโปสการ์ดมาให้
“ผมไม่เคยไปเลย”
“ฉันก็ไม่เคยไป เขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่ไปเรียนที่โน่นน่ะ ตอนนี้เลิกส่งมาแล้วล่ะ ติดต่อกันทางโซเชี่ยลแทน” พารักษ์มองข้อความบนกระดาษแผ่นเล็กที่เพื่อนให้มาพร้อมยิ้มเบาๆ ชายหนุ่มอีกคนยิ้มขึ้นน้อยๆ อย่างใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นรอยยิ้มกลับมาที่ดวงหน้าคมอีกครั้ง
“แต่ผมว่าโปสการ์ดมันคลาสสิกดีนะครับ ผมชอบมากเลย มันเหมือน… การส่งต่อความทรงจำและความรู้สึกของเราให้กับใครบางคน รักษ์คิดว่าไงครับ” น้ำเสียงตื่นเต้นของคนตัวสูงทำให้พารักษ์เลิกคิ้ว แต่ก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ก็จริง… เวลามองมันก็ยิ้มตาม ไม่ว่าจะเป็นเพราะรูปหรือเพราะข้อความ”
“ครับ แต่พอพูดถึงบิ๊กเบนก็นึกถึงลอนดอน…”
“หือ?”
“พูดถึงลอนดอนก็นึกถึงเชอร์ล๊อกโฮล์ม รถม้า เบเกอร์สตรีท ชานชาลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่…”
“เดี๋ยวๆๆ อันสุดท้ายนี่ไม่ใช่รึเปล่า… นั่นมันอีกเรื่อง...”
“ฮ่าๆๆๆ รู้จักด้วยเหรอครับ”
“เฮ้ๆๆ ฉันก็อ่านนะ” พารักษ์ย่นจมูก เรียกเสียงหัวเราะจากคนคนตัวสูงได้อีกครั้ง อารมณ์ที่เคยขุ่นมัวจากใครสักคนที่น่ารังเกียจเริ่มจางหายไปกลายเป็นความผ่อนคลายที่ทำให้พารักษ์ยิ้มได้อีกครั้ง
“ดีจังครับ แต่… เมื่อไหร่รักษ์จะคิดชื่อให้ผมสักทีล่ะ” อยู่ๆ ชายหนุ่มแปลกหน้าก็เปลี่ยนเรื่องกะทันหัน พารักษ์ชะงักกึกอย่างปรับอารมณ์ไม่ทัน
“เรียกนายแล้วก็แสดงว่าฉันเลี้ยงนายแล้วสิ ไม่เอาหรอก” พารักษ์ตอบตรง
ก็ถ้าตั้งชื่อให้แล้วก็แสดงว่าตั้งใจเลี้ยงแล้วสิ…
“แล้วจะปล่อยให้ผมไม่มีชื่อแบบนี้เหรอ” ใบหูสีเทาลู่ลงอีกครั้ง พารักษ์อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบเบาๆ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายอายุมากกว่าก็ตาม แต่เขาก็ชอบแพ้สายตาและท่าทางแบบนี้เสียทุกที
อย่ามาทำสายตาแบบนี้สิโว้ย!
“งั้นก็บอกชื่อนายมาสิ” พารักษ์ต่อรอง
“ผมอยากได้ชื่อจากรักษ์นี่…” ชายหนุ่มหลุบสายตา แพขนตายาวสีอ่อนเห็นชัดเมื่อพารักษ์มองลงจากเตียงนุ่ม มันสวยจนเขาอดใจไม่ได้ที่จะจ้องมันอยู่นาน แต่สุดท้ายเจ้าของห้องก็ส่ายหน้าเบาๆ
“ฉันห่วยเรื่องการตั้งชื่อมากเหอะ นายอาจจะได้ชื่อประหลาดๆ ไปก็ได้นะ”
“ชื่ออะไรก็ได้ ผมอยากได้” นัยน์ตาสีทองเป็นประกายขึ้นมาอย่างมีความหวัง พารักษ์นิ่งงันไปอีกครั้ง หลบสายตาวิบวับนั่นทันที
“รักษ์…” เสียงทุ้มลากยาวเล็กน้อยช้อนตามองคนที่นั่งบนเตียง
“...” พารักษ์ทำเมินน้ำเสียงออดอ้อน มือเรียวแสร้งหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน
“รักษ์ครับ…” น้ำเสียงยังคงทอดยาวเพิ่มความนุ่มลึกขึ้นไปอีกนิด
“...” พารักษ์พลิกกระดาษหน้าแล้วหน้าเล่าราวกับว่ามันน่าสนใจมากกว่าหมาตัวใหญ่ที่เงยหน้ามองเขาจากพื้นห้อง
“รักษ์… นะครับ” เสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยเป็นครั้งสุดท้ายด้วยน้ำเสียงหวานที่สุดเท่าที่พารักษ์เคยได้ยิน พารักษ์ที่เปิดหนังสืออยู่นิ่งอึ้งไป นัยน์ตาสีน้ำตาลใสเบิกกว้างมองสบคนที่นั่งยิ้มอยู่ตรงหน้า มือไม้อ่อนแรงเสียดื้อๆ จนทำหนังสือที่อยู่ในมือตก
“ย… อย่าพูดประโยคแบบนี้ติดกับชื่อฉันเซ่!!” เสียงใสตวาดใส่ใบหน้าระบายยิ้มที่ดูไม่ได้ตกใจกับเสียงอันดังของเขา ทั้งยังทำหน้าชอบอกชอบใจยกใหญ่จนเขาอดหมั่นใส้ไม่ได้
“แต่ว่ารักษ์…”
“เลิกเรียกชื่อฉัน!!” พารักษ์แหวใส่แล้วพลิกตัวไปนอนบนเตียง คลุมผ้าห่มจนมิดหัวทั้งที่อากาศไม่ได้หนาวเลยแม้แต่น้อย แถมยังรู้สึกร้อนกว่าปกติเสียอีก
โดยเฉพาะใบหน้า…
ร้อน… ร้อนไปหมด...
ไอ้หมาบ้า!!...
…………...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in