เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
5420 miles away from homesunshine
5420 miles,from Thai to Italy
  • ก่อนที่นกจะบินออกจากรัง,

    7 กันยายน 2560

    วันนี้เป็นวันที่ทางAFS นัดนักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศอิตาลีทุกคนมาที่สนามบิน วันนั้นจริงๆก็วุ่นมาก เตรียมของหลายอย่าง รีบจนลืมไว้ที่บ้านก็มี (ลืมทินต์ไว้ที่โต๊ะแป้ง เศร้ามากเพราะรักอันนั้นมาก ทาก่อนออกจากบ้านแล้วลืมยัดใส่กระเป๋า เหลือทินต์สีชมพูแหลๆแบ๊วๆแทน โอเคได้) เตรียมกางเกงที่คิดว่าใส่สบายที่สุด เพราะต้องนั่งเครื่อง13 ชั่วโมงได้ ใส่คับๆไปตายแน่ๆ ใส่รองเท้าสบายๆถอดง่ายๆ เช็คว่าลืมหูฟังมั้ย เพราะอันนี้สำคัญต่อชีวิตมาก อวัยวะที่33 ก็ว่าได้ พร้อมแล้วทุกคนที่บ้านก็พร้อมใจยัดตัวเองลงรถบัสที่ลงทุนเช่าเพื่อไปส่งเด็กน้อยคนเดียวของบ้านไปต่างแดน

    ส่วนเราก็ยัดหูฟังแล้วมองวิวประเทศไทยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะกลับมาพบกับแดดประเทศไทยในอีก10 เดือน

    พอไปถึงสนามบิน ก็ไปจัดการธุระ โหลดกระเป๋า หาที่นั่ง เม้าท์มอยกับเพื่อนที่มาส่ง ทำตัวชิวมากเหมือนจะไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อน เพราะเราไม่รู้สึกเสียใจเลย จริงๆนะ มันเป็นความรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้อิสระ ได้ทำอะไรด้วยตัวเองที่อยากทำสักที ตอนแรกคิดว่าจะร้องไห้ แต่ไม่เลย แม่ร้องแทนเราหมดละ 

    หลังจากขึ้นเครื่อง วางแผนดิบดีว่าจะดูหนังสักสองสามเรื่อง แผนพังเพราะเมาเครื่อง คือสุดๆมากๆ กว่าจะได้ทรานสิตที่ดูไบ ถ้าไม่กินยาแก้เทานี่ว่าได้ตายแน่ๆ ลงเครื่องปุ๊ปวิ่งไปอ้วกปัํป ลางดีมากๆไม่ไหวแล้ว
  • จนเครื่องแลนดิ้งที่ประเทศอิตาลี จริงๆก็อยากจะมีฟีลแบบในโฆษณา ไม่ก็ในหนัง เหมือนกันนะ ที่ก้าวเท้าออกจากสนามบินแล้วยิ้มแย้มแจ่มใส ลมพัดผมปลิวพร้อมพึมพำเบาๆว่า 'ถึงแล้วสินะ'
    ความเป็นจริงคือยังเมาเครื่องค้างอยู่ แล้วต้องลากกระเป๋าลากหนัก22 กิโล+สะพายเป้ที่น่าจะหนักประมาณ7โลไปมา ต่อคิวตรวจพาสปอร์ตต่างๆนาๆวุ่นวายมาก ปวดไหล่แบบไม่ไหวแล้ว นี่ดิฉันมาทรมานตนเองฤา กว่าจะได้นั่งรถบัสไปประจำที่ค่ายพักแรม สูบพลังมาก เริ่มต้นชีวิตดีดีที่อิตาลี

    แต่ก็นั่นแหละ มาถึงนี่แล้ว หลังจากนี้จะเป็นการอัพเดตชีวิตที่สองของเรา ณ อิตาลี
    ประเทศที่เต็มไปด้วยความรักจนบางทีเราก็รู้สึกเหงาขึ้นมาดื้อๆ
    อาหารประกอบไปด้วยน้ำมันมะกอกทุกจาน และทานพาสต้าทุกกลางวัน 
    ผู้คนเฟรนลี่(บางคนก็เกินไป) 

    จะเป็นบล็อคไลฟ์อัพเดต หลังจากนี้ก็จะมาเล่าเรื่องก่อนที่ตัดสินใจมานี่ เดือนแรกที่มา นานาจิตตัง 
    ไม่รู้ด้วยซ้ำจะมีคนมาอ่านมั้ย แต่เราก็จะเขียนอยู่ดีนั่นแหละ :-)

    13/11/17
    จากสาวเมืองกรุงทั้งไทยและอิตาลีที่พิมพ์ในไอแพดจนปวดมือเพราะอยากอู้ไม่อ่านเคมี ถึงจะสอบพรุ่งนี้ก็ตาม
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in