“อาการเป็นยังไงบ้าง”
อิมยองมินถามเรียบๆ มองคนตัวเล็กผมแดงในอ้อมกอดของตัวเองที่ตอนนี้เอนร่างพิงแผ่นอกเขาต่างโซฟา ส่วนสาเหตุที่ต้องมาอยู่กันในท่านี้ เพราะไม่กี่นาทีก่อนหน้า จองเซอุนหน้ามืดจนเกือบจะล้มคว่ำฟาดกับขอบโต๊ะในห้องอาหาร โชคยังดีที่อิมยองมินหมุนตัวคว้าได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงได้เกิดแผล
“ผมร้อน มึนหัว แล้วก็ตัวหนักๆ”
จองเซอุนบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ใบหน้าของเด็กหนุ่มแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด หายใจหอบถี่อย่างยากลำบาก
จอมเวทหนุ่มใช้มือสัมผัสบริเวณแก้มและหน้าผาก ก่อนจะขมวดคิ้วย่น หลังพบบว่าคนตัวเล็กไม่ได้มีไข้
“ยูจิน ไปหยิบตุ๊กตาหมีของเซอุนมาที” อิมยองมินหันไปสั่งเด็กสาวที่ยืนเกาะขอบประตูมองด้วยความเป็นห่วง
อันยูจินรับคำอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งขึ้นไปยังชั้นสอง ไม่ถึงหนึ่งนาทีเธอก็กลับมาพร้อมตุ๊กตาหมีตัวใหญ่
“ลองกอดเอาไว้” อิมยองมินบอก ยัดตุ๊กตาให้คนในอ้อมแขนถือ
แม้จะช้อนตาขึ้นมองด้วยแววตางุนงง แต่จองเซอุนก็ยอมกอดตุ๊กตาหมีเอาไว้แน่นอย่างว่าง่าย เพียงพริบตา บริเวณด้านบนหัวของตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลก็มีดอกไม้คริสตัลต้นเล็กๆ งอกออกมา มันส่องประกายระยิบระยับงดงามราวกับอัญมณเล่อค่า ขณะเดียวกันเด็กหนุ่มผมแดงก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
“ตอนนี้ร่างกายเธอมีพลังเวทไหลเวียนเยอะเกินไป พอร่างกายรับไม่ไหวเธอเลยมีอาการเหมือนจะเป็นไข้” อิมยองมินอธิบายให้ฟัง จองเซอุนไม่ตอบอะไร เพียงพยักหน้าน้อยๆ ราวรับรู้ “เธอคงต้องกอดตุ๊กตาแบบนี้เอาไว้สักพัก อย่างน้อยมันก็ช่วยดูดซับพลังเวทส่วนเกินในตัวเธออกมา”
“มันไม่ดีกว่าเหรอครับ ถ้าผมจะใช้เวทมนตร์เพื่อขับพลังเวทส่วนเกินที่ว่าออก” สเลย์เบก้าหนุ่มงึมงำถาม
“ตอนนี้ร่างกายเธอกำลังสับสน อีกอย่างเธอเพิ่งจะอาการดีขึ้น ทางที่ดีอย่างเสี่ยงดีกว่า” อิมยองมินบอก ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยปอยผมที่หล่นลงมาปรกหน้าผากของอีกฝ่าย “รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม”
“ครับ” จองเซอุนพยักหน้า “แต่ว่ายังมึนๆ อยู่ เหมือนโลกกำลังหมุนยังไงไม่รู้”
“งั้นหลับซะหน่อยเถอะ เมื่อเธอตื่นมา คงดีขึ้น”
“อือ...” เด็กหนุ่มส่งเสียงงึมงำในคอเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่คิดเลยนะคะ ว่าร่างกายของนายน้อยจะดูดซับได้ขนาดนี้ ทั้งที่ไปที่นั่นแค่แป๊บเดียว” อันยูจินเอ่ยเสียงอ่อน คลี่ผ้าห่มผืนเล็กที่หยิบลงมาพร้อมกับตุ๊กตาคลุมร่างของอีกฝ่าย จัดแจงให้เรียบร้อย เพื่อให้นายน้อยของเธอหลับสบายมากที่สุด
“ไม่หรอก ถ้าเซอุนยังแข็งแรงดี เขาจะไม่เป็นไร แต่เพราะร่างกายกำลังพักฟื้นอยู่ พอไปอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังเวทบริสุทธิ์แบบนั้น แทนที่จะช่วยฟื้นฟูให้หายเร็ว ร่างกายที่เหมือนกับฟองน้ำเลยซับพลังมามากเกินควร” อิมยองมินกล่าว เอนศีรษะซบกับกลุ่มผมนุ่มสีแดงของคนตัวเล็กด้วยแววตาอ่อนล้า
อิมยองมินรู้ดี สาเหตุที่จองเซอุนมีอาการแบบนี้ เพราะเด็กหนุ่มไปยังโบราณสถานที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมือง
แน่นอน เขารู้เรื่องราวทั้งหมดมาตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คนตัวเล็กให้หนุ่มชาวบ้านเขียนแผนที่ให้ หรือเรื่องที่ถามไถ่ชาวบ้านคนอื่นๆ ว่า วิญญาณสาวผมแดงนั้นมีอยู่จริงหรือเปล่า อย่างตอนที่จองเซอุนมาขออนุญาตออกไปส่งของข้างนอกทั้งที่ไม่ใช่วันพุธก็เช่นกัน เขารู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะเดินทางไปยังโบสถ์หลังนั้น ไปยังอดีตมหาวิหารที่เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานเมือง ส่วนที่เขาแกล้งไม่อนุญาตในทันที เพราะกลัวว่าจะผิดสังเกตจนเด็กหนุ่มสงสัย
“ถ้าตอนนั้นยูจินเข้าไปขวางไม่ให้นายน้อยเข้าป่า มันจะดีกว่านี้ไหม” อันยูจินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเหมือนอยากจะย้อนเวลากลับไปยังช่วงเวลานั้น
“ไม่หรอก จะช้าจะเร็ว เซอุนก็ต้องไปที่นั่นอยู่ดี” อิมยองมินบอก เพราะตลอดเวลาที่จองเซอุนเดินทางไปยังโบสถ์ฝั่งตะวันตก เขาสั่งให้อันยูจินคอยดูแลอยู่ห่างๆ แบบไม่ให้คลาดสายตา
ใช่ จะช้าจะเร็วก็คงต้องไป และบางที มันคงเป็นโชคชะตาที่กำหนดเอาไว้ — อิมยองมินนึก ทั้งสงสัยไม่ต่างจากอันยูจินว่า หากจองเซอุนไม่ช่วยเวอร์นอน หากเขาปกป้องไม่ให้พ่อมดผมน้ำเงินนั่นพาตัวไปยังดินแดนสุดท้ายของเหล่ามังกร เรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นช้ากว่านี้ไหม เพราะผลตอบแทนที่เด็กหนุ่มผมแดงได้มาจากการช่วยเหลือมังกร มันเหมือนเร่งเวลาให้คนตัวเล็กรู้ความจริงเร็วขึ้น ในขณะที่ร่นเวลาของเขาให้น้อยลง
“เมื่อวาน ก่อนคุณโซยูจะกลับ เธอได้บอกเอาไว้ว่า เธอเห็นเค้าลางของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนตัวนายท่านกับนายน้อย เธอยังบอกด้วยว่า มันกำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ บางทีอาจจะภายในวันสองวันนี้” อันยูจินเอ่ยเสียงสั่นเครือ เธอย่อตัวลงนั่งกับพื้น ดึงมือของเด็กหนุ่มผมแดงที่หลับสนิทอยู่ไปกุมเอาไว้ราวอธิษฐาน ว่าขออย่าให้คนตรงหน้าเธอหายไป “นายท่านบอกความจริงกับนายน้อยเถอะค่ะ อย่าให้นายน้อยต้องหาคำตอบเองเลย”
“ไม่จำเป็น เพราะไม่ว่ายังไง ผลลัพธ์สุดท้ายมันก็มีเพียงอย่างเดียว”
“แต่ถึงอย่างนั้น หากนายท่านบอกความจริงด้วยตัวเอง อย่างน้อยในส่วนลึกของจิตใจ นายน้อยก็จะยังคงเชื่อในตัวนายท่าน” เด็กสาวบอกด้วยน้ำเสียงเหมือนจะร่ำไห้ออกมา
อิมยองมินหลุบสายตาลงต่ำ ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและลังเล
แต่เขาตัดสินใจล่วงหน้าไปแล้ว ว่าโชคชะตาในครั้งนี้ เขาจะให้ จองเซอุน เป็นคนเลือกทั้งหมด
ไม่ว่าผลลัพธ์ออกมาจะเป็นไหน หากนั้นคือความปรารถนา เขาก็ยินดี
แม้ว่าการเลือกในครั้งนี้ อาจจะเป็นการจากกันตลอดกาลก็ตาม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in