จุนฮยองไม่ชอบที่สุดคือตอนที่กีกวังไม่ยอมตอบข้อความเขาซักที นาฬิกาบนตัวเครื่องบอกว่าห้าทุ่มครึ่งแล้วแต่อีกคนยังไม่ตอบเขา ก็รู้อยู่หรอกว่าวันนี้ไปเลี้ยงสายซึ่งก็ต้องมีไปเมากันนิดๆหน่อยๆ
ปกติก็ตอบแต่วันนี้ไม่ตอบ
you : เตี้ย
you : เตี้ยอยู่ไหน
you : ออกร้านยังวะ
you : ตอบดิ
you : ไม่งั้นจะไปหาแล้วนะ
มากกว่าก็ความเป็นห่วงว่าอีกคนจะเป็นอะไรมากกว่าก็เล่นไม่ตอบกันนานขนาดนี้
ความสัมพันธ์ของเขากับกีกวังมันมากกว่าเพื่อนไปแล้วเขายอมรับ แต่พวกเขาก็ไม่เคยพูดว่าเป็นแฟนกัน แต่คนในกลุ่มต่างก็รู้ว่าคนนี้เป็นของจุนฮยองทั้งนั้น แม้บางทีเจ้าตัวจะไม่รู้ไปบ้างก็เถอะ ซื่อเบอร์นั้น
!!
โทรศัพท์แผดเสียงขึ้น แต่ผิดคาดมันไม่ใช่ชื่อที่เขาต้องการแต่อย่างน้อยคนในสายก็น่าจะรู้ว่าอีกคนเป็นยังไง
“อยู่ไหน” เขาถามทันทีที่กดรับสาย
/ร้านประจำ มึงรีบมา/
/กีกวังเริ่มเมาแล้ว/
ถ้าให้เทียบกับคนในกลุ่มนอกจากเขาที่คอแข็งที่สุดก็คงเป็นกีกวังแล้ว การที่ได้รู้ว่าอีกคนเมามันยิ่งทำให้เขาแทบจะเหาะไปที่ร้านให้ได้
เมาแล้วธรรมดาที่ไหนละ
“กูอยู่หน้าร้านแล้ว”
/เข้ามา โต๊ะซ้ายสุดด้านใน/ เขาวางสายก่อนจะรีบเดินเขาไปทันที ตากวาดมองตามหน้าเวทีที่มีดีเจเล่นเผลออาจจะเจออีกคนก่อนจะได้ไปถึงโต๊ะ
แล้วก็ตามนั้น
คนที่ออกกำลังกายตลอดเวลาจนหุ่นเฟิร์มแต่ไม่ได้บึกมากไป สัดส่วนร่างกายที่เรียกได้ว่าค่อนข้างเพอร์เฟคกำลังขยับไปตามจังหวะเสียงเพลง ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่กำลังรายล้อทและจ้องมองยังรวมไปถึงผู้ชายที่ยังพยายามคนนั้นคนที่เต้นอยู่โดยไม่สนใจใดๆ
มือข้างหนึ่งพาดลงบนเอวบางของหญิงสาวตรงหน้า ใบหน้าซุกลงกับซอกคอขาวที่คลุ้งไปด้วยกลิ่นน้ำหอม แต่ไม่ทันได้เต้นให้สมใจมือหนากระชากมือที่พาดเอวออกก่อนจะลากกลับโต๊ะทันที
“จุนฮยองหรออ” เสียงแหบหวานลากยาวคงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลที่ดื่มไปมากกว่าปกติ พอไปถึงโต๊ะก็ถึงรู้ว่าแทบไม่มีคนอยู่คงทยอยกันกลับแล้ว
“ฝากด้วยนะมึง” จุนฮยองพยักหน้าก่อนจะคว้าโทรศัพท์เจ้าตัวแล้วเจ้าของโทรศัพท์หิ้วกลับไปพร้อมกัน
“จุนฮยองจะรีบกลับทำม้ายย เพื่งมานี่หน่าาา” เสียงคนตัวเล็กที่ดังแง้วๆตลอดทางเพร่ะอยากกลับไปเต้นเต็มแก่แต่ต้องโดนลากมาขึ้นรถแบบนี้คงหงุดหงิดไม่น้อย แต่จุนฮยองก็ไม่ได้สนใจฟังลากจนอีกครขึ้นรถจนได้
“ทำไมไม่ตอบ” เขาเข้าประเด็นทันทีเมื่อปิดประตูรถ สตาร์ทรถแล้วแต่ยังไม่ออกไปไหน เขาต้องลงโทษคนดื้อก่อน
“ก้ออ มันอยู่บนโต๊ะ กีกวังเดินไปมาอ่าา” เสื้อเชิ้ตสีขาวของเจ้าตัวเริ่มรุ่ยไปเมื่อความร้อนในร่างกายมันระบายออกมาจนเจ้าตัวต้องปลดกระดุม
“คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีก เป็นห่วงเข้าใจมั้ย อย่าเพิ่งถอดกีกวัง!” เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงเมื่อโดนขึ้นเสียงใส่ อยู่ๆก็กลายเป็นอ่อนไหวมาดื้อๆ ตาใสริ้ื้นไปด้วยน้ำตาเหมือนเด็กน้อยที่โดนดุครั้งแรก
“จุนฮยองดุกีกวังอ่าา”
“ก็มึงจะถอดเสื้อในรถไม่ได้”
“ทำไมเล่า” ฟังกันตรงไหนละยังคงจะพยายามถอดเสื้อต่อไป จุนฮยองจับมือเล็กทั้งสองไว้ก่อนจะทำหน้าดุใส่
แกล้งซักหน่อยดีมั้ยเด็กดื้อเนี่ย
“อยากถอดก็มานั่งตักกู” เขารู้ว่าถ้าอีกคนเมาจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
“งื้ออออ จุนฮยองอ่า”
“จะอยากถอดมั้ยละ” ปากอิ่มเบะะเล็กน้อยแต่ขาเล็กก็พาดผ่านไปจนถึงหน้าขาของจุนฮยองแล้วค่อยๆขยับตัวเองมานั่งบนตักคนขับทั้งๆที่มือยังถูกกุมไว้
“ให้ถอดได้ยัง” เสียงงุ้งงิ้งยังคงติดหงุดหงิดหน่อยเหมือนรู้ว่าโดนเอาเปรียบ
“จูบกูก่อน”
“ง่าาา จุนฮยองเยอะอ่า”
“จะทำมั้ย” มือเล็กขัยบยุกยิกเล็กน้อยเพื่อให้จุนฮยองปล่อยก่อนจะจับหน้าของคนที่ตัวเองนั่งตักไว้
ปากอิ่มประทับลงก่อนจะเอียงองศาให้สามารถจูบได้ง่ายขึ้น ลิ้มเล็กหยอกล้อได้ซักพักก่อนที่จุนฮยองจะเป็นคนคุมเกม มือข้างหนึ่งของเขาจับสะโพกอีกไว้ ส่วนอีกข้างอยู่ที่ต้นคอของอีกคนจัดการโน้มอีกคนให้พิงกับพวงมาลัย ขออย่าให้ทะเล่อทะล่าทำแตรรถมีเสียงคงจะใช้ได้
“อื้มม” เสียงครางฮือในลำคอยิ่งทำให้จุนฮยองได้ใจ มืออีกข้างเฟ้นสะโพกของอีกคน ก่อนจะสอดเข้าไปใต้เสื้อ
“เดี๋ยวถอดเสื้ิอให้”
“โอยย ไอยงจุนฮยองง” จุนฮยองยืนมองคนที่นั่งโวยวายอยู่บนเตียงเขาเอง
สภาพต้องบอกเลยว่าโคตรเละ
เละทั้งเตียงและตัวเขานี่แหละ ผมยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ตั้งแต่ไหปลาร้าไปจนถึงท้องน้อยมีแต่รอยแดงแม้จะไม่ได้มากมายแต่มันก็เยอะอยู่ดีในความคิดเขา
“ทำตัวเอง” กีกวังเบ้ปากทันที ทำตัวเองบ้าไรละ เขาจำได้ว่าเมื่อวานเขาแค่ไปกินข้าวกับสายรหัสแล้วพี่ๆปีแก่นึกคึกอยากมอมเด็กก็เลยพาไปด้วย ในฐานะเขาเป็นปีสองก็เลยต้องมีการรับผิดชอบแทนน้องไปหลายแก้ว
“กูมาอยู่ห้องมึงได้ไง”
“จำไม่ได้เลย?”
“จำได้แค่ว่าขึ้นรถมึง”
“แล้ว”
“แล้วก็จูบมึง”
“แล้วไรอีก” เห็หน้าเวลากีกวังตื่นแล้วหงุดหงิดคงเป็นสิ่งที่เขาชอบ แกล้งใครก็คงไม่สนุกเท่าแกล้งอีกีกวังคนนี้อีกแล้ว
จุนฮยองเดินมานั่งบนเตียงกับอีกคน ก่อนจะขยับตัวไปใกล้ๆ แน่ละยังไงกีกวังก็หนีเขาไม่ได้เพราะเมื่อคืนใช่ว่าจะรอบเดียวจบ
“เอางี้ ช่วยทวนให้มั้ยเมื่อวานเกิดไรขึ้น” ผิดคาดไปหน่อยเขาลืมว่ามันมีหมอนอยู่บนเตียงถึงได้โดนฟาดหน้าไปเต็มๆ
“กีกวัง” จุนฮยองเรียกชื่อคนที่กินข้าวไม่สนขิงสนข่าใดๆรวมถึงตัวเขาด้วย เออ อยู่กับของกินละเขามันก็เป็นอากาศไปละ
“ไรมึง”
“คราวหน้ามึงไปไหนบอกกูด้วยเข้าใจมั้ย” หัวกลมพยักหน้าส่งๆให้กับคำพูดของจุนฮยอง
“กูเป็นห่วง”
แค่ก แค่ก
“เด๋อ” จุนฮยองว่าก่อนจะยื่นน้ำให้คนที่เอาแต่สำลัก
“ก็มึงพูดอะไรไม่รู้”
“กูพูดจริง” พอจุนฮยองทำหน้าจริงจังก็เล่นเอาคนสำลักไม่กล้าไปต่อเลย มากครั้งที่ไหนละที่จุนฮยองจะบอกเป็นห่วงเขา
น่าอัดเสียงไว้ชะมัด
“แต่จริงๆกูหวงมากกว่า”
ประโยคนี้ยิ่งแล้วใหญ่
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in