Fic: 魔道祖师
Rate: 18+
Paring: วั่งเซี่ยน
ได้พักร้อน...
เว่ยอู๋เซี่ยนมองพี่สามีด้วยสีหน้างุนงง ในมือถือกล่องกระดาษที่ถูกปิดผนึกอย่างดีด้วยสีหน้าสับสนเพราะไม่นึกว่าจะได้พักร้อนหลังจากที่โดนลงโทษให้ทำแต่งานเอกสาร ข้อหาไประรานน้องชายบอสจนอีกฝ่ายเกือบได้เลือด
“บอสจ๋า แบบนี้จะดีเหรอ ในกองมีแค่เค้าที่เคลื่อนไหวสะดวกที่สุดนะ” เขาหมายถึงเรื่องการจัดการคดีต่างๆเพราะทั้งกองนี้มีแค่เขาที่เป็นเด็กกำพร้าไร้ชื่อเสียง ส่วนคนอื่นๆต่างมีงานของตัวเองทั้งนั้น
บอสอย่างหลานซีเฉินเป็นหมอที่ต้องเข้าเวรเป็นประจำ ที่ปรึกษาและผู้ช่วยอย่างเวินรั่วหานและเวินจู๋หลิวเป็นนักธุรกิจ จินกวงเหยาเป็นทนาย เนี่ยฮวายซางเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะชื่อดังในเมือง
“ไปเถอะ วั่งจีเองก็จะพักร้อนเหมือนกัน” หลานซีเฉินยิ้มบางดูใจดี แต่กับคนที่ทำงานร่วมกันมานานอย่างเว่ยอู๋เซี่ยน ต่อให้ดูใจดียังไงหลานซีเฉินก็คือจอมมารอยู่ดี
“งั้นเค้ากลับก่อนนะ ถ้ามีอะไรด่วนบอสต้องเรียกเค้านะรู้ไหม” เว่ยอู๋เซี่ยนกำชับ “
“พี่รู้ขอบเขตของตัวเองดี อาเซี่ยนอย่าคิดมากเลย นะ?”
ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักและออกไปกวาดของลงเป้เตรียมออกจากกอง เขาบอกลาเวินรั่วหานและเวินจู๋หลิวที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เพราะวันนี้จินกวงเหยาและเนี่ยฮวายซางต่างมีธุระทั้งคู่
เขาส่งข้อความหาคนรักเรื่องได้ไปพักร้อนและกลับคอนโดไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ใช้คีย์การ์ดสำรองของห้องหลานวั่งจีและพุ่งขึ้นเตียง กอดหมอดสูดกลิ่นของอีกฝ่ายเข้าปอดลึกๆอย่างพึงพอใจส่วนกล่องพัสดุน่ะเหรอ? อยู่ที่พื้นนู่น
ตกเย็นหลานวั่งจีกลับห้องตัวเองมาและพบว่าบนเตียงของเขามีเจ้าตัวแสบนอนแผ่หลาอยู่ เว่ยอู๋เซี่ยนสวมเสื้อเชิ้ตของเขากับชั้นในลูกไม้ตัวจิ๋วที่เจ้าตัวเคยพูดไว้ว่าเห็นมันน่าสนใจดีเลยซื้อมา บนพื้นห้องมีกล่องกระดาษวางไว้มุมหนึ่งของห้อง
หลานวั่งจีไม่ติดใจสงสัยอะไรอีกเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วปีนขึ้นเตียงไปนอนกอดคนรัก ตัดสินใจว่าวันพรุ่งนี้ค่อยเริ่มเก็บกระเป๋าและออกเดินทางไปยังบ้านพักตากอากาศของสกุลหลานที่ตั้งอยู่ท่ามกลางผืนป่าและธรรมชาติ
-------------------------------------------------------
“อึก แฮ่ก พี่รอง...”
“เรียกใหม่”
“ส สามี เค้า...ม ไม่”
“กินสิ”
เหลืออีกสองชั่วโมงเครื่องจะแลนดิ้ง
เว่ยอู๋เซี่ยนเกาะไหล่ของหลานวั่งจีออกมาจากสนามบินด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าท่ามกลางสายตาของคนมากมาย ท่าทางนั้นทำให้กราวด์โฮสเตสเขามาสอบถามด้วยความห่วงใยว่าต้องการให้เธอนำทางพวกเขาไปยังห้องพยาบาลหรือไม่แต่ก็ได้รับการปฏิเสธกลับมา
หลานวั่งจีและเว่ยอู๋เซี่ยนรออยู่หน้าสนามบิน ไม่นานก็มีรถประดับตราสกุลหลานขับมาถึง หลังจากคนขับส่งกุญแจรถให้หลานวั่งจีและขนกระเป๋าขึ้นรถเสร็จสารวัตหนุ่มถึงได้มุ่งหน้าไปยังบ้านพักตากอากาศอย่างที่ตั้งใจไว้
เว่ยอู๋เซี่ยนขดตัวอยู่ที่เบาะข้างคนขับ ร่างกายสั่นระริกเป็นพักๆในขณะที่ใบหน้าแดงก่ำและหลั่งเหงื่อออกมาทั้งๆที่ภายในรถเปิดแอร์เย็นเยียบ ต้นขาขยับเบียดกันไปมาเช่นเดียวกับมือที่พยายามถูไถบริเวณเป้ากางเกงแรงๆ
“สามี เค้าอยาก ฮึก เอาเค้าซะที!” เว่ยอู๋เซี่ยนโวยวายปนสะอื้น ภายในร่างกายของเขามีทั้งไข่สั่นไวเบรเตอร์ที่ถูกหลานวั่งจีบังคับให้เขาใส่และถูกอีกฝ่ายเปิดสวิตคาไว้จนเขาแทบยืนไม่ไหว
“คนทำผิดมีสิทธิ์ขอรางวัลด้วยเหรอ”
“สามีจ๋า เค้าไม่ได้จีบผู้หญิงคนนั้นจริงๆนะ” ชายหนุ่มพูดเสียงสะอื้น เมื่อรู้สึกได้ว่าแรงสั่นสะเทือนภายในร่างกายเพื่มจากหนึ่งเป็นสองก็ตัดสินใจเงียบปากและไม่พูดอะไรอีก ยอมอดทนดีกว่าพูดแล้วเจอเรื่องเข้าตัว
อันที่จริงแล้วหลานวั่งจีรู้ตั้งแต่แรกว่าเว่ยอู๋เซี่ยนไม่ได้จีบแอร์โฮสเตสสาวคนนั้นก่อน แต่ด้วยความหึงหวงและเขาไม่สามารถลงมือกับผู้หญิงคนนั้นได้ สิ่งที่ทำได้คือจัดการฟัดคนรักของตัวเองให้หมอบเท่านั้นเอง เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีเถอะ
ในใจของหลานวั่งจีลุกโชนด้วยไฟโทสะ ดูท่าว่าแท้จริงแล้วเขาจะไม่ใช่ก้อนน้ำแข็งเดินได้แต่เป็นภูเขาไฟเยือกแข็งที่รอวันปะทุต่างหาก
บ้านพักตากอากาศสกุลหลานเป็นคฤหาสน์สไตล์โมเดิร์นขนาดใหญ่หรูหราที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขา ทันทีที่เข้ามาถึงเว่ยอู๋เซี่ยนก็พุ่งไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่นทันทีซุกหน้ากับหมอนไม่สนใจใครทั้งสิ้น ทางด้านหลานวั่งจีเองก็ขนของทั้งของคนรักและของตัวเองไปที่ห้องนอนใหญ่ที่อยู่บนชั้นสอง
คฤหาสน์หลังนี้เต็มไปด้วยห้องสำหรับกิจกรรมบันเทิงมากมายทั้งห้องดูหนัง ห้องบิลเลียต สระว่ายน้ำ ฟิตเนสในร่ม บาร์ ฯลฯ และเพราะพวกเขามาถึงที่นี่ช่วงเย็นพอดี หลานวั่งจีจึงเข้าครัวเพื่อเตรียมมื้อเย็นโดยลากคนรักเข้าไปในห้องครัวด้วย
ร่างโปร่งนอนราบไปกับเคาเตอร์หินอ่อนกลางห้องครัว ในร่างกายยังมีของเล่นทั้งสองชิ้นคาอยู่ภายในอีกทั้งมันยังสั่นแรงบ้างเบาบ้างจนเขาทนแทบไม่ไหวตลอดทาง
น่าเศร้าที่คนควบคุมเครื่องนี้เป็นพวกหึงโหดซึ่งไม่มีวันปราณีเขาแน่ๆ
“สามี... จะเอาของเล่นในตัวเค้าออกเมื่อไหร่”
หลานวั่งจีชะงักก่อนจะเดินมาแทรกระหว่างขาของคนรัก ดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นมากอดรอบคอตนเองและวางรีโมตไวร์เลสของของเล่นทั้งสองชิ้นออกมาวางไว้บนเคาเตอร์ สารวัตหนุ่มปลอกเปลือกคนรักออกจนเนื้อตัวเปลือยเปล่าทั้งหมด เขาก้มหน้างับเนื้อนุ่มในขณะที่มือเองก็ควานเข้าไปเบื้องล่างดึงของเล่นทั้งสองชิ้นออกมาวางไว้อีกด้านหนึ่ง
เว่ยอู๋เซี่ยนครางเครือในลำคออย่างพึงพอใจ ขาทั้งสองข้างรัดเอวสอบไว้หลวมๆขณะรื่นรมย์ไปกับการร่วมรักครั้งแรกของวัน ในใจนึกแผนเอาคืนอีกฝ่ายไว้ในใจมากมาย
คนอย่างเขา ฆ่าได้หยามไม่ได้
----------------------------------------------------------
“กินช้าๆหน่อย”
คนถูกทิ้งนั่งกินมื้อเย็นเงียบๆหลังจากนั้นจึงเก็บล้างและตามเจ้าตัวแสบขึ้นไปข้างบนแต่กลับพบว่าอีกฝ่ายหนีไปแล้ว หลานวั่งจีคิดว่าตัวเองคงหนักมือกับคนรักของตัวเองมากไปหน่อยแต่ไม่คิดว่าหลังจากอาบน้ำเสร็จเขาจะเห็นกลีบกุหลาบถูกโปรยเป็นทางยาว มุ่งไปยังสถานที่ที่หนึ่ง เมื่อตามไปถึงบันไดหลานวั่งจีจึงนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้
ชั้นสามของคฤหาสน์เป็นเหมือนห้องพักที่เพดานเป็นกระจกทั้งแผง ถูกตกแต่งจนเหมือนห้องพักของโรมแรมห้าดาวสุดหรู ทั้งกว้างขวางและสะดวกสบาย หลานวั่งจีเปิดประตูห้องเข้าไปแต่แล้วก็ต้องอึ้ง
ท่ามกลางแสงจันทร์และหมู่ดาวบนฟากฟ้า กระต่ายหยกดำตัวน้อยรอเขาอยู่บนเตียง
เส้นผมสีดำที่มักรวบมวยครึ่งศีรษะเสมอถูกปลอยยาวตัดกับแผ่นหลังขาวผ่อง หลานวั่งจีมองเห็นอะไรได้ไม่ชัดเท่าไหร่นักแต่กลับสังเกตเห็นว่าขาเรียวนั้นสวมใส่อะไรบางอย่างอยู่ สารวัตหนุ่มสาวเท้าเข้าไปหาคนรัก รั้งร่างอีกฝ่ายเข้ามากอดและเมื่อเข้าใกล้ก็หัวใจเต้นถี่รัวทันที
“เค้าแต่งตัวถูกใจสามีไหม”
“น่ารัก”
ดวงตาสีอ่อนมองคนรักที่เอนตัวลงไปนอนกับเตียง มือหนาจับข้อเท้าไว้และจรดริมฝีปากพรมจูบนิ้วทุกนิ้วไล่ขึ้นมาช้าๆราวกับทาสรักผู้ซื่อสัตย์ เว่ยอู๋เซี่ยนหัวเราะคิกคักเมื่อต้นขาด้านในถูกขบกัดเบาๆแต่เมื่อลิ้นร้อนเปียกชื้นนั้นเลียลงบนชั้นในตัวจิ๋วเนื้อผ้าแสนบางเบาของตนเอง เขาก็ต้องครางเสียงแผ่วจมูกโด่งนั้นไล้ไปตามความโค้งมนช้าๆจนส่วนอ่อนไหวนั้นตื่นตัวและชูชันขึ้นมาจนพ้นขอบชั้นใน
หลานวั่งจีไม่รีบร้อน เขาทั้งขบกัดจูบและดูดดุนผิวเนื้ออ่อนจนขึ้นรอยรักมากมายเหมือนกลีบกุหลาบ คนรักของเขาช่างเหมาะกับสีแดงเหลือเกิน ชายหนุ่มกัดสายรัดต้นขาสีแดงเข้มและค่อยๆลากมันออกมาตามขาเรียวยาวจากนั้นก็โยนมันไปด้านหลังและก้มลงเพลิดเพลินกับอาหารจานหลักตรงหน้าต่อ
“นอนคว่ำสิ”
“อะ อ๊ะ พ พี่รอง สามี...”
“นิ่งๆ”
คนสกุลหลานล้วนไม่มีดี
“สามี เค้าเค้าไม่ไหวแล้ว ใส่เข้ามาที!” เว่ยอิงพูดเสียงสั่น มือทั้งสองแบะก้อนกลมทั้งสองออกจนเผยให้เห็นช่องทางชัดเจน ชายหนุ่มร้องขอเสียงสั่นเครือ
“แฮ่ก อ เอาเค้าที”
----------------------------------------------------------------
หลานวั่งจีเงยหน้าขึ้นจากแผ่นอกโดยไม่วายเลียยอดอกแข็งขืนชูชันจนเจ้าของร่างตัวสั่นระริก เมื่อเห็นว่าแสงแรงของวันใกล้จะปรากฎขึ้นเขาก็เอื้อมมือไปที่โต๊ะข้างหัวเตียง ควานหารีโมตและกดปุ่มสั่งให้ม่านกันแสงเลื่อนออกมาครอบคลุมหลังคากระจกใสจนภายในมืดมิด แสงไฟสีนวลสว่างขึ้นทันทีก่อนจะถูกปรับลดความสว่างลงจนเหลือเพียงแค่ไฟสีส้มนวลสลัวๆเท่านั้น แสงไฟนั้นทำให้สารวัตหนุ่มเห็นผลงานของตนเองชัดเจนขึ้นจนดวงตาสีอ่อนส่องประกายวาววับ
ร่างเปลือยเปล่าของเว่ยอู๋เซี่ยนที่เคยขาวนวลผุดผ่องไร้ตำหนิเหมือนเครื่องเคลือบชั้นสูง ยามนี้ถูกแต่งแต้มด้วยร่องรอยสีกุหลาบมากมายทั่วทั้งร่าง บางแห่งมีรอยกัดจนขึ้นรอยฟันชัดเจน ยอดอกทั้งสองข้างถูกฟัดจนกลายเป็นสีแดงก่ำ แกนกายนั้นยังแข็งขืนทว่าทำได้เพียงแค่หลั่งของเหลวสีใสออกมาเท่านั้น ช่องทางที่ถูกรังแกมีน้ำรักสีขุ่นไหลซึมออกมาจนหยดลงบนผ้าปูเตียงเป็นดวงๆ ที่ริมฝีปากเองก็มีคราบของเหลวสีขุ่นแบบเดียวกันติดอยู่
“สามี พัก... ให้เค้าพักหน่อย ฮึก เค้าเหนื่อย” เว่ยอู๋เซี่ยนครางสะอื้นเมื่อยอดอกถูกฟอนเฟ้นอีกครั้ง เขาถูกรังแกอย่างหนักจนไม่มีอะไรจะออกแล้วแต่ก็ยังรู้สึกเสียวไม่หยุดเพราะสามีโฉดชั่วคนนี้แท้ๆ!
หลานวั่งจีมองท่าทางหงุดหงิดของคนใต้ร่างแล้วก็ได้แต่คลี่ยิ้มจาง ชายหนุ่มหยิบเสื้อเชิ้ตของตนจากพื้นและสวมใส่ให้คนรักท่ามกลางสายตางุนงงก่อนจะช้อนร่างของอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมอก เขามองน้ำรักที่ไหลลงมาตามขาของเว่ยอิงแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ คงต้องมาทำความสะอาดอีกรอบ...
“สามี?”
“ไม่มีอะไรไปอาบน้ำกันเถอะ” เขาหอมหน้าผากของคนรักและจูบริมฝีปากที่มอบความสุขให้เขาหลายต่อหลายครั้งย้ำๆ
“เรายังมีเวลาอีกหลายวันไม่ต้องรีบหรอก”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in