Breathe In The Light
Chapter 4 |That's your girl, Dr.Strange?
เรล่ามองฝ่ามือตนเองขณะที่อ่านหนังสือในห้องสมุด ตอนนี้เลขเปลี่ยนไปแล้ว มันขึ้นเลข 16 ซึ่งหมายความว่าเธอมีเวลาแค่สิบกว่าวันที่จะแก้คำสาปให้ก่อนที่วันเลือกจะมาถึง ในบางครั้งตอนที่ไปฝึกกับหว่องที่เนปาล หญิงสาวเกือบใช้เวทย์มนต์มืดกับเขาจนสเตรนจ์เริ่มกลัวว่าอีกคนกำลังจะถลำเข้าสู่ด้านมืดตามที่ปรมาจารย์บอกไว้ เพราะบางครั้งเรล่าก็ดูไม่ใช่ตนเองด้วยซ้ำในเวลาฝึก ส่วนนึงเกิดจากด้านมืดในจิตใจเริ่มทวีความแรงขึ้น
วันต่อมาสเตรนจ์ไปหาทีน่าที่ฮ่องกงเพื่อไปขออะไรบางอย่างมา เขากลับมาอีกทีก็พบว่าอีกคนหลับคาเก้าอี้ในห้องสมุด ผมสีน้ำตาลเข้มปรกไปตามโครงหน้าเนียน เธอนอนพิงแขนเพื่อรองหัว ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะอุ้มขึ้นไปที่ห้องนอนเธอ ร่างของเรล่าถูกวางบนเตียงอย่างนุ่มนวลทันที
"อย่า..." ริมฝีปากเรียวเพ้ออะไรออกมา "อย่าทิ้งฉันไปสเตรนจ์...."
ด็อกเตอร์หนุ่มชะงักลงเมื่อใบหน้ากำลังแสดงสีหน้าหวาดผวา มือเรียวกำผ้าห่มแน่น ใบหน้าคมก้มลงมองอีกก่อนจะจูบหน้าผากอีกคนไปอย่างแผ่วเบา
ตอนนี้หญิงสาวเริ่มสงบลง ให้ตายสิเรย์ เขาคิดในใจ
"ราตรีสวัสดิ์เรล่า" เขากระซิบกับเธอ
"คุณให้แหวนฉันทำไมสเตรนจ์" เรล่ามองแหวนในมือตนเองสลับกับด็อกเตอร์ที่นั่งตรงหน้า มือหนากำลังถือขนมปังทาแยมก่อนจะทานและมองมาที่เธอ ใช่...แหวนที่เธอได้คือสเตรนจ์ไปหาทีน่าเพื่อขอของที่ไว้คุมพลังมืดตนเองที่กำลังเพิ่มทวีคูณมากขึ้นตามวันที่ลดลงไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็สิบสกว่าวันแล้วที่จะหาวิธีแต่ก็เหมือนตำรา หนังสือทุกเล่มในห้องสมุดที่พวกเขามีจะช่วยอะไรไม่ได้ เพราะมีแต่คำสาปพื้น ๆ สิ่งมีชีวิตในมิติอื่น
"แหวนนั้นจะคุมพลังเธอ รวมถึงมันบล็อคพลังมืดในตัวเธอ" เขาเอ่ยพลางจิบชาในมือ "ตอนนี้พลังเธอประเมินได้ยากกว่าที่คิดไว้อีก รวมถึงเธอเคยไปพบหมอไหมว่า---"
"แหวนที่ฉันสวมมันเหมือน....แหวนหมั้นนะคะ!!"
"ตรงไหนเรย์"
หญิงสาวชูมือข้างที่ใส่แหวน เขาเข้าใจได้ทันที แหวนเงินที่มีมณีสีน้ำเงินเข้มสวยล้อมรอบคริสตัลเม็ดเล็กราวกับมันซื้อจากร้านสวาลอฟสกี้ ถ้าดูผ่าน ๆ ก็นึกว่าอีกฝ่ายเป็นคู่หมั้นเขา แต่ทำไงได้ทีน่าบอกว่ามันเข้ากับอีกฝ่ายสุดแล้วแถมแหวนนี้ก็มีพลังมากพอจะคุมด้านมืดในตัวเรล่าอีกด้วย เขาเลยจำใจเอาแหวนมา สาวผมน้ำตาลมองแหวนที่สวมตรงนิ้วก้อยอย่างพินิจ
"ทำไมไม่สวมมันที่นิ้วนางซ้ายละ ส่วนมากเขาใส่แหวนนิ้วนั้นนะ"
เรล่ากลอกตาอย่างเบื่อหน่ายสุด
"เขาสวมแหวนนิ้วนางซ้าย เพราะต้องการบอกว่าแต่งงานแล้วค่ะ" ร่างบางพูดพลางเก็บจานไปล้าง ".....และฉันยังโสด!!"
สเตรนจ์ยิ้มมุมปากก่อนจะลุกไปจากห้องอาหารและตรงไปที่ประตู เพราะเขาเดาว่ามีคนมาส่งจดหมายให้ในเวลานี้ เรล่าล้างจานและเก็บเข้าที่เดิมก่อนจะเดินออกมาพบกับด็อกเตอร์ที่กำลังอ่านการ์ดอย่างพินิจอยู่ ไม่สิ...ดูจากลักษณะแล้วมันคือบัตรเชิญจากโทนี่ สตาร์ค
และเธอก็ไม่ถูกโฉลกกับงานเลี้ยงโทนี่เสียด้วย
"เรล่า วันนี้เราจะพักกัน" สเตรนจ์พูดพลางเก็บการ์ดลงซอง "คืนนี้สตาร์คจัดงานเลี้ยงที่ตึกอเวนเจอร์ ผมเลยอยากชวนคุณไป..." ชายหนุ่มพูดพลางขึ้นบันไดไปที่ห้องพักตน "หวังว่าคงมีชุดราตรีออกงานนะ"
เอาละ...เนื่องด้วยที่ชีลด์มีงานภารกิจแฝงตัวในงานเลี้ยงบ่อย มันจึงไม่อยากที่จะหาชุดมาสวมใส่สำหรับเรล่า เดรสดำทักเหมาะกับงานเลี้ยงทุกงานแล้ว เดรสสีดำลูกไม้เปิดหลัง ชายกระโปรงยาวถึงข้อทำ ผมรวบสูงขึ้น แต่งหน้านิดหน่อย ก็ใช้ได้ละ เธอเดินลงบันไดไปก็พบกับด็อกเตอร์ที่แต่งตัวด้วยทักซิโด้อย่างดี ผมของเขาถูกหวีจนเรียบแปร้ โดยรวมแล้วค่อนข้างดูดีมากจนเธอมองตาค้าง
"เรล่าจะยืนกินลมหรือไง หื้ม..."
"เปล่าค่ะด็อก"
สเตรนจ์ยืนแขนให้อีกคนควงตามมารยาทสุภาพบุรุษ (แหงละ ก่อนทีอีกคนจะมาเป็นจอมเวทย์ก็เคยเป็นศัลย์แพทย์ที่โด่งดังมาก) ชายหนุ่มเปิดประตูเวทย์ไปที่ตึกอเวนเจอร์ทันที ในงานเริ่มเฮฮามาบ้างแล้ว มีดนตรีบรรเลงเบา ๆ และมีเครื่องดื่มมากมาย รมถึงซุ้มอาหาร ทุกสายตาจับจ้องมายังคนที่มาใหม่ก่อนจะซุบซิบกันตามประสาสาว ๆ ไฮโซ แต่ก็ยังดีที่เห็นหน้าเพื่อนร่วมงานเก่าจากชีลด์บ้าง คนแรกที่เห็นเรล่า คือ นาตาชา เพื่อนร่วมงานเธอเองนั้นแหละ สาวผมแดงเข้ามากอดอีกคนก่อนจะพูดคุยกันตามประสาเพื่อนเก่า
"แม่สาวคนนั้นนะ" เธอได้ยินเสียงด็อกเตอร์คุยกับใครบางคน "นั้นสาวของคุณหรอด็อกเตอร์สเตรนจ์"
"เธอเป็นศิษย์ผมคุณสตาร์ค" เสียงสเตรนจ์เอ่ยนิ่ง ๆ
"งั้นก็...." เศรษฐีหนุ่มหันมามองที่เธอพอดี "ผมชวนเธอเต้นรำได้สินะ"
เอาแล้วไงวะ!! ร่างบางกรีดร้องในใจตนเองพลางจำใจออกไปเต้นเมื่ออีกคนมาชวนตามมารยาท ทั้งคู่เริ่มเต้นรำตามทำนองเพลงที่กำลังบรรเลงไปมา สายตาสีฟ้าเธอไม่จดจ้องที่คู่เต้นแต่เป็นเจ้าของนัยต์สีเทานั้นต่างหาก สเตรนจ์จ้องมองเรล่ากับโทนี่ด้วยสีหน้าที่เธอเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร หญิงสาวจึงคุยกับอีกคนผ่านความคิด
"สเตรนจ์ ทำไมคุณมองฉันแบบนั้น...."
เขาเงียบ
"....ด็อกเตอร์ คุณ---"
เรล่าเงียบลงเมื่อชายหนุ่มร่างสูงมายืนอยู่ตรงหน้าเธอและโทนี่ เขาเอ่ยกับเศรษฐีหนุ่มด้วยน้ำเสียงนิ่ง "...จะว่าอะไรไหมถ้าผมขอตัวเต้นกับศิษย์ผมนะคุณสตาร์ค" โทนี่ส่งมือเรียวให้อีกคนก่อนจะเดินออกไป ทั้งคู่เริ่มเต้นรำกัน มือเรียวของเธอวางบนไหล่เขา อีกข้างก็จับกับมือด็อกเตอร์ คนในงานมองมาที่เรล่ากับสเตรนจ์อย่างสนอกสนใจ แขนของร่างสูงวางบนหลังเนียน ผิวหนังของร่างหญิงสาวเนียนและนุ่มเหมือนได้สัมผัสจริง ๆ นิ้วเริ่มประสานกับอีกคนโดยไม่ทันรู้ตัว จนทุกคู่เริ่มเปลี่ยนท่าเป็นหมุนตัวและพิงคู่เต้น สาวผมน้ำตาลจ้องมองอีกคนขณะหมุนตัวกลับมาที่จุดเดิม
"หวงฉันหรออาจารย์"
"ผมแค่ไม่ไว้ใจสตาร์ค เธอก็รู้ดีว่า---"
"เพลย์บอยตัวพ่อ"
เรล่าเอามือแตะมือร่างสูงและเดินวนไปตามจังหวะเพลงที่กำลังบรรเลง
Oh, won't you stay with me?
'Cause you're all I need
This ain't love, it's clear to see
But darling, stay with me
"เพลง Stay With Me ของแซมสมิธ" เรล่าเอ่ยพลางยกยิ้มมุมปาก "แต่ส่วนมากฉันชอบอเดลมากกว่าอีก" หญิงสาวยิ้มพลางเลื่อนมือทั้งไปวางบนบ่าคนตรงหน้า "...และเพลงคลาสสิคของบีโธเฟ่น"
"ผู้หญิงอย่างคุณเนี่ยนะชอบฟังเพลงคลาสสิค?"
สเตรนจ์กับเรล่าเริ่มเข้าใกล้เรื่อย ๆ ราวกับมีแรงดึงดูดระหว่างพวกเขา หญิงสาวต้องยอมรับอีกคนหล่อมากสำหรับคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน นัยต์ตาสีเทาสวยมากเมื่อได้เห็นมันอย่างชัดเจน ตอนนี้หัวใจเธอเต้นราวกับมันจะทะลุออกจากร่างแล้ว กลิ่มน้ำหอมชายอย่างดีลอยมาแตะจมูก ผิวหนังตรงฝ่ามืออบอุ่นกว่าที่จับมือเต้นรำกับสตาร์ค
"คุณสเตรนจ์..." ร่างบางจ้องตาเขา
"เรล่า.."
ทั้งคู่กำลังเอียงหน้าเข้าหากันแต่แล้วทุกสิ่งอย่างทุกอย่างก็หยุดเคลื่อนไหวกะทันหัน รวมถึงคู่เต้นของหญิงสาว สาวผมน้ำตาลมองไปรอบ ๆ อย่างสับสนก่อนจะเจอชายคนหนึ่งเดินมาท่ามกลางฝูงชนที่หยุดนิ่ง เธอจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับคนในฝันที่คอยมาหลอกหลอนเธอ
พ่อของเธอ
"แหม ๆ ลูกสาวฉันกำลังสวีทหวานกับ...สเตรนจ์" ไคซิเลียสที่อยู่ในสูทแบบผู้ดีเอ่ยประชดประชันพลางจ้องมองชายหนุ่มที่หยุดเคลื่อนไหวด้วยเวทย์มนต์ตนเอง "ฉันว่า...ฉันควรฆ่าเขาตั้งแต่ตอนนี้" มือหนาเสกอะไรบางอย่างคล้ายเศษกระจกล่องหนก่อนจะเงื้อสูงมาแต่ร่างของใครบางคนก็มายืนขว้างไว้
เรล่ายืนคั่นกลางระหว่างพ่อและด็อกเตอร์ สายตาสีฟ้าน้ำทะเลจับจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจแบบสุด ๆ "อย่ายุ่งกับเขาไคซิเลียส" ร่างบางกำมือแน่นราวกับพร้อมสู้ "ขืนเข้ามาอีกก้าวเดียว ได้เจอดีแน่..."
"ลูกใจร้ายกับพ่อจัง..." เขาเสแสร้งเศร้าก่อนจะลดมือลง "เอาเถอะ...ยังไงอีกสิบหกวันวันพิพากษาชะตาลูกก็จะมา วันนั้นจะมีแต่คนหวาดกลัวลูก รังเกียจลูกแต่....วันนั้นแหละพ่อจะแสดงให้เห็นว่าใครกันแน่ที่ยอมรับลูก"
"...งั้นมาคอยดูกัน" เธอเอ่ยนิ่ง ๆ
เขาหัวเราะก่อนจะค่อย ๆ หายไปในความมืดพร้อมกับทุกสิ่งที่เริ่มเคลื่อนไหว เรล่ามองหาไคซิเลียสก่อนจะถกกระโปรงวิ่งออกไปจากงานทันที สเตรนจ์สะบัดหัวไปมาก่อนจะมองหาอีกคน เขาเห็นร่างบางวิ่งออกไปเลยวิ่งตาม
"เรล่า!!" เขาเรียกอีกคนทันทีเห็นว่าเธอวิ่งไปที่ลิฟต์ มือเรียวสั่นตอนกดป่มลิฟต์ เธอหายใจหอบจนเขาต้องไปใกล้ ๆ มือวางบนบ่าบางอย่างนุ่มนวล "หายใจเข้าออกช้า ๆ นะและบอกผมว่าเกิดอะไรขึ้น" ยอมรับว่าไม่เคยอีกคนเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ริมฝีปากบางสั่นระริก แขนเรียวโอบกอดตนเองแน่นราวกับผวาบางอย่าง เขาทำในสิ่งที่ตนเองไม่เคยทำมาทันที
ร่างสูงของด็อกเตอร์กอดร่างเรียวแน่น เรล่าเริ่มสงบลงไปบ้างแล้ว มือหนาลูบหัวพลางจูบขมับเธออย่างอ่อนโยน
"สเตรนจ์..." เธอเหงยหน้ามอง "เขาบอกว่าจะไม่มีใครช่วยฉันได้ใช่ไหม อีกสิบหกวันฉันจะเป็นดาร์คแบบที่เขาว่ากันหรอ"
ชายหนุ่มผมสีนกกาแซมขาวส่ายหน้ารัวและเอ่ย
"ผมจะช่วยคุณเองเรล่า..." เขาพูดเสียงนิ่ง "ผมจะไม่ยอมให้คุณเป็นดาร์ค"
สเตรนจ์กับเรล่าออกจากงานเลี้ยงก่อนเวลาโดยที่อ้างว่าอีกคนรู้สึกไม่สบาย เขาเลยกลัวว่าเธอจะวูบกลางงานแล้วจะช่วยอะไรไม่ทัน โทนี่เข้าใจเหตุผลด็อกเตอร์ดี พวกเขาเลยกลับผ่านประตูเวทย์ ร่างสูงเดินมาส่งเรล่าที่ห้องนอนเธอ
"พรุ่งนี้เราจะไปคามา-ทาจ ตื่นแต่เช้าละ"
"อืม...ราตรีสวัสดิ์ค่ะด็อกเตอร์" เธอเอ่ยพลางปิดประตูลงไป
นักเขียนขอพูด
ให้เดาว่าฝ่ายไหนรู้สึกรักก่อนระหว่างด็อกเตอร์ สเตรนจ์ หรือแม่สาวเรล่า แต่ว่าตอนนี้หมอก็แสดงด้านซอฟต์มาบ้างแล้วแหละ
"คุณให้แหวนฉันทำไมสเตรนจ์" เรล่ามองแหวนในมือตนเองสลับกับด็อกเตอร์ที่นั่งตรงหน้า มือหนากำลังถือขนมปังทาแยมก่อนจะทานและมองมาที่เธอ ใช่...แหวนที่เธอได้คือสเตรนจ์ไปหาทีน่าเพื่อขอของที่ไว้คุมพลังมืดตนเองที่กำลังเพิ่มทวีคูณมากขึ้นตามวันที่ลดลงไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็สิบสกว่าวันแล้วที่จะหาวิธีแต่ก็เหมือนตำรา หนังสือทุกเล่มในห้องสมุดที่พวกเขามีจะช่วยอะไรไม่ได้ เพราะมีแต่คำสาปพื้น ๆ สิ่งมีชีวิตในมิติอื่น
"แหวนนั้นจะคุมพลังเธอ รวมถึงมันบล็อคพลังมืดในตัวเธอ" เขาเอ่ยพลางจิบชาในมือ "ตอนนี้พลังเธอประเมินได้ยากกว่าที่คิดไว้อีก รวมถึงเธอเคยไปพบหมอไหมว่า---"
"แหวนที่ฉันสวมมันเหมือน....แหวนหมั้นนะคะ!!"
"ตรงไหนเรย์"
หญิงสาวชูมือข้างที่ใส่แหวน เขาเข้าใจได้ทันที แหวนเงินที่มีมณีสีน้ำเงินเข้มสวยล้อมรอบคริสตัลเม็ดเล็กราวกับมันซื้อจากร้านสวาลอฟสกี้ ถ้าดูผ่าน ๆ ก็นึกว่าอีกฝ่ายเป็นคู่หมั้นเขา แต่ทำไงได้ทีน่าบอกว่ามันเข้ากับอีกฝ่ายสุดแล้วแถมแหวนนี้ก็มีพลังมากพอจะคุมด้านมืดในตัวเรล่าอีกด้วย เขาเลยจำใจเอาแหวนมา สาวผมน้ำตาลมองแหวนที่สวมตรงนิ้วก้อยอย่างพินิจ
"ทำไมไม่สวมมันที่นิ้วนางซ้ายละ ส่วนมากเขาใส่แหวนนิ้วนั้นนะ"
เรล่ากลอกตาอย่างเบื่อหน่ายสุด
"เขาสวมแหวนนิ้วนางซ้าย เพราะต้องการบอกว่าแต่งงานแล้วค่ะ" ร่างบางพูดพลางเก็บจานไปล้าง ".....และฉันยังโสด!!"
สเตรนจ์ยิ้มมุมปากก่อนจะลุกไปจากห้องอาหารและตรงไปที่ประตู เพราะเขาเดาว่ามีคนมาส่งจดหมายให้ในเวลานี้ เรล่าล้างจานและเก็บเข้าที่เดิมก่อนจะเดินออกมาพบกับด็อกเตอร์ที่กำลังอ่านการ์ดอย่างพินิจอยู่ ไม่สิ...ดูจากลักษณะแล้วมันคือบัตรเชิญจากโทนี่ สตาร์ค
และเธอก็ไม่ถูกโฉลกกับงานเลี้ยงโทนี่เสียด้วย
"เรล่า วันนี้เราจะพักกัน" สเตรนจ์พูดพลางเก็บการ์ดลงซอง "คืนนี้สตาร์คจัดงานเลี้ยงที่ตึกอเวนเจอร์ ผมเลยอยากชวนคุณไป..." ชายหนุ่มพูดพลางขึ้นบันไดไปที่ห้องพักตน "หวังว่าคงมีชุดราตรีออกงานนะ"
เอาละ...เนื่องด้วยที่ชีลด์มีงานภารกิจแฝงตัวในงานเลี้ยงบ่อย มันจึงไม่อยากที่จะหาชุดมาสวมใส่สำหรับเรล่า เดรสดำทักเหมาะกับงานเลี้ยงทุกงานแล้ว เดรสสีดำลูกไม้เปิดหลัง ชายกระโปรงยาวถึงข้อทำ ผมรวบสูงขึ้น แต่งหน้านิดหน่อย ก็ใช้ได้ละ เธอเดินลงบันไดไปก็พบกับด็อกเตอร์ที่แต่งตัวด้วยทักซิโด้อย่างดี ผมของเขาถูกหวีจนเรียบแปร้ โดยรวมแล้วค่อนข้างดูดีมากจนเธอมองตาค้าง
"เรล่าจะยืนกินลมหรือไง หื้ม..."
"เปล่าค่ะด็อก"
สเตรนจ์ยืนแขนให้อีกคนควงตามมารยาทสุภาพบุรุษ (แหงละ ก่อนทีอีกคนจะมาเป็นจอมเวทย์ก็เคยเป็นศัลย์แพทย์ที่โด่งดังมาก) ชายหนุ่มเปิดประตูเวทย์ไปที่ตึกอเวนเจอร์ทันที ในงานเริ่มเฮฮามาบ้างแล้ว มีดนตรีบรรเลงเบา ๆ และมีเครื่องดื่มมากมาย รมถึงซุ้มอาหาร ทุกสายตาจับจ้องมายังคนที่มาใหม่ก่อนจะซุบซิบกันตามประสาสาว ๆ ไฮโซ แต่ก็ยังดีที่เห็นหน้าเพื่อนร่วมงานเก่าจากชีลด์บ้าง คนแรกที่เห็นเรล่า คือ นาตาชา เพื่อนร่วมงานเธอเองนั้นแหละ สาวผมแดงเข้ามากอดอีกคนก่อนจะพูดคุยกันตามประสาเพื่อนเก่า
"แม่สาวคนนั้นนะ" เธอได้ยินเสียงด็อกเตอร์คุยกับใครบางคน "นั้นสาวของคุณหรอด็อกเตอร์สเตรนจ์"
"เธอเป็นศิษย์ผมคุณสตาร์ค" เสียงสเตรนจ์เอ่ยนิ่ง ๆ
"งั้นก็...." เศรษฐีหนุ่มหันมามองที่เธอพอดี "ผมชวนเธอเต้นรำได้สินะ"
เอาแล้วไงวะ!! ร่างบางกรีดร้องในใจตนเองพลางจำใจออกไปเต้นเมื่ออีกคนมาชวนตามมารยาท ทั้งคู่เริ่มเต้นรำตามทำนองเพลงที่กำลังบรรเลงไปมา สายตาสีฟ้าเธอไม่จดจ้องที่คู่เต้นแต่เป็นเจ้าของนัยต์สีเทานั้นต่างหาก สเตรนจ์จ้องมองเรล่ากับโทนี่ด้วยสีหน้าที่เธอเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร หญิงสาวจึงคุยกับอีกคนผ่านความคิด
"สเตรนจ์ ทำไมคุณมองฉันแบบนั้น...."
เขาเงียบ
"....ด็อกเตอร์ คุณ---"
เรล่าเงียบลงเมื่อชายหนุ่มร่างสูงมายืนอยู่ตรงหน้าเธอและโทนี่ เขาเอ่ยกับเศรษฐีหนุ่มด้วยน้ำเสียงนิ่ง "...จะว่าอะไรไหมถ้าผมขอตัวเต้นกับศิษย์ผมนะคุณสตาร์ค" โทนี่ส่งมือเรียวให้อีกคนก่อนจะเดินออกไป ทั้งคู่เริ่มเต้นรำกัน มือเรียวของเธอวางบนไหล่เขา อีกข้างก็จับกับมือด็อกเตอร์ คนในงานมองมาที่เรล่ากับสเตรนจ์อย่างสนอกสนใจ แขนของร่างสูงวางบนหลังเนียน ผิวหนังของร่างหญิงสาวเนียนและนุ่มเหมือนได้สัมผัสจริง ๆ นิ้วเริ่มประสานกับอีกคนโดยไม่ทันรู้ตัว จนทุกคู่เริ่มเปลี่ยนท่าเป็นหมุนตัวและพิงคู่เต้น สาวผมน้ำตาลจ้องมองอีกคนขณะหมุนตัวกลับมาที่จุดเดิม
"หวงฉันหรออาจารย์"
"ผมแค่ไม่ไว้ใจสตาร์ค เธอก็รู้ดีว่า---"
"เพลย์บอยตัวพ่อ"
เรล่าเอามือแตะมือร่างสูงและเดินวนไปตามจังหวะเพลงที่กำลังบรรเลง
Oh, won't you stay with me?
'Cause you're all I need
This ain't love, it's clear to see
But darling, stay with me
"เพลง Stay With Me ของแซมสมิธ" เรล่าเอ่ยพลางยกยิ้มมุมปาก "แต่ส่วนมากฉันชอบอเดลมากกว่าอีก"หญิงสาวยิ้มพลางเลื่อนมือทั้งไปวางบนบ่าคนตรงหน้า "...และเพลงคลาสสิคของบีโธเฟ่น"
"ผู้หญิงอย่างคุณเนี่ยนะชอบฟังเพลงคลาสสิค?"
สเตรนจ์กับเรล่าเริ่มเข้าใกล้เรื่อย ๆ ราวกับมีแรงดึงดูดระหว่างพวกเขา หญิงสาวต้องยอมรับอีกคนหล่อมากสำหรับคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน นัยต์ตาสีเทาสวยมากเมื่อได้เห็นมันอย่างชัดเจน ตอนนี้หัวใจเธอเต้นราวกับมันจะทะลุออกจากร่างแล้ว กลิ่มน้ำหอมชายอย่างดีลอยมาแตะจมูก ผิวหนังตรงฝ่ามืออบอุ่นกว่าที่จับมือเต้นรำกับสตาร์ค
"คุณสเตรนจ์..." ร่างบางจ้องตาเขา
"เรล่า.."
ทั้งคู่กำลังเอียงหน้าเข้าหากันแต่แล้วทุกสิ่งอย่างทุกอย่างก็หยุดเคลื่อนไหวกะทันหัน รวมถึงคู่เต้นของหญิงสาว สาวผมน้ำตาลมองไปรอบ ๆ อย่างสับสนก่อนจะเจอชายคนหนึ่งเดินมาท่ามกลางฝูงชนที่หยุดนิ่ง เธอจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับคนในฝันที่คอยมาหลอกหลอนเธอ
พ่อของเธอ
"แหม ๆ ลูกสาวฉันกำลังสวีทหวานกับ...สเตรนจ์" ไคซิเลียสที่อยู่ในสูทแบบผู้ดีเอ่ยประชดประชันพลางจ้องมองชายหนุ่มที่หยุดเคลื่อนไหวด้วยเวทย์มนต์ตนเอง "ฉันว่า...ฉันควรฆ่าเขาตั้งแต่ตอนนี้" มือหนาเสกอะไรบางอย่างคล้ายเศษกระจกล่องหนก่อนจะเงื้อสูงมาแต่ร่างของใครบางคนก็มายืนขว้างไว้
เรล่ายืนคั่นกลางระหว่างพ่อและด็อกเตอร์ สายตาสีฟ้าน้ำทะเลจับจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจแบบสุด ๆ "อย่ายุ่งกับเขาไคซิเลียส" ร่างบางกำมือแน่นราวกับพร้อมสู้ "ขืนเข้ามาอีกก้าวเดียว ได้เจอดีแน่..."
"ลูกใจร้ายกับพ่อจัง..." เขาเสแสร้งเศร้าก่อนจะลดมือลง "เอาเถอะ...ยังไงอีกสิบหกวันวันพิพากษาชะตาลูกก็จะมา วันนั้นจะมีแต่คนหวาดกลัวลูก รังเกียจลูกแต่....วันนั้นแหละพ่อจะแสดงให้เห็นว่าใครกันแน่ที่ยอมรับลูก"
"...งั้นมาคอยดูกัน" เธอเอ่ยนิ่ง ๆ
เขาหัวเราะก่อนจะค่อย ๆ หายไปในความมืดพร้อมกับทุกสิ่งที่เริ่มเคลื่อนไหว เรล่ามองหาไคซิเลียสก่อนจะถกกระโปรงวิ่งออกไปจากงานทันที สเตรนจ์สะบัดหัวไปมาก่อนจะมองหาอีกคน เขาเห็นร่างบางวิ่งออกไปเลยวิ่งตาม
"เรล่า!!" เขาเรียกอีกคนทันทีเห็นว่าเธอวิ่งไปที่ลิฟต์ มือเรียวสั่นตอนกดป่มลิฟต์ เธอหายใจหอบจนเขาต้องไปใกล้ ๆ มือวางบนบ่าบางอย่างนุ่มนวล "หายใจเข้าออกช้า ๆ นะและบอกผมว่าเกิดอะไรขึ้น" ยอมรับว่าไม่เคยอีกคนเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ริมฝีปากบางสั่นระริก แขนเรียวโอบกอดตนเองแน่นราวกับผวาบางอย่าง เขาทำในสิ่งที่ตนเองไม่เคยทำมาทันที
ร่างสูงของด็อกเตอร์กอดร่างเรียวแน่น เรล่าเริ่มสงบลงไปบ้างแล้ว มือหนาลูบหัวพลางจูบขมับเธออย่างอ่อนโยน
"สเตรนจ์..." เธอเหงยหน้ามอง "เขาบอกว่าจะไม่มีใครช่วยฉันได้ใช่ไหม อีกสิบหกวันฉันจะเป็นดาร์คแบบที่เขาว่ากันหรอ"
ชายหนุ่มผมสีนกกาแซมขาวส่ายหน้ารัวและเอ่ย
"ผมจะช่วยคุณเองเรล่า..." เขาพูดเสียงนิ่ง "ผมจะไม่ยอมให้คุณเป็นดาร์ค"
สเตรนจ์กับเรล่าออกจากงานเลี้ยงก่อนเวลาโดยที่อ้างว่าอีกคนรู้สึกไม่สบาย เขาเลยกลัวว่าเธอจะวูบกลางงานแล้วจะช่วยอะไรไม่ทัน โทนี่เข้าใจเหตุผลด็อกเตอร์ดี พวกเขาเลยกลับผ่านประตูเวทย์ ร่างสูงเดินมาส่งเรล่าที่ห้องนอนเธอ
"พรุ่งนี้เราจะไปคามา-ทาจ ตื่นแต่เช้าละ"
"อืม...ราตรีสวัสดิ์ค่ะด็อกเตอร์" เธอเอ่ยพลางปิดประตูลงไป
นักเขียนขอพูด
ให้เดาว่าฝ่ายไหนรู้สึกรักก่อนระหว่างด็อกเตอร์ สเตรนจ์ หรือแม่สาวเรล่า แต่ว่าตอนนี้หมอก็แสดงด้านซอฟต์มาบ้างแล้วแหละ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in