ยงจุนฮยองยังเป็นแค่มือใหม่
ธุรกิจผิดกฏหมายที่เขาเพิ่งย่างกายเข้ามา แต่ถึงแม้เขาจะยังใหม่ประสบการณ์ก็ต้องยอมรับในความฉลาดของจุนฮยองเองที่ทำให้ธุรกิจขยายอย่างรวดเร็วจนมือเก่าในวงการเริ่มอยากรู้จักมากขึ้น
ร่วมไปถึงคิมคังวู เจ้าพ่อบ่อนที่ใหญ่ที่สุดของแถวนี้
2 ใน 5ของพื้นที่ใจกลางเมืองเป็นของชายคนนี้ เขาไม่ได้ยอมพันธมิตรกับใครง่ายๆ เหมือนกับจุนฮยองแล้วเขาคงเห็นทางที่จะเติบโตกว่าเดิม
บ้านดีไซน์ทันสมัยมองด้านนอกคง บ้านที่ออกมาเพื่อเข้ากับคนรุ่นใหม่ ที่ดูจะใส่ใจสิ่งแวดล้อม งดงาม ร่วมสมัย
“มาหาคุณคังวูครับ” จุนฮยองเผลอกลืนน้ำลายเล็กน้อยกับการ์ดที่ดูมากเกินความจำเป็นไปหน่อย
“คุณจุนฮยองเชิญทางนี้ครับ” เขาพยักหน้าก่อนจะเดินตามเข้าไปในห้องที่การ์ดเดินนำไป
“เดี๋ยวนั่งรอซักครู่นะครับ” จุนฮยองพยักหน้าให้ แหงล่ะ เขามีทางให้ไม่รอด้วยหรอ
เสียงฝีเท้ากำลังเดินเข้ามาทำให้เขาเผลอจัดสูทโดยไม่รู้ตัว แต่กลับไม่ใช่คนที่เขากำลังรอ
ชายหนุ่มสูงน้อยกว่าเขาเล็กน้อยแต่เพราะเสื้อเชิ้ตเพียงตัวเดียวที่ปกคลุมร่างกายยิ่งทำให้เจ้าตัวดูตัวเล็กกว่าเดิม กระดุมที่ติดเม็ดต่ำกว่าปกติเผยให้เห็นไหปลาร้าที่มีร่องรอยการแสดงการเป็นเจ้าของ
ตาที่เปรยมามองเขาเล็กน้อยก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัยก่อนจะเดินผ่านไปทางครัวด้านหลัง
“มาหาคุณคังวูหรอครับ” ไม่รู้ว่าเผลอเหม่อไปตอนไหน เมื่ออีกคนมานั่งลงตรงข้ามเขา เสียงแหบหวานทำให้เขาเผลอสะดุ้งเรียกสติกลับมา
“เออครับ”
“น่าจะแต่งตัวอยู่ รอก่อนนะครับอย่าเพิ่งเบื่อนะครับ” พูดติดน้ำเสียงขี้เล่นนิดๆทำให้จุนฮยองผ่อนคลายขึ้นโดยไม่รู้ตัว ปากอิ่มคลี่ยิ้มหวานมาให้
หวานกว่าขนมหวานไหนๆที่เขาเคยกินมาซะอีก
“คุยอะไรกันละเนี่ย” เสียงทุ้มดูมีอำนาจทำให้เขาต้องยืดตัวตรงขึ้นเล็กน้อย เมื่อเขาเผลอมอง มากไป
“ก็เห็นคุณเขาอยู่คนเดียวนี่ครับ” แขนแกร่งโอบรอบเอวบางแต่แข็งแรงก่อนจะหอมลงเป็นลำคอขาวของอีกคน ก่อนคนตัวเล็กจะขอตัวออกไปให้ได้คุยธุระกัน
“น่ามองใช่มั้ยละ”
“ครับ?”
“กีกวังไง” จุนฮยองคิดเล็กน้อย ให้เดาว่าคนตัวเล็กเมื่อกี้คงจะชื่อกีกวังแน่ๆ
“ครับ”
“ใครก็ชอบทั้งนั้น”
“ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ชอบนี่ครับ”
อีกีกวัง เหมือนจะไม่ใช่คนธรรมดาที่พ่อแม่ส่งมาขายไถ่หนี้อย่างที่คังวูบอกเท่าไหร่ จากการที่เจอกันมาหลายๆครั้ง พูดคุยกันบ่อยๆ
มันทำให้เขาเผลอชอบมองอีกคนโดยไม่รู้ตัว
เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคังวูถึงได้ถูกใจคนนี้นักหนา
ไม่รู้ว่าคังวูถูกชะตากับจุนฮยองที่ตรงไหน มักจะชวนเขามาที่บ้านบ่อยๆ ทานข้าว ไม่ก็ไว้ใจเขาที่จะพาไปพบหุ้นส่วนของคังวูเอง
“ฝากกีกวังทีจุนฮยอง” เพราะคังวูต้องไปต่างประเทศเกือบอาทิตย์ อยู่ๆก็ส่งเนื้อชิ้นโตเข้าปากเขาซะงั้น
ถามจริงว่ามันคือบททดสอบหรือไง
“ทำไมจุนฮยองถึงมาทำงานแบบนี้ละ” จุนฮยองหันมามองคนที่กำลังคนมิลค์เชคของตัวเองไปมา คงเพราะปกติเขาเห็นแต่กีกวังใส่เสื้อเชิ้ตตัวหลวมไม่ก็ชุดทางการไปเลย พอเห็นอีกคนใส่ฮู้ดสีแดงแบบนี้มันกลับเหมือนเด็กน้อยมากกว่าซะอีก
ดูไร้เดียงสา
ดูน่าปกป้อง
“คงเพราะเงินละมั้ง” คนฟังพยักหน้าหงึกๆให้แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ จนเป็นเขาที่ลองถามบ้าง
“แล้วกีกวังละ”
“??”
“เล่าเรื่องกีกวังให้ฟังหน่อยสิ” ปากอิ่มยิ้มราวกับรู้ว่าเขาจะพูดอะไรออกมา เจ้าตัวไม่ตอบแต่ลุกขึ้นก่อนจะฉุดแขนเขากลับบ้านทันที
ตลอดทางเจ้าตัวไม่พูดอะไรทั้งนั้น
!!?
ปากอิ่มจูบเขาก่อนลิ้นเล็กหยอกล้อเล็กน้อยก่อนที่เขาจะตั้งสติได้แล้วจูบกลับอีกคน
“คนของคุณคังวูอยู่ทุกที่นะ” เสียงแหบหวานกระซิบบอกเขา ก่อนเราจะเริ่มบทรักหรือป่าวเขาไม่แน่ใจ แต่เขายอมรับว่ามันค่อนข้างใช้ได้เลยทีเดียว
ลูกคนเล็กของอีคอปเปอร์เรชั่นที่เกือบล้มละลายจนต้องมาขอกู้เงินกับคิมคังวู คงเพราะหลักเงินที่มากจนคังวูแทบไม่แน่ใจว่าทางนั้นจะใช้ให้ได้ตามที่ให้คำสัญญาหรือไม่ แม้จะเป็นเพื่อนพ่ออะไรก็ตามแต่ อีกีกวังยอมเสนอตัวมาเป็นอีกหนึ่งหลักประกัน หากอีคอปไม่จ่ายตามกำหนดเวลา หมายถึงชีวิตของลูกชายคนนี้ด้วย
แต่กีกวังเอาตัวรอดเก่งกว่าที่คิด เขาเปลี่ยนจากการมาเป็นตัวประกันมาเสนอตัวช่วยงานของคังวูอีกทาง ดีกรีนักเรียนนอกสายบริหารอย่างเขายอมทำให้ธุรกิจมันดีขึ้นได้
คังวูถูกใจ ยอมให้กีกวังทำงานใช้หนี้แทนครอบครัวครึ่งหนึ่ง
ทำงานทั้งในที่ทำงานและนอกที่ทำงานอย่างที่เห็น
“เหลืออีกเท่าไหร่ละ” กีกวังเผลอหัวเราะออกมาก่อนจะถามอีกคนเป็นเชิงเย้า
“ทำไมจะใช้คืนให้หรอ”
“เปล่า”
“..”
“จะซื้อมาเป็นของตัวเองบ้าง”
“บ้าหรือไง”
“คอยดูก็แล้วกัน”
กีกวังไม่คิดจริงๆว่าจุนฮยองจะทำจริงๆ หลังจากวันนั้นมาเกือบเดือนที่พวกเขาแทบไม่ได้เจอกันเลยอยู่ๆจุนฮยองก็ติดต่อมาหาคังวูบอกว่ามีข้อเสนอมาให้
จุนฮยองสามารถหาหุ้นส่วนในพื้นที่ที่คังวูอยากได้มาก แต่ไม่คุยเจรจาได้สำเร็จมาในครอบครอง เหลือเพียงแค่ของที่จุนฮยองอยากได้มาแลกเปลี่ยน
“กีกวังครับ” คังวูเลิกคิ้วกับคำขอของจุนฮยองก่อนจะหัวเราะออกมา
“เอาสิ คนคนเดียวแลกกับที่ทองขนาดนั้น” คังวูกระดิกนิ้วเรียกให้การ์ดพาตัวกีกวังไป จุนฮยองโค้งขอบคุณเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับคนตัวเล็ก
“บ้ามาก”
“ผมบ้ากว่าที่คุณคิดแล้วกัน” เขาไม่ได้ขายแค่ปล่อยเช่า คนอย่างคิมคังวูต้องลองมาเป็นรองเขาคงจะดิ้นตายกันซักหน่อย ถ้ารู้ว่าตระกูลยงของเขามีที่มากน้อยแค่ไหน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in