เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I am depressed girl.writeismyway
เมื่อฉันรู้จักคนที่ชื่อ 'ซึมเศร้า'

  • ฉันไม่อยากมีวันพรุ่งนี้



    ฉันไม่อยากหลับตาลง เพราะกลัวว่าจะตื่นขึ้นมาแล้วเจอวันพรุ่งนี้

    ขอให้ฉันได้หลับแบบนี้...ตลอดไปเลยได้ไหม

    ไม่ต้องตื่น ไม่ต้องรับรู้ ตอนนี้ฉันเหนื่อยเหลือเกิน

    ทุกเช้าที่ฉันตื่นมา ฉันรู้สึกว่าร่างกายของฉันไม่มีแรง เอาแต่มองจ้องเพดานสีขาวที่มีแต่หลอดไฟอยู่ด้านบน และสิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือหัวใจของฉันที่มันทำงานได้เชื่องช้าผิดปกติ มันเต้นถี่ต่ำลงเรื่อยๆ

    ฉันไม่รู้ว่า สิ่งที่ฉันเป็นในตอนนี้คืออะไร

    ฉันร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย โดยที่ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าฉันร้องไห้ให้กับเรื่องอะไรกันแน่ เรื่องที่บ้าน เรื่องเรียน เรื่องงาน หรือเรื่องเพื่อน ฉันหาคำตอบให้กับน้ำตาของฉันไม่ได้ พยายามข่มตานอนหลับแต่สุดท้ายก็ต้องตื่นขึ้นมาเปิดทีวีให้รายการรอบดึกรันไปเรื่อยๆ

    ฉันร้องไห้ตั้งแต่สามทุ่มของวันนั้น และยังคงร้องต่อเนื่องจนถึงแปดโมงเช้าของอีกวัน

    มันสาหัสกว่าที่ฉันจะรับมันไหว ฉันไม่อยากบอกใคร ฉันอยู่ได้ และฉันต้องอยู่ คงเป็นเพราะความเครียดธรรมดาที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้
    หลายวันมานี้ฉันแทบไม่ได้เจอเพื่อน เรียนเสร็จกลับหอ แล้วก็นอนจมอยู่บนเตียง ไม่มีแรงจะทำอะไร ในหัวก็คิดวนไปวนมาแต่เรื่องซ้ำๆเดิมๆ

    เวลาสามทุ่มตรง กับ คนที่หมดหนทางที่จะอยู่

    มันทรมานจริงๆกับการต้องเผชิญอยู่ในโลกนี้เพียงคนเดียว เราผิดเองที่รับเรื่องพวกนั้นไม่ไหว ผิดที่เราเองที่ทำให้ทุกอย่างต้องกลายเป็นแบบนี้ ฉันโทษตัวเองและพยายามหาข้ออ้างที่จะทำให้ตัวของฉันเองเป็นคนผิด 
    ไม่อยากอยู่เลย แค่คิด...
    อยากทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองหายไปจากโลกนี้โดยที่ฉันไม่ต้องสังหารชีวิตตัวเอง
    ไม่อยากโดดตึกเพราะเจ็บเกินไป
    ไม่อยากกรีดข้อมือด้านซ้ายเพราะฉันกลัวเลือด
    ไม่อยากผูกคอเพราะกลัวหายใจไม่ออก
    สุดท้ายฉันก็กลัวความตายอยู่ดี...แต่ฉันแค่ไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้แล้วจริงๆ
    มันยากลำบาก ฉันหมดแรงที่จะทนอยู่ต่อไป
    ฉันท้อในเรื่องที่ยังไม่มาถึง ฉันคิดมากไปเอง
    ฉันรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า...
    ฉันคิดว่าถ้าฉันยังใช้ชีวิต กับความคิดแบบนี้ไปเรื่อยๆ มันคงไร้ความหมายตัดสินใจเข้าพบจิตแพทย์ มันเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่จะทำให้เรื่องภายในใจของฉันทุเลาลงได้
    แน่นอนว่าวันนั้นฉันได้พูดสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจ
    คนตรงหน้าต้องการที่จะรับฟังฉัน มากกว่าคำแนะนำที่ยกตัวเองให้เป็นนักปราชญ์ของทุกเรื่อง
    และแล้ว ฉันก็ได้รู้จักกับเขา...


    สวัสดี โรคซึมเศร้า...


    เราเป็นเพื่อนกันแล้วเนอะ...
    ฉันโทรไปหาแม่หลังจากที่กลับมาจากคลินิก ใจของฉันสั่น เต้นถี่ กลัวถ้าบอกพ่อกับแม่ไปกลัวเขาจะหาว่าคิดไปเอง ฉันกลัวคำตอบของพ่อมากที่สุด กลัวพ่อไม่เข้าใจ กลัวพ่อคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกของลูกสาวที่คิดเพ้อเจ้อไปเอง
    "แม่..."
    "ว่าไงลูก"
    "วันนี้หนูไปหาหมอมานะ..."
    "อ้าว เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ?"
    "หมอบอกว่าหนูเป็นโรคซึมเศร้า" 
    เพียงแค่ฉันเอ่ยประโยคนั้น น้ำตาของฉันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ฉันกลัวที่จะได้ยินคำพูดต่อมาของแม่ แม่ต้องหาว่าฉันบ้าแน่ๆเลย 
    "มันเป็นยังไง ไหนบอกแม่ซิ?"
    "เครียด ร้องไห้ตลอด ไม่อยากอยู่แล้ว..." แม่ฉันเงียบไปฟังหนึ่ง แล้วก็พูดเสียงสั่นๆกลับมา
    "ทำไมล่ะลูก อยู่กับแม่สิ อยู่กับพ่อด้วย" ฉันคงเป็นลูกที่แย่มากใช่ไหมที่เอาเรื่องนี้มาพูดจนท่านร้องไห้เพราะฉัน ฉันทำผิดอีกแล้ว แม่บอกให้ฉันคุยกับพ่อ และเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินน้ำเสียงของพ่อเป็นแบบนี้ เสียงของพ่อเหมือนคนร้องไห้ 
    "ทำไมล่ะลูก หนูต้องอยู่กับพ่อกับแม่สิ ต้องอยู่ด้วยกัน" นับว่าเป็นสายโทรศัพท์ที่ชุลมุนที่สุดเท่าที่เคยคุยมา 
    แต่มันคือโอกาสที่ฉันได้พูดเปิดใจกับพ่อและแม่ครั้งแรก...

    สวัสดีโรคซึมเศร้า หวังว่าเราจะได้จากกันในเร็วๆนี้นะ 


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in