“ทำหน้าแบบนั้นเป็นด้วยเหรอ”
เป็นประโยคที่ทำให้ซงฮยองจุนต้องหันไปเลิกคิ้วใส่เพื่อนสนิทอย่างคังมินฮีด้วยความสับสน
“แบบนั้นคือแบบไหน
“หน้าเหมือนหงุดหงิดอะไรสักอย่าง” มินฮีหันมาจิ้มหว่างคิ้วเขา “คุณนางฟ้าคนน่ารักของโรงเรียนเคยทำหน้าแบบนี้ที่ไหนกัน”
ฮยองจุนหันไปตีไหล่เพื่อนสนิททันทีที่ได้ยิน
คุณนางฟ้า
ให้พูดจริง ๆ ก็คือเป็นฉายาที่เขาได้มาตอนไหนไม่รู้ เพราะแค่ตาโต ตัวเล็ก(กว่าคนอื่น) เวลายิ้มแล้วดูน่ารักนิดหน่อย ทั้ง ๆ ที่ตัวจริงของเขาไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่านางฟ้าเลยสักนิด
คุณนางฟ้าไม่เคยอารมณ์เสีย
ใครก็ไม่รู้เป็นคนเริ่มคำพูดแบบนั้น ก็จริงที่เขาไม่ใช่คนขี้รำคาญหรือขี้หงุดหงิด ไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธออกมาทางสีหน้าเท่าไหร่ แต่คุณนางฟ้าของทุกคนแม่งก็เป็นคนเหมือนกัน ถึงคนจะไม่เคยเห็นเวลาเขาอารมณ์เสีย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เคยหงุดหงิดเลย
เหมือนอย่างตอนนี้ ที่ซงฮยองจุนกำลังหงุดหงิด
หงุดหงิดอะไรไม่รู้เหมือนกัน อาจจะหงุดหงิดตัวเองด้วยที่ให้คำตอบคังมินฮีไม่ได้ว่าอะไรทำให้เขาหงุดหงิดถึงขนาดที่เพื่อนสนิทของเขาดูออก
อาจจะเพราะเขาต้องมานั่งดูรุ่นพี่รองประธานนักเรียนทำงานทั้ง ๆ ที่แบ่งให้เขาทำก็ได้ ถึงจะรับผิดชอบคนละฝ่ายก็เถอะ
หรือไม่ก็เพราะเขายังไม่มีอะไรทำนอกจากการนั่งรองานอยู่ในห้องสภานักเรียนเพราะคุณประธานดันลืมหยิบมาด้วย
ไม่ก็ทั้งหมดข้างบนรวมกัน
ไม่ก็ทั้งหมดรวมกันเหมือนเดิม แต่นับแหวนสีเงินบนนิ้วเรียวของรองประธานคนนั้นไปด้วย
น่าหงุดหงิดเป็นบ้า
“มึงกลับก่อนก็ได้นะ กูรองานเอง งานหน้ามึงค่อยทำ” เขาพูดขึ้นมาหลังจากที่ทนความหงุดหงิดไปได้ไม่นาน “มึงนัดแฟนไว้ไม่ใช่เหรอ"
มินฮีพยักหน้าขอบคุณก่อนจะเดินออกจากห้องไป ความจริงเขาก็ไม่ได้เห็นใจอะไรเพื่อนขนาดนั้น แค่ถ้าเพื่อนสนิทออกไป เขาจะได้เริ่มหาสาเหตุขอิงไอ้ความหงุดหงิดที่กวนใจเขามาตั้งแต่เมื่อกี้สักที
ซงฮยองจุนเดินไปยังโต๊ะที่คุณรองประธานนักเรียนคนเก่งนั่งทำงานอยู่ เขามองกองเอกสารที่ประธานนักเรียนทิ้งไว้ให้รุ่นพี่ตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจ
“ผมช่วยมั้ย” ฮยองจุนถาม
เขาก็ไม่ได้เป็นคนดีนักหรอก แต่ไอ้งานตรงหน้าน่ะสิ เยอะขนาดนี้อยู่ช่วยยามปิดตึกยังอ่านไม่เสร็จเลยมั้ง แถมยังไงเขาก็ยังไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว
“ไม่เป็นไร” รุ่นพี่ที่นั่งอยู่ตอบกลับมา
หงุดหงิด
เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกหงุดหงิด
“เยอะขนาดนี้วันนี้ไม่เสร็จหรอก ผมเองก็ว่าง ให้ผมช่วยเหอะ ยังไงก็แค่ทำสรุป”คุณนางฟ้าของโรงเรียนทิ้งตัวลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามก่อนจะแบ่งเอกสารจากรุ่นพี่ตรงหน้ามา
“ตามใจละกัน” ได้คำตอบเป็นแค่เสียงงึมงำจากคนแก่กว่าที่เงยหน้าขึ้นมามองแว้บนึงก่อนจะก้มลงไปอ่านงานต่อ
ซงฮยองจุนรู้สึกหงุดหงิดกว่าเดิม
เขาเงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้า ไล่ตั้งแต่ผมสีน้ำตาลที่ถูกเซ็ตขึ้นไปแบบหมิ่นเหม่ว่าจะผิดกฎระเบียบโรงเรียน ผ่านตากลม ๆ ที่กำลังจดจ่อกับกระดาษตรงหน้า สันจมูกที่สวยเหมือนพระเจ้าปั้นมาเองกับมือ ลงมาถึงปากได้รูปที่มีแผลตรงมุมปากนิดหน่อย
รุ่นพี่ที่หน้าตาดีจนเหมือนรูปปั้นคนนี้เหมาะกับฉายานางฟ้ายิ่งกว่าเขาหลายเท่า ทำไมคนถึงไม่เรียกกันบ้างนะ
หรือเพราะคน ๆ นี้คืออีฮันกยอล รุ่นพี่ที่ทำรุ่นน้องหลายคนกลัวเพียงแค่ปรายตามอง
“ไหนว่าจะช่วยทำ มองทำไม”
“ครับ?”
“บอกจะช่วยทำไม่ใช่เหรอ เอาแต่นั่งมองแบบนั้นงานจะไปเดินได้ยังไง” คนตรงหน้าเขาเงยหน้าขึ้นมาสบตา
ยอมรับว่าเขารู้สึกเหมือนใจกระตุกนิดหน่อย
ไม่ใช่แบบที่รู้สึกแย่เพราะโดนจับได้ แต่เป็นแบบที่ทำให้เขาหน้าขึ้นสีจนต้องเอาหน้ามุดงานหนีเพราะไม่คิดว่ารุ่นพี่ตรงหน้าจะรู้ตัว
สักพักก็เงยหน้าขึ้นมาแอบมองอีก
รอบนี้ไม่ได้มองหน้า แต่เป็นสิ่งนั้นที่ทำให้เขาหงุดหงิดมาตั้งแต่แรก
แหวนสีเงินบนนิ้วนางข้างซ้ายนั่น
เขาเคยเห็นมันมาก่อน แค่จำไม่ได้ว่าที่ไหน
พอจ้องไปสักพักก็นึกขึ้นได้
เขาไม่ได้เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แค่เคยเห็นแหวนแบบเดียวกัน บนนิ้วเดียวกันของไอ้พี่ประธานนักเรียนที่ลากเขามาทำสภาด้วยนั่นแหละ
“คบกับรุ่นพี่โยฮันเหรอครับ” พอนึกขึ้นได้ปากก็โพล่งไปเลยแบบไม่ทันได้คิดก่อน ถ้าเป็นนักเรียนคนอื่นอาจจะตกใจกลัวจนหนีไปแล้ว แต่กับเขาก็รู้สึกแค่ว่าเผลอถามอะไรที่เสียมารยาทไปแล้วแค่นั้นเอง จุดนี้ก็คิดได้แค่ว่าจะโดนเกลียดก็ไม่แปลกหรอก
“ดูออกเหรอ” รุ่นพี่ฮันกยอลเลิกคิ้วถาม “แค่เคยเฉย ๆ น่ะ”
“แล้วแหวนอันนั้น…” เขาชี้
“...ใส่จนชินไปแล้ว” คนตรงหน้าลูบแหวนบนนิ้วนางก่อนจะตอบ
“ถอดได้มั้ยครับ”
“ฮะ?”
“ผมไม่ชอบ”
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ฮยองจุนเดินอ้อมไปอีกฝั่งที่ฮันกยอลนั่งอยู่ ยืนค้ำรุ่นพี่แถมยังจับไหล่พี่เขาแบบที่ถ้าใครมาเห็นก็คงเป็นลมไปก่อน
เพราะคุณนางฟ้าของคนทั้งโรงเรียนกับรุ่นพี่คนน่ากลัวดันอยู่ในท่าที่ไม่ปลอดภัยเท่าไหร่นัก
“นายไม่ชอบแล้วเกี่ยวอะไรกับพี่” ฮันกยอลดันแขนเขาออกแล้วลุกขึ้น ก่อนจะถูกเขาดันกลับลงไปนั่งเหมือนเดิม
“ผมเห็นแล้วหงุดหงิดครับ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกั..”
“ก็พี่ไม่มีเหตุผลที่จะต้องใส่มันแล้ว กับโยฮันเองก็เลิกไปแล้วไม่ใช่เหรอ” ฮยองจุนเอียงคอถาม “ทำไมจะถอดไม่ได้ล่ะ”
“...”
“ไม่ถอดแล้วเมื่อไหร่จะเลิกชอบมันได้เหรอ”
“ซงฮยองจุน” โดนขึ้นเสียงใส่นิดหน่อย อาจจะเพราะเผลอไปเรียกคนสำคัญของพี่คนนั้นว่ามัน
“ครับ นั่นชื่อผมเอง” คุณนางฟ้าตัวปลอมของโรงเรียนยิ้มรับ “คิดว่าผมดูไม่ออกเหรอ ที่พี่มองแหวนอันนั้นเมื่อกี้”
อีฮันกยอลทำได้แค่นั่งเงียบ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ไหล่ของเขาโดนบีบจนเจ็บเหมือนโดนบังคับให้มองแค่คนตรงหน้าเขาเท่านั้น
“ผมหงุดหงิดที่พี่ใส่มัน หงุดหงิดทุกทีเวลาพี่มองแหวนนั่นด้วยสายตาแบบนั้น” ฮยองจุนจับมือข้างที่มีแหวนของรุ่นพี่ขึ้นมา “ถ้าพี่ไม่ถอด ผมถอดเองก็ได้ครับ”
แหวนสีเงินที่ทำให้คนเด็กกว่าหงุดหงิดถูกถอดออกแล้วเก็บใส่กระเป๋าเสื้อนักเรียนของคุณนางฟ้าตัวปลอมตรงหน้า
“จะเก็บไว้จนกว่าพี่จะเลิกชอบมันละกัน” ซงฮยองจุนพูดด้วยรอยยิ้มประจำตัวของนางฟ้าของโรงเรียน
เป็นอีกครั้งที่ฮันกยอลรู้สึกเหมือนถูกบังคับให้มองแค่คนตรงหน้า
“ถ้าเปลี่ยนมาชอบผมได้ด้วยจะยิ่งดีนะครับ”
แต่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่ารอยยิ้มที่ทุกคนในโรงเรียกว่านางฟ้านั้น จริง ๆ ไม่เหมือนนางฟ้าสักนิด
“เพราะผมเองก็ชอบพี่เหมือนกัน”
เหมือนรอยยิ้มของปีศาจมากกว่า
end.
----
จะลงครบทุกวันมั้ยไว้ว่ากันอีกทีนะคะ._.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in