เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Lock down ณ Londonpeperi
จุดเริ่มต้นของความปั่นป่วน
  •              


                       

               ครึ่งปีที่ผ่านมาชีวิตเราเรียกได้ว่ากำลังมีความสุขได้มาเรียนต่อโทที่ลอนดอนตามความฝัน ได้เจอเพื่อนร่วมชั้นจากหลากหลายประเทศไปทำงานอาสาสมัครของมหาวิทยาลัย เที่ยวเล่นในเกาะอังกฤษ กินจนตัวกลมด้วยความที่ช่วงท้ายตารางจะเริ่มว่างขึ้นเราเลยเตรียมวางแผนตะลุยยุโรปโดยไม่คิดเลยว่าวันนึงไวรัสตัวเล็กๆ จะทำแผนเราพังทั้งหมด


    เมื่อหลายเดือนก่อนเรื่องโควิดยังเป็นเรื่องไกลตัวเราพูดถึงมันบ้างประปรายกับเพื่อนร่วมชั้น แต่โดยมากเราจะคุยเรื่องนี้กับหลินเพื่อนชาวไต้หวันแต่เป็นหมอที่ทำงานในประเทศจีนเพราะเราต่างก็อยู่ในประเทศที่มีการระบาดในช่วงแรกถึงจะคุยกันบ่อยแต่เราไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมาป่วนเรามากขนาดนี้ในลอนดอนเราจำได้ว่าตอนญี่ปุ่นเริ่มมีการระบาด อังกฤษยังเสนอตัวจัดโอลิมปิกแทนอยู่เลย แต่แล้วพอสถานการณ์ในอิตาลีเริ่มรุนแรงพวกเราก็เริ่มคิดหนักทุกคนในห้องเริ่มคุยเรื่องกันแทบทุกวันจนในที่สุดก็ถึงจุดระเบิด


    วันหนึ่งเอเรนี่เพื่อนชาวกรีซของเราส่งข้อความมาในห้องแชทกลุ่มว่า

    “ชั้นไม่อยากไปเรียนแล้วนะ มหาวิทยาลัยควรปิดและให้เราเรียนออนไลน์แล้วฉันก็จะบินกลับบ้านให้เร็วที่สุด”

    “ใช่ถึงเราอาจจะเสี่ยงจากการเดินทางแต่เราก็ไม่อยากป่วยแบบโดดเดี่ยวในต่างประเทศนะอย่างน้อยถ้ากลับไปฉันก็ยังได้อยู่ท่ามกลางครอบครัว วีดาเพื่อนชาวอินเดียเสริม

     

    จากนั้นห้องแชทก็ถล่มไปด้วยความเห็นของแต่ละคนส่วนตัวเรายังอึ้งพูดอะไรไม่ออกเพราะเมื่อวันก่อนพวกเรายังไปเรียนกันอยู่เลยสุดท้ายหลังจากเกิดเหตุการณ์ชุลมุนก็ได้ข้อสรุปว่าเพื่อนคนนึงจะเป็นตัวแทนส่งอีเมลว่าทุกคนไม่มีใครต้องการเดินทางไปเรียนในตอนแรกเราได้รับการยืนยันว่ายังต้องไปเรียนแต่แล้วคงเพราะมหาวิทยาลัยทนแรงกดดันจากนักศึกษาหลายๆคณะไม่ไหวจึงตัดสินใจประกาศเปลี่ยนเป็นการเรียนออนไลน์ทั้งหมด และให้อาจารย์ดูแลคอร์สแจ้งรายละเอียดความเปลี่ยนแปลงในอีเมล

     

    เรื่องขำๆคือเรามีปัญหากับความสุภาพและอ้อมค้อมของคนอังกฤษบางคนมากคือจะว่าเพราะภาษาอังกฤษเราแย่ก็คงไม่ใช่ทั้งหมดเพราะ IELTS part reading เราได้ 8 ทักษะการอ่านเราคงไม่ได้ห่วยขนาดนั้นแต่เมลที่โปรเฟสเซอร์เขียนมาเกือบ 1หน้ากระดาษเอสี่ เล่าความเป็นมาเป็นไปของโควิดความรู้สึกของแต่ละคนต่อเหตุการณ์กว่าจะบอกว่าเราควรทำยังไงต่อไปก็พาเรางงต้องอ่านซ้ำสองรอบกว่าจะเข้าใจว่าเออไม่ต้องไปเรียนนะเปลี่ยนเป็นเรียนออนไลน์

     

    ตอนนั้นในหัวเราคิดเลยว่าเราจะกลับไทย เรากลัวเพื่อนคนไทยที่อยู่หอด้วยกันก็พากันจะกลับหมด เพื่อนในชั้นเรียนก็จะพากันกลับเราโทรหาที่บ้านร้องไห้สติแตก สับสนเราจะอยู่ยังไง แต่แล้วพอตั้งสติได้เราก็ตัดสินใจว่าจะอยู่ต่อ ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของหลายคนแต่เรามีเหตุผลในแบบของเรา เราไม่สามารถเรียนจบได้แน่ถ้าเรากลับไทยถึงแม้การเรียนจะเปลี่ยนเป็นออนไลน์เราคิดว่าเราสามารถดูแลตัวเองป้องกันตัวเองไม่ให้เสี่ยงได้และสุดท้ายเราไม่อยากเอาเชื้อกลับไปเสี่ยงให้คนในไทยโดยเฉพาะครอบครัวเราในช่วงที่สถานการณ์กำลังรุนแรง

    ขอบคุณครอบครัวที่เข้าใจและเคารพในการตัดสินใจของเรามากจริงๆ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in