คำโปรยหลังปก
บันทึกประวัติศาสตร์เล่มหนึ่งบอกเล่าความเสื่อมความเจริญอันพลิกผันของจงหยวน
บทเพลงแห่งสงครามเพลงหนึ่งขับขานยาวนานกว่าสิบปี
บ้านเมืองและคุณธรรมยิ่งใหญ่ ฤาความรักที่ฝังลึกในใจล้วนแตกกระสานซ่านเซ็น
ตั้งแต่เกิดจนอายุสิบห้าปี ‘โหยวเหมี่ยว’ มีชีวิตร่ำรวยสุขสำราญมาโดยตลอดแต่แล้ววันหนึ่งก็พลันประสบความเปลี่ยนผันในชีวิต จากคุณชายน้อยในวันวานวันนี้เหลือเพียงปราสาทเขารกร้างของมารดาผู้ล่วงลับกับข้ารับใช้ชายผู้ซื่อสัตย์นามว่า ‘หลี่จื้อเฟิง’การก่อร่างสร้างตัวด้วยสองมือเปล่าคือบททดสอบยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเขา...เคราะห์ดีที่สวรรค์ยังเมตตา เพราะในช่วงที่ยากลำบากแสนสาหัส โหยวเหมี่ยวยังมีหลี่จื้อเฟิงอยู่ข้างกายแต่เมื่อชนเผ่าป่าเถื่อนทางเหนือบุกเข้ารุกรานจงหยวน ไฟสงครามลุกท่วมสี่ด้าน ชาวประชายากหลีกหนีโหยวเหมี่ยวถูกจับตัวเป็นเชลย หลี่จื้อเฟิงจึงติดตามไล่ล่าศัตรูเพื่อคว้าดวงใจกลับคืนมาขณะที่คล้ายจะปลิดปลิว โหยวเหมี่ยวคิดได้เพียงว่าจากกันวันนี้ คงมิมีวันหน้าเสียแล้วความหวังที่จะได้ใช้ชีวิตแก่เฒ่าไปกับหลี่จื้อเฟิงสองคนเริ่มเลือนลางทว่า... น้ำขึ้นน้ำลงย่อมนำมาซึ่งแสงจันทร์สุกสกาวสุดแสนงามตา
ความรู้สึกหลังอ่านจบ
นิยายเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่เรายกขึ้นเอาไว้บนหิ้งเลยค่ะ ส่วนตัวมองว่า นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่ลงตัวมากๆ ทุกตัวละครล้วนมีเหตุและผลในการกระทำของตัวเองอยู่เสมอ เพราะตนเคยเจอเรื่องแบบนี้ เคยมีประสบการณ์แบบนี้ เกิดมาในครอบครัวแบบนี้ ทุกสิ่งที่อย่างที่ตัวละครเหล่านั้นพบเจอมา ต่างหล่อหลอมให้ทุกๆคนในเรื่องนี้ มีนิสัยที่แตกต่างกันไป ทุกครั้งที่อ่านก็รู้สึกว่า ทุกๆตัวละคนเหมือนมีชีวิตจริงๆ อ่านไปแล้วทำให้เรารู้ว่า แท้จริงแล้วคำว่า บ้าน หมายความว่าอะไร
เล่มแรกจะกล่าวถึงการเจริญเติบโตของโหยวเหมี่ยวและการสร้างอาณาจักรของเขาค่ะ จากคุณชายที่เสเพลไปวันๆ ค่อยๆโตขึ้นทีละน้อยๆ จนกลายเป็นคนที่สำคัญที่สุดคนหนึ่ง มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นภายในเล่มนี้เยอะมากค่ะ ชะตาของน้องคงพูดได้ว่าจากจุดสูงลงสู่จุดที่ตกต่ำที่สุดเลยก็ว่าได้ น้องต้องเริ่มต้นจากศูนย์ ค่อยๆก่อร่างสร้างตัวกับหลี่จื้อเฟิงเพียงสองคน เล่มนี้อ่านได้เรื่อยๆ อ่านไปแล้วก็ขำไป
เล่มที่สองจะเป็นเล่มที่มีเนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมแล้วค่ะ เล่มนี้จะพูดถึงการทำศึกสงครามระหว่างแคว้น การต่อสู้ภายในราชสำนัก ภายในความตรึงเครียดและไฟสงคราม ยังคงมีความรักและความผูกพันระหว่างน้องโหยวแล้วพี่หลี่เกิดขึ้นอยู่บ้างประปรายให้คนอ่านได้อมยิ้ม จิกหมอนกันแน่ๆค่ะ เรียกได้ว่า ถึงตัวจะห่างไกล แต่ใจไม่เคยห่างกัน
เล่มที่สามเล่มนี้ก็ยังคงพูดถึงเรื่องสงครามอยู่ค่ะ แต่จะเบาลงกว่าเล่มที่สองนิดนึง เล่มนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเช่นเดิมค่ะ แต่จะเป็นในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลงอันนี้ต้องลองไปอ่านดูนะคะ เพราะยังมีเรื่องเกิดขึ้นอีกมากมายที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
สรุปได้ว่า ปราชญ์กู้บัลลังก์ เป็นนิยายที่ทุกคน คู่ควรค่ะ ย้ำว่า ทุกคน จริงๆ เหมาะที่สุดสำหรับคนที่ชอบเสพเนื้อเรื่อง ชอบอ่านแนวสงคราม เรื่องนี้พลาดไม่ได้จริงๆค่ะ อ่านไปก็เครียดตาม ที่เครียดไปว่านั้นคือ เล่มที่ 2 หนามากค่ะ ราวๆ 600 กว่าหน้า รวมๆทั้งเรื่องก็ 1500 กว่าหน้าค่ะ ฮ่าๆๆๆ ตอนพิเศษคือดีมากเลยค่ะสำหรับเรา คืออ่านไปแล้วก็ขำไม่หยุดจริงๆ
พูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดในเรื่องก็คงเป็นน้องโหยวแหละค่ะ นอกจากน้องโหยวและจื้อเฟิงแล้ว ตัวละครอีกหนึ่งตัวที่เรารักมากที่สุดก็คือ เนี่ยตันค่ะ และเราก็คิดว่า หลังจากที่ทุกคนที่ได้อ่านเรื่องนี้แล้วจะต้องรักเนี่ยตันไม่แพ้กัน
ย้อนกลับมาตรงความหมายของคำว่า บ้าน ที่ได้พูดไปตอนต้น มีประโยคหนึ่งในเรื่องที่หลี่จื้อเฟิงพูดกับโหยวเหมี่ยวว่า
'เจ้าอยู่ที่ไหน ที่นั่นคือบ้าน'
ประโยคนี้คือความหมายทั้งหมดของคำว่า บ้าน ค่ะ เพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้นที่สื่อถึงความรัก ความผูกพันของทั้งสองคนเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับสำนวนหนึ่งในภาษาอังกฤษที่พูดว่า...
"A house is made of bricks and stone, but a home is made of love alone."
บ้าน (House) สร้างจากอิฐและหิน แต่บ้าน(Home) สร้างจากความรักเท่านั้น
บ้านไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นผู้คน เอ๊ะ!?
คะแนนสำหรับเรื่องนี้ : 10/10
ข้อมูลเบื้องต้น
ชื่อเรื่อง : ปราชญ์กู้บัลลังก์
ผู้เขียน : กู้เสวี่ยโหรว
ผู้แปล : MW
ราคาตามปก : เฉพาะหนังสือ 1260 บาท
Box set 1540 บาท
จำนวนเล่ม : 3 เล่มจบ
จำนวนหน้า : - หน้า
สำนักพิมพ์ : everY
Isabella Nut
อ่านรีวิวอื่นๆ คลิ๊ก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in