ฉันตื่นมาในเช้าวันหนึ่ง แล้วก็รู้สึกว่าอยากได้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเพื่อจะนำมาใช้ทำงานและเยียวยาหัวใจสักชิ้น แต่พอมองกลับไปดูในบัญชี มันกลับว่างเปล่า ทั้งๆ ที่ฉันคิดว่าตัวเองก็เป็นคนที่บริหารการเงินอยู่ตลอด
ทั้งหมดเป็นเพราะกองทุนกับหุ้นไงล่ะ!
ย้อนกลับมาเมื่อหลายปีก่อน ฉันเริ่มเข้าวงการซื้อกองทุนตั้งแต่สมัยเรียน ก็รู้สึกว่าเริ่มต้นเร็วกว่าหลายๆ คนนะ สำหรับเด็กคนหนึ่งแล้ว...การมองเห็นเงินเพิ่มขึ้นในบัญชีทุกๆ เดือนมันก็เป็นสิ่งที่ชื่นใจพอๆ กับคู่จิ้นที่เราเพียรตามมานานได้คบกัน มันเพิ่มพูนความรู้สึกและความฟินของตัวฉันเองได้ดี แต่แล้ววันหนึ่งที่ฉันเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ธรรมดาๆ ฉันก็พบว่า ในบัญชีไม่มีเงินที่พร้อมถอนออกมาใช้ได้เลย
สมมติว่าฉันมีเงินเดือน 100% ฉันจะกันออกมา 50% เพื่อเล่นหุ้นหรือลงกองทุนทันที(บางทีค่าไฟยังไม่ได้จ่ายเลยจ้า) ฉันทำแบบนี้มาตั้งแต่เรียนมหาลัยจนทำงาน บางทีก็ติดขัดเรื่องเงินนิดหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับอดอยาก บางคนอาจจะคิดว่ามันก็ดีแล้วนี่ ได้เก็บเงินแถมยังได้กำไรด้วย แต่เวลาเงินที่เราลงทุนไปแล้วมันจะไม่ได้ขายตอนนี้แล้วได้เงินปุ๊บปั๊บเลย แต่สเต็ปมันจะ T+3 T+5 หมายความว่า ถ้าคุณขายวันนี้ คุณจะได้เงินในอีก 3 วัน 5 วันข้างหน้า (ไม่นับวันหยุดราชการและเสาร์อาทิตย์) เอาแบบมองเห็นภาพง่ายๆ ถ้าโทรศัพท์ฉันพังวันนี้ อีกห้าวันฉันถึงจะได้ซื้อใหม่ หลายคนอาจจะเคยได้ยินคนใกล้ตัวชอบบอกว่าฉันไม่มีเงินแล้ว ทั้งๆ ที่มันก็ดูมีเงินอยู่นะ ....ฉันเองเพื่อนสาว! That’s me! ฉันมีเงินแต่ฉันเอาออกมาโชว์ไม่ได้
คนที่พึ่งเริ่มเล่นจริงๆ จะสงสัยว่ามันไม่เห็นติดเลย อยากให้ลองเทียบกับคนที่ซื้อหวยทุกงวดเพราะเดือนที่แล้วมันเกือบจะถูก หรือคนที่เล่นการพนันเสียแล้วกลับมาแก้ตัวตาใหม่ไปเรื่อยๆ จะให้เรียกแบบขำๆ มันก็คือการพนันที่ถูกกฏหมายนี่แหละ คุณมีสิทธิ์ได้เยอะถ้าเสี่ยง แต่ถ้าเสี่ยงเยอะเงินทุนของคุณก็อาจจะหาย หากฉันลงทุนเท่ากับไอโฟน 1 เครื่อง แต่ถ้าขายออกมาจริงๆ อาจจะได้แค่สายชาร์จอันเดียวก็ได้! (แต่มันก็ไม่เสมอไปหรอกนะ...พูดสะน่ากลัวเชียว)
อย่างที่บอกไปข้างบน จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่ามันเกินไปหน่อยแล้ว ฉันควรจะมีความสุขกับเงินที่ยังมีอยู่ ไม่ใช่เงินในอนาคตอย่างเดียว ฉันเคยคิดถึงขนาดจะออกมาเทรดเป็นอาชีพ(ซึ่งแกฝันกลางวันไปเอง มันไม่ได้เยอะขนาดนั้น) แต่ก็มานั่งคิดดีๆ แล้ว ฉันยังมีความสุขกับหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตมากกว่าการนั่งจ้องกระดานสีดำที่มีตัวเลขเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ฉันมีความสุขกับการเขียนบทความ ฉันมีความสุขกับการวาดรูปเล่น ได้พูดคุยเกี่ยวกับงานอดิเรกของตัวเอง ฉันเลยคิดว่า...มันควรแล้วที่จะเริ่มต้นคิดถึงตัวเองในแบบที่อยู่กับปัจจุบัน
เพราะงั้น ฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ตั้งแต่วันนี้ ถึงมันจะดูเป็นคำปฏิญาณตัวแบบแกล้งๆ แต่ฉันต้องลงมือทำเพราะฉันไม่มีบาลานซ์การใช้ชีวิตแล้วจริงๆ ฮา
ส่วนใครกำลังจะก้าวขาเข้ามาในการลงทุน ฉันไม่ได้ห้ามนะ แต่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจพอสมควร มันเป็นสนามที่วัดใจความซื่อสัตย์ต่อตัวเองพอสมควร มีนักเทรดเคยเล่าให้ฉันฟังว่าถ้าปฏิญาณตัวเองว่าจะขายขาดทุน%เท่านี้(cut loss) จะเสียกี่ล้านก็ต้องขาย วัดใจมาก...ขอกุมพระแรงๆ ตั้งแต่ก่อนซื้อเลย
แล้วก็อีกเรื่องที่ฉันอยากจะย้ำตัวเองบ่อยๆ ทุกครั้งที่หลงระเริงไปกับกำไรที่โชว์อยู่หน้าแอพ นั่นก็คือเงินเหล่านี้ฉันยังไม่ได้รับ มันเป็นแค่ตัวเลขกำไรที่ฉันจะได้เมื่อขาย ณ ตอนนี้ ไม่ใช่กำไรที่ฉันจะได้ในอนาคต ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกครั้งที่เห็นเลขสีเขียวมันเพิ่มขึ้น ฉันจะใจขึ้นทุกที55555 ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการลงทุนนะคะ ถ้าหลงเข้าสู่โลกนี้แล้วก็อยากให้ย้อนกลับมาทบทวนตัวเองบ่อยๆ นะว่าชีวิตได้เดินไปในทางที่เราต้องการแล้วหรือยัง ถ้ามันบิดออกไปก็เรียกมันกลับเข้าที่ด้วยนะ
โชคดี :)
ชอบตอนที่คุณเขียนว่า "ฉันควรจะมีความสุขกับเงินที่ยังมีอยู่ ไม่ใช่เงินในอนาคตอย่างเดียว" แล้วรู้สึกเห็นด้วย แต่ก็ยังไม่กล้าพออยู่ดีค่ะ 5555555555 ตอนนี้เราเองก็กังวลไปแล้วว่าในอนาคตเราจะไม่สามารถบาลานซ์ชีวิตตัวเองได้ เรากลัวการไม่มีเงินมาก จนถึงขั้นแค่อยากจะเก็บเงินไว้ ไม่กล้าใช้ ถ้าในตอนที่เราโตขึ้นเราเป็นแบบนั้น เราจะกลับมาอ่านบล็อกนี้ของคุณนะคะ แล้วก็ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่ตัดสินใจนะคะ 'คิดถึงตัวเองในแบบที่อยู่กับปัจจุบัน' :)