Hurry Go Round (2018, Tomoaki Ishikawa)

ขณะดูก็คิดว่าสารคดีได้เลือกข้างเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว นั่นก็คือข้างที่บอกว่า “ฮิเดะไม่ได้ฆ่าตัวตาย” และหนังก็ย้อนกลับไปค้นหาชีวิตของฮิเดะและความหมายที่แท้จริงของเพลง ‘Hurry Go Round’ ซึ่งหนังก็ไม่ได้ปิดหากจะตั้งเป้าไว้ในใจแต่แรก เพราะเราผู้ชมเองก็มีสิทธิเลือกเช่นกัน

ที่จริงแล้ว ตัวเองของหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ตัวฮิเดะ แต่เป็นเพลง Hurry Go Round ที่ได้รับการปฏิบัติเป็นเพลงสุดท้ายที่อาจมีความหมายสื่อถึงจดหมายลาตายของฮิเดะ เป็นวัตถุที่ให้สื่อหยิบมาขยี้ขายข่าวกัน จนเวลาผ่านไป 20 ปี หนังเรื่องนี้แสดงตนทำหน้าที่เป็นพาหนะนำพาผู้ชมไปค้นหาความจริง

ยอมรับว่าเรารู้จักฮิเดะและ X-Japan อย่างผิวเผิน แต่ถ้าหากหนังเลือกที่จะให้นักแสดงหนุ่มที่แทบไม่ได้โตมากับฮิเดะเลยเป็นคนค้นหาความจริงและแสดงความเห็น เราก็เชื่อว่าเราคงสามารถแสดงความเห็นของตัวเองได้ ขณะที่ดูหนังเรารู้สึกเศร้าพอสมควร ที่สุดท้ายแล้วเหมือนจะไม่มีใครเข้าใจฮิเดะ ที่สำคัญไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับคนซึมเศร้าหรือคนคิดฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ คำพูดช้ำๆ แบบ “เขาร่าเริงดี” “เขาไม่มีท่าทีฆ่าตัวตายเลย” ยังเป็นประโยคน่าเบื่อที่เราได้ยินจากหนังเรื่องนี้

กลายเป็นว่าถึงแม้ฮิเดะจะจากไปแล้ว แต่เขายังต้องคงสภาพเป็นไอดอล เป็นคนในอุดมคติ เป็นฮิเดะผู้ร่าเริงสนุกสนาน สร้างแรงบรรดาลใจให้ผู้คน กล้องถ่ายภาพจับให้คนดูรับรู้ว่าการฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่ไม่ดี ทำให้คนข้างหลังเสียใจ แต่กลับละเลยที่จะแตะต้องค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของมัน

อย่างที่เราแสดงความคิดเห็นในข้างต้น หนังเองก็เลือกข้างความคิดเอาไว้แล้ว ดังนั้นเมื่อมีฟางที่เป็นร่างเก่าของเพลง Hurry Go Round ที่มีความหมายบวกมากกว่าหนีลังจึงรีบหยิยมาเป็นหลักฐานทันที โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าขณะที่เนื้อเพลงเปลี่ยนไปนั้น ฮิเดะจะรู้สึกอย่างไร ความเศร้าของฮิเดะที่ร้องไห้ ความโกรธของฮิเดะที่แสดงออกคนรับรู้ แต่กลับปฏิบัติต่อมันอย่างแผ่วเบา และอีกหลายประโยคที่สุดท้ายแล้ว เหล่าผู้ให้สัมภาษณ์ต่างรผุ้อยู่แก่ใจ ว่าสิ่งที่ฮิเดะทำคืออะไรกันแน่

อนึ่ง ฉากที่กล่าวว่าฮิเดะไปต่างประเทศก่อนกลับมาญี่ปุ่น หลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาก็เสียชีวิต เรานึกถึงฉากหนึ่งใน tokyo.sora หรือ All About Lily-chou chou แม้กระทั่ง The Ratcatcher เมื่อชีวิตรับรู้ถึงความสุขอละอิสระแล้ว มันก็น่าเศร้าและหดหู่เหลือเกินที่จะต้องกลับไปที่เดิมอีก