เช้าเชื่อว่าตัวเองก็เหมือนกับหลายคนที่มีความฝัน (ที่บ้านบอกว่า สาเหตุที่ตั้งชื่อว่า ‘เช้า’ ก็เพื่อแก้เคล็ดไม่ให้เป็นคนตื่นสาย) แต่สิ่งที่เราอยากเป็นกับสิ่งที่เราควรจะเป็นนั้นมักจะไม่ค่อยตรงกัน
สิ่งที่เช้าชอบและอยากทำมาตลอดคือการทำอาหาร เพราะตั้งแต่จำความได้ เช้าก็มักจะเข้าห้องครัวไปดูผู้ใหญ่ทำอาหารอยู่เสมอ
ตอนเด็กๆ เช้าอาศัยอยู่กับคุณยาย พออายุได้ประมาณสามขวบ ก็เริ่มเข้าครัวไปช่วยแม่ครัวประจำบ้านเด็ดใบโหระพาหรือใบกะเพราแล้วค่ะ แต่อยู่กับคุณยายได้ไม่นาน เช้าก็ย้ายมาอยู่กับคุณย่า ที่บ้านนี้คุณย่าทำอาหารเองหมดทุกอย่าง แถมยังทำเก่งมากจนเคยไปออกรายการทำอาหารทางโทรทัศน์มาแล้ว
คุณย่าเป็นผู้หญิงที่เก่งรอบด้าน แต่ภาพของคุณย่าที่เช้าประทับใจที่สุดก็คือเวลาที่คุณย่าทำอาหาร ตอนเด็กๆ เช้าจึงมักนึกเสมอว่าถ้าขอแบ่งความเก่งของคุณย่ามาได้สักนิด ก็คงขอฝีมือด้านการทำอาหารของท่านนี่แหละ คำขอของเช้าในวันนั้นดูเหมือนจะกลายเป็นจริง เพราะเมื่อโตขึ้น เช้าก็รู้สึกว่าตัวเองมีจมูกและลิ้นที่มีประสิทธิภาพดีกว่าคนอื่น สามารถจำแนกและจดจำรสชาติของอาหารที่เคยกินได้เป็นอย่างดี รวมถึงสามารถวิเคราะห์ส่วนประกอบต่างๆ ในอาหารได้จากการดมกลิ่น แม้แต่กลิ่นที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เช้าก็สามารถจำแล้วนำกลับมานึกถึงได้อีกครั้ง
เช้าก็เลยใช้พรสวรรค์นี้ให้เป็นประโยชน์ด้วยการแกะสูตรอาหารที่เคยกิน แต่แรกๆ ก็ใช่ว่าจะออกมาดีนะคะ ต้องเททิ้งเยอะเหมือนกัน กว่าจะเริ่มทำกับข้าวง่ายๆ ได้คล่องก็ตอนมัธยมต้น หลังจากนั้นจึงเริ่มหัดทำขนมทุกประเภทที่ชอบกิน ไม่ว่าจะขนมไทย ขนมฝรั่ง ขนมอบ และขนมไม่อบ จนเช้ามีความฝันว่าหลังจบม.3 แล้วอยากจะไปเรียนต่อที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ (Le Cordon Bleu)—โรงเรียนสอนทำอาหารระดับสูงที่ประเทศฝรั่งเศส ไม่อยากเรียนสายสามัญอีกต่อไปแล้ว
แต่ตามค่านิยมของสังคมไทย เด็กดีควรเรียนให้เก่งแล้วสอบเข้าคณะยอดฮิตในมหาวิทยาลัยชื่อดังให้ได้ สุดท้ายเช้าก็ไม่ได้ไปเรียนทำอาหารอย่างที่หวังไว้ แต่คุณพ่อก็รับปากว่าถ้าเรียนจบปริญญาตรีเมื่อไหร่
จะยอมให้เช้าไปทำตามความฝันในด้านการทำอาหาร
แต่หลังจากเช้าเรียนจบปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ คุณพ่อก็หาเหตุผลมาอ้างว่า ลูกพ่อต้องมีวิชาติดตัวเยอะๆ ควรจะเรียนปริญญาโทต่ออีกสักใบ ซึ่งเช้าก็เชื่อค่ะ เลยไปเรียนต่อปริญญาโท สาขาการตลาดระหว่างประเทศที่ประเทศสวีเดน ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต เพราะตอนอยู่ที่สวีเดน เช้าต้องทำอาหารกินเองแทบทุกมื้อเพื่อความประหยัด ทักษะการทำอาหารทั้งไทยและฝรั่งของเช้าจึงพัฒนาขึ้นมาก ในช่วงนั้นเองเช้าก็เลยเริ่มเขียนบล็อกเกี่ยวกับการทำอาหาร ชื่อว่า ‘A Little Kitchen for A Little Chef’
การเขียนบล็อกนั้นทำให้เช้าอยากคิดสูตรอาหารใหม่ๆ ด้วยตัวเอง เช้าจึงเริ่มตั้งข้อสังเกตในการทำอาหารประเภทต่างๆ แล้วนำ มาพัฒนาเป็นสูตรที่ตัวเองชอบ จากนั้นก็บันทึกกันลืมไว้ในบล็อก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าบล็อกนั้นจะมีคนติดตามและมีผลตอบรับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนเช้าเริ่มมั่นใจว่า เส้นทางสายอาหารนี่แหละคือทางของเรา!
หลังเรียนปริญญาโทจบกลับมาแล้ว เช้าก็ไปเป็นพนักงานบริษัทตามที่คุณพ่ออยากให้เป็น แม้จะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่เช้าก็ตั้งใจว่าจะทำงานเก็บเงินเพื่อไปเรียนทำอาหารที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ด้วยตัวเองให้ได้สักที
และแล้วเช้าก็ทำสำเร็จค่ะ ได้ไปเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอสมใจ พอเรียนคอร์สแรกจบเช้าก็ได้ทำงานเกี่ยวกับอาหารเลย โดยงานของเช้ามีหน้าที่แกะสูตรและคิดค้นสูตรอาหาร ซึ่งงานนี้เป็นงานที่เช้าได้ใช้สกิลในการรับรสและดมกลิ่นของตัวเองอย่างเต็มที่ แถมยังได้ใช้จินตนาการสร้างสรรค์อาหารในแบบที่ชอบอีกด้วย และช่วงนั้นเช้าก็เริ่มมีนิตยสารมาขอสัมภาษณ์ มีคนมาขอเรียนทำอาหารและทำ ขนมด้วย เริ่มมีคนจ้างไปเป็นที่ปรึกษาด้านการคิดค้นหรือถอดสูตรอาหารนอกเวลางาน
หลังจากทำงานที่นี่ได้หนึ่งปี สุดท้ายเช้าก็ลาออกมาทำงานเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัว เพราะนอกจากจะรายได้ดีกว่าแล้ว ยังมีเวลามาทำขนมและเปิดร้านเป็นของตัวเองอีกด้วย
ช่วงแรกที่บ้านก็ดราม่ากันหนักมาก คุณพ่อถามทุกครั้งที่เจอหน้าว่าจะกลับไปทำงานประจำเมื่อไหร่ ร้านขนมขายได้บ้างไหม ร้านจะเจ๊งหรือเปล่า ช่วงนั้นเช้าร้องไห้ทุกวัน เริ่มกลัวความไม่มั่นคง กลัวว่าตัวเองจะทำ พลาดแล้วต้องกลับไปทำงานที่ไม่ชอบอีก แต่ในเมื่อเราได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักและทุ่มเทให้กับมันมากพอ ผลลัพธ์มันก็ไม่ควรจะออกมาแย่ใช่ไหมคะ
ตอนนี้เวลาผ่านมาสี่ปีแล้ว จากร้านขนมเล็กๆ ที่ไม่มีหน้าร้าน ก็ได้เปลี่ยนสถานะมาเป็นบริษัทที่มีทีมงานช่วยกันถึงเจ็ดคน จากที่คนในครอบครัวเคยไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเช้า ตอนนี้ทุกคนก็เข้าใจและภูมิใจที่เช้าสามารถทำสิ่งที่ชอบให้กลายเป็นอาชีพหลักเลี้ยงดูตัวเองได้
และเช้าก็พบว่า นอกจากความสุขจากการทำในสิ่งที่ตัวเองรักแล้ว ความสุขอีกอย่างที่เช้าได้รับกลับมาเสมอก็คือ การได้เห็นคนที่กินอาหารฝีมือของเรามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง หรือแม้แต่ลูกค้าที่ซื้อขนมไปแล้วประทับใจจนกลับมาชื่นชมหรือซื้อซ้ำอีกหลายครั้ง สิ่งเหล่านี้ทำให้เช้ารู้ว่า ถ้าเราไม่ละทิ้งความฝันไปเสียก่อน บางทีสิ่งที่เราอยากเป็นและสิ่งที่เราควรจะเป็นนั้นอาจเป็นสิ่งเดียวกันก็ได้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in