โลกไม่ได้เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์เพียงเผ่าพันธุ์เดียว
โลกยังเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตอีกหลายเผ่าพันธุ์
แม้บางเผ่าพันธุ์จะถูกลืมเลือน นานวันเข้าก็กลายเป็นนิทานปรัมปราที่เอาไว้ใช้หลอกเด็ก
‘ชาวเงือก’
เผ่าพันธุ์ที่ถูกลืมเลือน เรื่องของชาวเงือกมั้งจะถูกเล่าและขยายความไปต่างๆนานา
มีทั้งเรื่องดี และเรื่องไม่ดี
ความเชื่อในเรื่อง ‘ชาวเงือก’ ถูกปรับแต่งไปตามความเชื่อของแต่ท้องถิ่น
ตำนานของชาวเงือกในแต่ละท้องถิ่น บ้างก็เหมือนกัน บ้างก็ไม่เหมือนกัน
แต่มีอยู่หนึ่งเรื่อง ไม่ว่าที่ไหนบนโลกใบนี้ต่างก็เล่าตรงกัน
ตำนานว่าด้วยเรื่อง ‘ความรักของชาวเงือกกับมนุษย์’
ไม่ใช่เงือกสาวกับชายหนุ่มและไม่ใช่เงือกหนุ่มกับหญิงสาว
แต่เป็น ‘เงือกหนุ่มกับชายหนุ่ม’ ต่างหาก
เงือกหนุ่ม ‘ควานลิน’ เป็นบุตรชายเพียงคนเดียว
ของผู้ปกครองอาณาจักรเงือกที่ถูกซ่อนเร้นอยู่ในวังวนภายใต้ท้องทะเลอันยิ่งใหญ่
ด้วยอุปนิสัยขี้สงสัย และช่างสังเกต เมื่ออายุครบ 16 ปีบริบูรณ์
เงือกหนุ่มแอบหนีออกจากบ้านเพื่อมาเที่ยวเล่นบนโลกมนุษย์
เมื่อความอยากรู้อยากเห็นมีมากเกินความระแวดระวัง
ทำให้ควานลินว่ายเข้าไปติดอยู่ในอวนของชาวประมงพร้อมๆกับปลาตัวเล็กตัวน้อย
จบแล้ว
ชีวิตของเงือกหนุ่มวัย 16 ปี คงจะจบลงเพียงเท่านี้
แต่ไม่ใช่..
เงือกหนุ่มได้รับความช่วยเหลือจากลูกเรือชาวประมง นามว่า ‘คังดงโฮ’
แม้มนุษย์ผู้นี้จะตกใจและช็อคเป็นสุดขีด
เมื่อดึงอ้วนขึ้นมาบนเรือแล้วเจอชาวเงือกติดอยู่ในอวน
‘คุณ ช่วยผมหน่อย’
น้ำตาคลออยู่ที่ดวงตาคู่สวยทำเอาชายหนุ่มอย่างดงโฮรีบเขาไปช่วยแกะอวนที่พันตัวเงือกหนุ่มออก
ใช่ เขาหลบซ่อนควานลินจากกัปตันเรือ
และใช่ เขาหลงใหลใบหน้าหวานของเงือกหนุ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ
เมื่อแอบหนีมาเที่ยวครั้งแรกได้สำเร็จ
ครั้งที่สองย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ
เงือกหนุ่มผู้นี้มักจะออกจากวังวนเพื่อมาหา
ลูกเรือชาวประมงผู้มีหน้าตาหล่อเหลา
‘ผมขึ้นมาหาคุณบ่อยๆได้ไหม’
ช้อนตามองชายหนุ่มอย่างออดอ้อน เพราะรู้ดีว่ายังไงคังดงโฮก็อนุญาต
‘มาได้ก็มาสิ’
ผู้ปกครองชาวเงือกไม่รู้เลยว่าบุตรชายเพียงคนเดียว
ที่ตนคิดจะฝากให้ปกครองชาวเงือกต่อจากตน
กำลัง ‘ตกหลุมรักมนุษย์’ อย่างห้ามไม่ได้
นานวันเข้าก็เกิดเป็นความรัก
เรื่องรู้ถึงหูผู้ปกครอง แต่ก็ห้ามอะไรบุตรชายไม่ได้แล้ว
เพราะรู้ดีว่าหากบุตรชายตัดสินใจทำอะไรไป มันก็ยากเกินจะห้าม
‘ผมขอสละหางเพื่อแลกกับขา’
‘เจ้าแน่ใจแล้วรึ’
‘แน่ใจ ได้โปรด’
‘พ่อจะให้อย่างที่เจ้าต้องการ’
ควานลินขอสละหางเพื่อแลกกับการมีสองขา
เพื่อต้องการเดินดินอยู่อย่างมนุษย์ธรรมดาทั่วไป
เคียงข้างคนที่ตนเองรัก
การเรียนรู้การเป็นมนุษย์ไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ในเมื่อเจ้าตัวเลือกแล้วก็คงต้องอยู่กับสิ่งนี้
‘นี่ ทำไมมนุษย์ต้องจูบกันด้วย’
‘...’
‘ไม่เห็นเข้าใจเลย’
‘ฉันจะทำให้นายเข้าใจเอง’
แขนแข็งแรงดึงร่างบางของควานลินเข้ามาหาตัวเอง
ประทับจูบแผ่วเบาลงบนกลีบปากบาง
ค่อยๆเป็นๆไปเพราะกลัวคนตรงหน้าจะแตกตื่น
ไม่มีการรุกล้ำใด ๆ มีเพียงความอ่อนโยนที่คนตัวโตมอบให้
บทเรียนแรกของการเป็นมนุษย์ช่างหอมหวานเหลือเกิน
แม้จะไม่ได้เป็นชาวเงือกดังเดิม
แต่บิดาของเขาได้มอบสิ่งพิเศษให้แก่บุตรชายไว้
ควานลินสามารถกลับบ้านได้ปีละหนึ่งครั้ง
หนึ่งครั้งเพียงเท่านั้น แต่จะอยู่ได้นานเพียง 3 วันเท่านั้น
‘ไม่อยากให้ห่างกันเลย’
‘เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว แค่ 3 วันเอง’
ร่างบางพูดขณะที่เกยคางไว้กับโขดหินอันใหญ่
‘สัญญานะว่าจะกลับมา’
‘สัญญา’
‘รัก’
‘อื้อ รักเหมือนกัน’
สิ้นสุดคำพูด ควานลินก็หายลงไปในทะเล
หนึ่งปีมี 365 วัน มีเพียง 362 วันเท่านั้น
ที่จะได้อยู่กับร่างบาง
3 วันที่หายไป
เป็น 3 วันที่ทรมานเหลือเกิน
‘กลับมาแล้ว’
‘คิดถึง’
‘กอดแน่นจัง’
‘ก็คิดถึงมากๆ’
‘ทำไมมนุษย์ชอบกอด ชอบสัมผัส’
‘เดี๋ยวจะสอนให้ทั้งคืนเลย’
พูดเพียงเท่านั้นก่อนจะสอนบทเรียนบทที่ 2
ให้กับอดีตเงือกหนุ่มผู้เป็นคนรักของเขา
ซ้ำแล้วซ้ำแล้วที่คนตัวโตกอดรัดร่างบาง
มอบสัมผัสอ่อนโยนให้จนควานลินเคลิ้มไปไกล
และอดีตเงือกหนุ่มผู้สืบทอดตำแหน่งผู้ปกครองชาวเงือก
ก็ได้เรียนรู้บทเรียนของการเป็นมนุษย์บทที่ 2 อย่างเข้าใจถ่องแท้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in