คำโปรยหลังปกชายแดนต้าถงเป็นพื้นที่อ่อนไหวมาตลอด แต่นับจากวังจื๋อไปเป็นเสนาธิการ
ทัพต้าหมิงก็แทบไม่เคยปราชัยในศึกกับชนเผ่านอกด่านเลย
ทว่าไม่นานมานี้สภาพการณ์กลับผกผันตรงกันข้าม
เมื่อทุกครั้งที่ทัพต้าหมิงไล่กวดข้าศึกไปถึงบริเวณทะเลสาบ
ก็มีอันต้องเผชิญกับปรากฏการณ์วิปริตผิดแผก จนสาบสูญทั้งกองทัพ!
ลือว่านี่เป็นเวทมนตร์ของ ‘หลี่จื่อหลง’ หัวหน้าลัทธิบัวขาว
ผู้ซึ่งบัดนี้มีศักดิ์เป็นถึงราชครูของพวกต๋าต๋า
กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เหล่าทหารหาญไปแล้วไปลับ ขวัญกำลังใจกองทัพดิ่งต่ำถึงขีดสุด
ศัตรูควบคุมได้กระทั่งเมฆหมอกพายุฝนลมทราย
ยังได้ยินว่านักพรตมารผู้นั้นสามารถสั่งการภูตทหารจากเมืองผีให้ล้อมโจมตีได้อีก!
ด้วยเหตุนี้ ถังฟั่นซึ่งชื่อเสียงขจรขจายว่าเป็น ‘เทพผู้ไขคดี’ จึงได้เดินทางมาถึงยังเมืองต้าถงแล้ว...!!
ความรู้สึกหลังอ่านจบ
เขาสารภาพรักกันแล้วค่ะทุกคนนน กะแล้วเชียวว่าพี่สุยรู้ใจตัวเองมาสักพักแล้ว คงจะมีแต่ถังฟั่นนี่แหละค่ะที่ตีมึนไม่ยอมรับความจริง ฮ่าๆ
เล่มห้านี้เป็นเล่มที่ค่อนข้างวุ่นวายเลยทีเดียวค่ะ ต้องต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามไม่พอ ยังต้องต่อสู้กับคนที่่คิดว่าอยู่ฝั่งเดียวกันมาตลอดซะอีก คนที่เราไว้ใจ กลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายเราซะได้ เฮ้ออ เหมือนเล่มนี้จะเป็นเล่มรวมพลคนหักหลังซะมากกว่า คนนี้หักหลังคนนั้น คนนั้นทรยศคนนี้ วุ่นวายจริงๆ
สืบข่าวไปสืบข่าวมา ถังฟั่น สุยโจว วังจื๋อและพรรคพวกจึงพากันออกเดินทางไปสำรวจพื้นที่นอกด่าน ไหนเลยจะรู้ว่าตัวเองติดกับของชาวต๋าต๋าเข้าแล้ว กว่าจะรู้ตัวก็พากันบาดเจ็บเจียนตายแล้วค่ะ ที่อดชื่นชมไม่ได้ก็คือแม่นางตู้ แม้นางจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ติดตามมาในขบวนนี้ แต่นางก็ไม่ได่เป็นภาระให้กับถังฟั่นและสุยโจวเลย (จริงๆก็แอบเป็นหน่อยๆแหละค่ะ) หนำช้ำยังคอยช่วยเหลือคนอื่นยามบาดเจ็บ ดูแลตัวเองได้ดี ไม่แม้แต่จะบ่นหรือกรีดร้องออกมา ถือว่าเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
อีกคนที่อดชื่นชมไม่ได้ก็คือวังกงกงนี่แหละค่ะ ต้องคอยต่อสู้เอาชีวิตรอดด้วยตัวเองกับพรรคพวกที่ตอนนั้นเหลือกันอยู่สองคนตลอดทั้งคืน จนกระทั่งพี่สุยเข้าไปช่วย สภาพสาหัสจริงๆ ดีที่ถังฟั่นทำลายค่ายกลได้ทันเวลา ไม่งั้นก็ไม่มีทางรู้จริงๆว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาไหม
ทุกสิ่งอย่างดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิบัวขาวไปซะหมด แม้กระทั่งค่ายกล หรือข่าวที่รั่วไหลไปยังทัพของชาวต๋าต๋าก็เป็นเพราะลัทธิบัวขาวยื่นมือมาช่วยเหลือ ยังโชคดีที่ครั้งนี้สามารถรบชนะชาวต๋าต๋าได้ ต้องของคุณวังกงกงและผองเพื่อนเขานั่นแหละค่ะ ที่หอบสังขารไปแจ้งแก่แม่ทัพได้ทันเวลา
คดีในส่วนหลังของเล่มนี้ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าคดีอะไรดี จะเรียกว่าข้อพิพาทระหว่างขุนนาง 3 คน หรือว่าจะเป็นคดีการจัดสรรเสบียงช่วยเหลือผู้ประสบภัย ยังไงก็แล้วแต่คดีนี้วุ่นวายอยู่พอสมควรค่ะ คนที่อยู่เบื้องหลังเหมือนจะเป็นตัวใหญ่ ยังไม่รู้ว่าถังฟั่นจะจัดการยังไง คงต้องรอลุ้นเล่ม 6 แล้วล่ะค่ะ
ชะตาชีวิตถังฟั่นนี่น่าสงสารมากๆค่ะ เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง ถึงขนาดได้เป็นราชครูให้รัชทายาทแล้ว กลับตกหลุมพลางกลุ่มอำนาจวั่นที่ต้องการปลดรัชทายาทซะได้ น่าสงสารทั้งถั่งฟั่นและรัชทายาท เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่งแท้ๆ กลับต้องมาเจออะไรแบบนี้
มาพูดถึงพี่สุยกันดีกว่าค่ะ นอกจากจะสารภาพรักกับถังฟั่นแล้ว พี่สุยจูบถังฟั่นค่ะทุกคนน เขาจูบกันแล้ววว กว่าถังฟั่นจะยอมรับว่าตัวเองมีใจก็ตอนที่พี่สุยพูดว่าจะแต่งงานนั่นแหละ แหม ยังมีหน้ามาบอกว่าคนอย่างถังฟั่นถ้าไม่เสียของที่ตนรักไป มีหรือ จะรู้ใจตัวเอง
ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่สุยมีแผนอะไร ตอนหลังถึงได้เย็นชาใส่น้องถังเสียเหลือเกิน แต่พี่สุยจะรู้ไหมนะ ว่าตอนนี้พี่สุยมีศัตรูหัวใจเพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้วนะคะ ใช่ค่ะ อี้ชิงนั่นเอง
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าอี้ชิงเป็นใคร อี้ชิงเป็นคนที่ไหวเอินส่งมาดูแลถั่งฟั่นตอนไปปฏิบัติภารกิจในคดีท้ายเล่มนี่แหละค่ะ ดูท่าว่าอี้ชิงจะชอบถังฟั่นเอาเสียมากๆ บูชาถังฟั่นแบบสุดๆ แถมยังคุยถูกคอกับถังฟั่นอีกต่างหาก บางครั้งก็พูดจาจีบถังฟั่นซึ่งๆหน้าเสียด้วยซ้ำ ตำแหน่งพระเอกของพี่สุยสะเทือนครั้งใหญ่แล้วค่ะ จริงๆแล้วก็เราก็แอบเทใจไปให้อี้ชิงแล้วนิดๆ ถ้าพี่สุยยังเย็นชาใส่น้องอยู่แบบนี้จะเชียร์ให้เปลี่ยนพระเอกจริงๆนะคะ ฮ่าๆๆ
คะแนนสำหรับเรื่องนี้ : 10/10
ข้อมูลเบื้องต้น
ชื่อเรื่อง : รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่
ผู้เขียน : เมิ่งซีสือ
ผู้แปล : เซียงเซียง
ราคาตามปก : 289 บาท
จำนวนเล่ม : 7 เล่มจบ
จำนวนหน้า : 312 หน้า
สำนักพิมพ์ : everY
Isabella Nut
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in