ยามาดะ ยูซุเกะ เขียน
บัณฑิต ประดิษฐานุวงษ์ แปล
ผุสดี นาวาวิจิต บรรณาธิการพิเศษ
สำนักพิมพ์ ไดฟุกุ - ลิท
------------------------------------------------------------------------------------------------
คำโปรย
ซึบาสะ ซาโต้ พลัดพรากจากน้องสาวและแม่ตั้งแต่ยังเด็ก แต่ถึงกระนั้นก็ยังใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็ง และเชื่อมั่นเสมอว่าสักวันแม่จะพาน้องกลับมาหาเขา จนเวลาล่วงเลยไป 14 ปีวันหนึ่ง ผู้นำประเทศซึ่ง
มีนามสกุลว่า “ซาโต้” รู้สึกไม่ชอบใจที่ในประเทศมีคนใช้นามสกุล “ซาโต้” ถึง 5 ล้านคน จึงคิดเกม “ซ่อนหาล่าจริง” กติกาก็คือ ภายใน 7 วัน, คุณ “ซาโต้” ทั้งหลายต้องหลบหนี “ผู้ล่า” ซึ่งมีทั้งหมด
1 ล้านคน ถ้าถูกจับได้ ตายสถานเดียว
ท่ามกลางความตึงเครียดและสิ้นหวัง นอกจากต้องแข่งความเร็วกับผู้ล่า ซึบาสะยังต้องแข่งกับเวลาเพื่อตามหาน้องสาวก่อนที่ภัยจะมาถึงตัวน้อง เขาจะช่วยน้องสาวและมีชีวิตรอดจนจบเกมฆ่าที่ไร้คุณธรรมได้หรือไม่ แล้วจะมีคุณ “ซาโต้” เหลือรอดกี่คนกัน...
-------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องราวเริ่มเล่าที่ “ซึบาสะ ซาโต้” นักกีฬาวิ่งระยะสั้นที่อาศัยอยู่กับคุณพ่อในเมืองโยโกฮาม่า
ตอนเขาอายุ 7 ขวบ คุณแม่ได้พา “ไอ” น้องสาวของเขาไปอยู่ด้วยกันที่อื่นเพื่อหลีกหนีจาก “เทรุฮิโกะ”
พ่อที่นอกจากขี้เมาแล้ว ยังทำร้ายร่างกายคนในครอบครัวอีกด้วย แต่ถึงจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น ซึบาสะก็ยังเฝ้ารอและเชื่อมั่นอยู่เสมอว่าสักวัน...แม่และน้องสาวจะกลับมาอยู่ด้วยกันกับเขา
14 ปีผ่านไป ผู้นำคนที่ 150 ขึ้นปกครองประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 3000 ผู้นำคนนี้เอาแต่ใจ
เห็นแก่ตัว และไม่สนใจเหตุเป็นไปของบ้านเมือง เอาแต่ใช้ชีวิตหรูหราไปวันๆวันหนึ่ง เมื่อท่านผู้นำ
ได้รู้ว่าในประเทศที่ตนปกครองอยู่นั้น มีคนใช้นามสกุลเดียวกับเขา นั่นคือ “ซาโต้” ถึง 5 ล้านคน
จึงเกิดความคิดที่ดี (ดีตรงไหนกันนะ...?) ขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง นั่นคือ “เกมซ่อนหา”
กติกาก็แสนง่ายดาย เหล่าคนนามสกุลซาโต้ต้องหนีจากการถูกล่าให้ได้ ถ้าหนีไม่พ้นจะโดนจับไปที่ที่คุมขังลับและจับสังหารให้เหมือนหลับ แต่ถ้าใครหนีพ้นครบสัปดาห์ได้นั้น จะได้รับรางวัล เกมจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 24 ธันวาคม ตั้งแต่ห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน จะมีเสียงไซเรนเปิดเป็นสัญญาณเริ่มเกม
ส่วนสัญญาณปิดเกมจะเป็นเสียงกริ่ง จะหนีไปซ่อนด้วยวิธีไหนก็ได้ (แต่ถ้าใช้ยานพาหนะทุกอย่าง
ไม่ว่านามสกุลอะไรก็จะถูกจับฆ่าหมด)
ส่วนฝ่ายผู้ล่าจะมีแว่นตาไว้ตรวจจับคนที่มีนามสกุลซาโต้ ถ้าทั้งสองฝ่ายอยู่ในระยะใกล้กัน
แว่นตาจะส่งสัญญาณเตือนขึ้นมา และการไล่ล่าจะเริ่มต้นขึ้นและแล้วชีวิตของผู้คนนามสกุลซาโต้ทั้ง
5 ล้านคนก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!!
ตอนที่อ่านเรื่องย่อ แวบแรกนึกถึงภาพยนตร์เรื่องดังของญี่ปุ่นอย่าง Battle Royale ที่มี
ความคล้ายกันในการที่ฝั่งรัฐบาลอยากกวาดล้างคนด้วยสาเหตุที่ต่างกัน (ในเกมซ่อนหาฯ กวาดล้าง
คนนามสกุลซาโต้ เพราะว่าท่านผู้นำไม่ชอบใจที่มีคนใช้นามสกุลเหมือนกัน ส่วนใน Battle Royale นั้น กวาดล้างพวกเด็กนิสัยไม่ดีด้วยการออกกฏ BR เพื่อลดจำนวนเด็กนอกคอกด้วยการสุ่มห้องเรียนส่งไป
ฆ่ากันเอง)
แต่พอเริ่มอ่านเนื้อเรื่องที่เริ่มจากชีวิตธรรมดาของตัวละครนำอย่าง “ซึบาสะ ซาโต้” ไปสู่การพยายามเอาตัวรอดจากเกมซ่อนหาพรากชีวิตของผู้นำเอาแต่ใจ ไม่ว่าจะผู้คนที่พบเจอก็ดี เหตุการณ์ที่ต้องเผชิญหน้าก็ดียิ่งทำให้รู้สึกใจเต้นและคอยเอาใจช่วยอยู่หน้ากระดาษด้วยความรู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กับในเนื้อเรื่องเลยทีเดียว
จะหนีไปทางไหน จะเจอใคร อุปสรรคข้างหน้ามันหนักหนาแค่ไหนเรื่องไหนที่สามารถทำร้ายจิตใจคนคนหนึ่งได้มากขนาดนี้? อ่านไปก็คิดสมมุติไปพลางว่าหากเราต้องพบเจอเหตุการณ์เลวร้าย
แบบในเรื่อง จะทำอย่างไรดี จะยอมเสี่ยงสักหนเพื่อหาทางรอดดีหรือไม่ แล้วถ้าหนี จะวิ่งหนีอย่างไรไม่ให้รู้สึกเหนื่อยง่ายเกินไป ไปทางไหนถึงจะรอดยังมีใครที่พอจะเชื่อใจให้พึ่งพาได้หรือเปล่า (ประมาณนี้เป็นต้น)
และเมื่ออ่านถึงบทสรุปของเรื่อง ความกดดันก็ผ่อนคลายลงด้วยความรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะว่าในที่สุดสิ่งที่เราคาดหวังอยากให้เกิดขึ้นในนิยายเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงสมใจนึกเสียที (เราจะ
ไม่บอกว่าเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ตอนที่นั่งอ่านรู้สึกสมใจนึกแบบนี้ อยากขอให้คุณไปพิสูจน์ด้วยสายตา
ตัวเองดู)
สรุปแล้ว “เกมซ่อนหาล่าเอาตาย” นั้น เป็นนวนิยายเรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำให้อ่านเป็นอย่างยิ่งเพราะนอกจากเรื่องราวน่าตื่นเต้นเกิดขึ้นตลอดทั้งเล่มแล้ว สำนวนการเขียนบรรยายยังทำให้เราคอยลุ้นเอาใจช่วยเหล่าคุณซาโต้ทั้งหลายแบบไม่ยอมรามือจากการถือหนังสือเลยทีเดียว
เขียนรีวิวเมื่อวันที่ 15/3/2562
a_lot_of_stars (ปัจจุบันฝึกงานอยู่ที่สำนักพิมพ์ไดฟุกุ)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in