“ทำไมเธอเป็นคนซอฟต์จัง”
“เอาแต่ใจบ้างก็ได้”
“เป็นคนดีไปไหม ใจดีกับตัวเองหน่อยดิ”
จริงๆแล้ว การเริ่มต้นใจดีกับคนอื่นมากๆ มันมาจากการพยายามปกป้องตัวเองจากความรู้สึกผิดเป็นส่วนใหญ่ แค่รู้สึกผิดเวลาทำไม่ดี ทำร้ายใจคนอื่น เลยไม่ทำแค่นั้น
แต่นานๆเข้ากลายเป็นว่า เพราะไม่อยากเห็นคนอื่นเจ็บปวด เพราะทราบดีว่าการถูกทำร้ายจากคนที่เราแคร์มันโหดร้ายยังไง กลายเป็นคนที่เผลอยอมให้คนมาทำร้ายใจซ้ำๆ หลายๆครั้ง กว่าจะรู้ตัวก็เกือบจะสายไปละ
กลายเป็นคนที่รอเก่ง รอให้อีกฝ่ายทบทวน พยายามเข้าใจเหตุผลของทุกๆการกระทำที่ทำให้เราเจ็บปวด
อยากเขียนให้จบแต่ง่วงจัง
หลายๆครั้งเราเจ็บปวดกับการพยายามคีพคนในความสัมพันธ์ นึกถึงใจคนอื่นจนเจ็บเอง
พอนึกถึงคนอื่นมากๆ มันหนีไม่พ้นการโทษ การตำหนิตัวเองว่าเราเองที่ผิด เพราะเราไม่สามารถตำหนิหรือโกรธใครได้
เรามีred flagเยอะมาก ทั้งคนที่มีความคิดน่ากลัว คนที่เกลียดสิ่งที่เป็นจุดยืนของเรา สแตนดาร์ดเราสูง
สัสๆ แต่กลายเป็นว่า คนที่ไม่ไม่เร้ดแฟลกเหล่านี้ บางทีก็กลายเป็นคนที่ทรีตเราเหมือนอะไรไม่รู้ทุกที
พยายามคิดมาตลอดว่า เราต้องการอะไรกันแน่ ในช่วงเวลาที่เหมือนถูกลดทอนขนาดนี้
เป็นเรื่องยากเย็นมาก เหมือนต้องตอบปัญหาหัวใจตัวเอง
ตอนนี้แค่คนที่เข้าใจความซอฟต์ของเรา ไม่มานั่งตำหนิ หรือบังคับให้เราต้องแข็งแรง เข้มแข็ง คือเราก็เข้มแข็งในแบบของเรา แต่การบอกให้เราเกลียดโกรธคนอื่นเราทำไม่ได้ ไม่อยากทรมาน
มันไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ตัวกูค่า
คนที่ทำให้รู้สึกว่า เห้ย มันไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
พอเราผ่านไปได้ เราก็ลืมไปเองอะ
คนที่สมควรได้รับความใจดีของเราอะ
เอาดีๆมันควรเป็นเรื่องความสัมพันธ์มั้ยนะ ทำไมมันจบที่เหมือนกุมาเขียนไลฟ์โค้ชตัวเอง งง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in