เขาไม่ชอบพูดสักเท่าไหร่
ปัญหาจากการเป็นคนขี้รำคาญ ขี้หงุดหงิด
พ่วงด้วยการเป็นโรคสมาธิสั้นแต่เด็ก จึงต้องหาสิ่งดึงดูดความสนใจระยะยาวอยู่ตลอดเวลา
เพราะงั้น,
การลงไปอยู่ใต้น้ำจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเขาในวัย8ขวบ
ให้เด็กได้มีสมาธิ จดจ่อและตั้งเป้าหมายกับตนเอง
นี่ไม่ได้คิดเองหรอกนะ แต่แม่บอกมาแบบนั้น จะขัดขืนอะไรได้
แต่ก็ดี
ข้างใต้ผิวน้ำ ว่ากันว่าคนเราจะไม่ได้ยินเสียงสิ่งอื่นใดนอกจากเสียงหัวใจของตนเอง
เพราะมันแสนจะเงียบสงบ ผิดกันกับข้างบน
เขาชอบ
เด็กชายลอยตัวอยู่ในสระกลางแจ้ง
สายตาเริ่มพร่ามัวจากแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านเข้ามาแยงตา จึงหลับตาลงและปล่อยให้ร่างกายกลายเป็นส่วนหนึ่งของน้ำ
อยากจะดำดิ่งให้ลึกลงไปกว่าเดิม
ติดแค่หากนับเวลาที่เขาสามารถกลั้นหายใจได้นานที่สุด มันก็แค่3นาทีเท่านั้น
หากหายใจใต้น้ำได้แบบพวกปลาก็คงจะดี
เขาคิด
จะได้หนีไปให้พ้นๆจากเสียงบ่นของพ่อ
และรวมถึงคนอื่นๆที่ชอบส่งเสียงดังข้ามหัวกันไปมานั่นด้วย
แต่เด็กคนนั้นก็ไม่ได้เสียงดังสักเท่าไหร่
อืม
จะว่าไปก็ไม่เคยเห็นเด็กคนนั้นในโรงเรียนมาก่อนเลย
ย้ายมาใหม่ล่ะมั้ง
.
"โดยอง"
"นี่ คิมโดยอง"
"ครับ?"
อาจารย์มินเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ขอบสระ ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีวี่แววว่าจะขยับตัวเข้าไปใกล้
"มานี่สิ" ยังคงพยายามกวักมือเรียกอีกครั้ง ทั้งที่รู้
เมื่อไม่มีวี่แววจะตอบสนองกลับคำเรียก ชายวัยกลางคนจึงพูดต่อ
"มีเด็กมาเข้าชมรมใหม่"
"นักกีฬาว่ายน้ำเก่า ดีกรีเหรียญทองเยาวชน"
โดยองลืมตาขึ้นเมื่อได้ยิน
เขาพลิกตัวเพื่อพาปลายเท้าของตัวเองแตะพื้นสระ ก่อนจะหันไปทางเสียงของอาจารย์
"ชื่ออะไร"
โดยองพูดตอบ ไร้ซึ่งหางเสียง
แต่มันเป็นปกติ
"แจฮยอน"
"ครับ?"
"จองแจฮยอน"
เด็กคนนั้นน่ะเหรอ
"ที่เคยแข่งกับผม? ตอนนั้นเหรอ"
"อืม จำได้ไหม"
จำไม่ได้
หมายถึง จำหน้าตาของเด็กคนนั้นในวัย13ปีไม่ได้แม่นนัก
อย่างที่บอก เขาไม่ได้จดจ่อกับผู้เข้าแข่งขัน เขาตั้งมั่นแค่ชนะเท่านั้น
"จำได้ ล่ะมั้ง"
"หึ ผ่านมาตั้ง5ปีแล้วยังจำได้อีกนะ"
"แหงล่ะ ,ปีนั้นผมชนะ" เขายักไหล่
"ครั้งแรก ,ใช่ เด็กคนนั้นก็แพ้เป็นครั้งแรกเช่นกัน"
"งั้นเหรอครับ ไม่เคยรู้มาก่อน" โดยองค่อยๆก้าวมาเกาะที่ริมขอบสระ มือกอดอกเมื่อลมเย็นๆพัดผ่าน
"ไม่ได้โดนทาบทามเข้ารุ่นเด็ก18ไปแล้วเหรอครับ เขามาทำอะไรที่นี่ ,โรงเรียนที่ชมรมว่ายน้ำมีดีแค่สระ แต่กลับไม่มีคนเก่ง และถึงจะมีคนเก่ง ก็เก่งแค่คนเดียว" เอานิ้วชี้จิ้มมาตรงอก นั่นล่ะ เขาหมายถึงตนเอง
อาจารย์ยิ้ม
แล้วเอามือมาดีดหน้าผากเขาดังเป้าะ
"โอ๊ย"
"เว่อร์ๆ ไม่เจ็บสักหน่อย"
"เจ็บสิครับ"
"ว่าฝากดูแลเขา ,เด็กคนนั้นเพิ่งประสบอุบัติเหตุร้ายแรงมาเลยล่ะ"
"หืม?" เด็กชายเลิกคิ้ว
อะไรนะ?
"รถคว่ำน่ะ"
"ตอนนี้หูเขาจะไม่ค่อยได้ยิน เวลาลงน้ำก็ต้องถอดเครื่องช่วยฟัง"
"พ่อแม่เขาเสียในอุบัติเหตุ"
"คอยดูแล แล้วก็อย่าไปโมโหใส่นักล่ะ"
"โดยอง"
.
"แค่อ่างอาบน้ำยังไม่กล้าลง ทำไมถึงตัดสินใจเข้าชมรมว่ายน้ำล่ะ"
ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วกัน
"ฟังกันบ้างซี่ ฉันไม่ได้จะทับถมนายนะ เพียงแค่"
"เป็นห่วง"
"รู้แล้ว"
"แค่พยายามให้มากขึ้นอีกนิด ไม่ดีเหรอ"
คริส เพื่อนสนิทที่ไม่ได้ย้ายตามมาจากโรงเรียนเก่าถอนใจ
มันทำไมนัก วันนี้ทุกคนถอนหายใจใส่เขาเป็นร้อยรอบแล้วนะ
"ได้ข่าวว่าวันนั้นไปถึงขอบสระ ก็แทบเป็นลมแล้ว"
"ไม่ขนาดนั้นเสียหน่อย"
"จริงเหรอ งั้นใครหน้าซีดโทรหาฉันสายแทบไหม้"
"ก็เธอไม่ตอบข้อความ ฉันแค่ต้องการให้ใครสักคนรับรู้"
"แล้วแบบนี้จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไง หืม"
เธอทำหน้ายุ่ง แจฮยอนต้องมองกลับไปผ่านกล้องหน้าจอโทรศ้พท์
สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนที่ไม่รู้จัก ทำเขาแทบบ้า
"แล้วยังได้ยินเสียงในหูอยู่อีกไหม"
เขาส่ายหน้า
"มันควรจะได้ยินเวลาถอดออก ไม่ใช่เวลาใส่" เธอย้ำ
"ฉันรู้ ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน"
"ไปหาคุณหมอบ้างนะ"
"มันดีกับนาย"
"แต่ไม่ดีต่อใจเลย"
แจฮยอนเอ่ยคำลา ก่อนจะกดวางสายจากวิดีโอคอล
เขาโยนโทรศัพท์ไปห่างๆ รู้สึกรำคาญเครื่องช่วยฟังนี่เป็นบ้า แต่ก็ไม่อาจถอดมันออกได้
เผื่อมีใครในบ้านเรียก
อย่างเช่น พ่อกับแม่
แต่เขาลืมไป
ไม่มีใครอยู่บนนี้สักคน
บนโลกนี้
.
บ่ายสามแล้ว เวลาที่ปล่อยให้เด็กๆกีฬาเข้าชมรมของตนเอง
แจฮยอนนั่งนิ่ง ไม่ย้ายตัวออกจากห้องเรียน จนเพื่อนในห้องเอ่ยถาม หากจะมีอะไรบางอย่างให้พวกเขาช่วย ก็เต็มใจช่วยเหลือ
"ไม่เป็นไรครับ"
สุดท้ายก็ต้องเดินออกมาพร้อมๆกันกับเจน หัวหน้าห้องที่มองตามมาด้วยสายตาเป็นห่วงเมื่อแยกจากกัน
เขาปิดกั้นคนอื่นๆ รวมถึงตัวเองไม่ให้มีปฎิสัมพันธ์ หรือความสนิทสนมกับใคร
แต่ก็เลี่ยงการพูดคุยไม่ได้นัก
เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม คริสกล่าวไว้
สระว่ายน้ำมีเสียงพูดคุยกันดังเซงแซ่ ทั้งเด็กปีสุดท้ายและเด็กปีอื่นๆที่เป็นสมาชิกชมรม
ปกติแล้วต้องมีการคัดเลือกคนเพื่อจัดระดับการฝึกซ้อม แต่เขาเป็นกรณีพิเศษ
เด็กชายรับรู้ได้ถึงสายตานับสิบคู่ที่มองมาจากหลากหลายทิศทางเมื่อเขาก้าวผ่านบันไดขั้นที่เสมอกันกับพื้นยกระดับภายในสระร่ม
เขากระชับกระเป๋าเป้ให้เข้าที่ ด้วยความประหม่าค่อนข้างมาก
"อ้าว แจฮยอน ,มานี่สิ"
เสียงอาจารย์มิน ผูู้ดูแลสระ และโค้ชที่น่าเคารพเรียกพร้อมกวักมือให้เขาเดินไปหาที่มุมหนึ่งติดกับโซนสำนักงานและ ห้องเปลี่ยนเสื้อ
"สวัสดีครับ"
"อืม สวัสดี ,วันนี้เธอจะลงสระเลยไหม"
เขาชะงัก กระอักกระอ่วนเล็กน้อยเมื่อถูกคาดคั้นอย่างเร่งด่วน
เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตัวเขาในตอนนี้นั้นยังไม่กล้าพอจะลงสระเร็วๆนี้แน่ๆ
"วอร์มเสร็จแล้วก็ลงได้เลยนะ ฝั่งตื้นนั่นก็ได้"
"ครับ"
"จริงๆฉันต้องอยู่ดูแลเธอ แต่ติดประชุมเรื่องงบชมรมนิดหน่อย เธออยู่เองได้ใช่ไหม"
อ่า
"เด็กๆที่นี่พร้อมจะช่วยเธอ ถ้ามีปัญหา หรือขาดเหลืออะไรก็บอกกันได้เลย"
เขายิ้มให้อาจารย์มินที่พูดรัวๆแบบไม่สนใจสีหน้าเลิกลั่กของเขาแม้แต่นิด
ทั้งที่ในใจอยากจะกรี๊ดออกเสียง
แบบคริสเวลาเจออะไรน่าขัดใจ หรือน่าหงุดหงิด
ซึ่งในเวลานี้เขากำลังหงุดหงิดตัวเอง
"ไหวไหม? แจฮยอน"
"คือว่า"
"หรือเธอยังไม่โอเคกับการลงสระคนเดียว?"
แจฮยอนยอมแพ้
เขาพยักหน้าอย่างหมดหวัง
โค้ช หรืออาจารย์มินจะต้องไล่เขาออกแน่
เข้าก็เข้ามาด้วยวิธีที่เรียกกันว่าใช้เส้น
แต่กลับทำอะไรแก่ชมรมไม่ได้
"เอาแบบนี้แล้วกัน"
"ครับ?"
"โดยอง"
"คิมโดยอง!!!"
อาจารย์ตะโกนเสียงดังชนิดที่คาดว่าแม้แต่เด็กที่ว่ายน้ำอยู่ก็คงได้ยินไปจนถึงใต้น้ำ
เรียกหาใครสักคนที่เป็นเจ้าของชื่อเรียกที่ฟังคุ้นหู
"อะไรครับ อาจารย์"
แจฮยอนหันขวับไปอีกทาง
ทิศทางที่มาของเสียงมีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่
เด็กคนนั้น เดินขึ้นมาจากสระน้ำระดับลึก
ผมยาวสีดำในเวลานี้ถูกเก็บจนมิดชิดไว้ภายใต้หมวกว่ายน้ำ
เขาจำได้ว่าเราเพิ่งเจอกันไปเมื่อวานนี้นี่เอง
"นี่แจฮยอน , นี่โดยอง"
"รู้จักกันไว้นะ"
"โดยองไม่เคยมีพาร์ทเนอร์มาก่อน เพราะงั้นเขาก็อาจจะขี้หงุดหงิดไปบ้าง"
โดยองเลิกคิ้ว กวนประสาท
"แจฮยอนมีปัญหานิดหน่อย ,ช่วยดูเขาด้วยนะ"
"เข้าใจที่พูดไหมทั้งสองคน"
"ครับ/อืม"
"ดี"
ดีกับผีสิ
เด็กคนนั้นโบกมือลากึ่งๆไล่ให้อาจารย์เดินจากไปเสียที
"ไง"
"เมื่อวานเดินหนีทำไมวะ"
เสียงตึกตัก โผล่มาอีกครั้ง
ในตอนนี้ช่างรู้สึกว่ามันน่ารำคาญมากกว่าจะตกใจแล้ว
"ถามไม่ตอบ"
"นอกจากไม่ค่อยได้ยินแล้วยังเป็นใบ้ด้วยเหรอ"
รำคาญเจ้าของเสียงหัวใจนั่นแหละ
จอง แจฮยอนอยากจะกรี๊ด
คราวนี้เพราะสถานการ์ณมันช่างน่าขััดใจเหลือเกิน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in