เล่าเมื่อคืนก่อน
เมื่อคืนนี้ตอนนั่งรถเมล์กลับบ้าน เกิดมีอาการวูบคอหักระหว่างนั่งรถ คือแบบคอหักแบบง่วงมากๆ นี่ก็งง คือมึงเหนื่อยอะไรขนาดนั้น งานที่ทำนี่ก็นั่งอยู่กับที่ทั้งวัน แทบจะไม่ได้ใช้พลังงานพลังกายอะไรเลย คือเหมือนง่วงสะสม
จบ
เมื่อเช้าตื่นนอนสายนิดนึง คือตั้งปลุกไว้ตอนเจ็ดโมง แต่ก็ตื่นมาปิดนะ >_< อาบน้ำแต่งตัว กินข้าวกับแม่ แล้วก็ออกจากบ้าน
ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองเป็นอภิสิทธิ์ชน คือขึ้นรถเมล์แล้วไม่ต้องเสียเงิน คือโชว์ตั๋วสัปดาห์ให้กระปี๋ดู แต่มีประเด็นสงสัยอย่างหนึ่งคือถ้าเราแอบเอาตั๋วเก่ามาใช้ กระปี๋จะรู้มั้ย เพราะบางคนก็ไม่สนใจที่จะมองด้วยซ้ำ นี่คิดว่าต้องมีคนแอบทำเนียนบ้างแน่นอน
เมื่อคืนโดนกระเป๋ารถเมล์ใส่อารมณ์ เซ็งว่ะ คือรถเมล์ที่รออยู่เนี่ย ดูในเว็บมันกำลังจะถึงป้าย ทีนี้ก็เลยมองไปที่ถนนเห็นรถเมล์คันนึงกำลังปุเรงๆ มา มองเลขบนหัวรถไม่ชัดเพราะหลอดไฟคุณมึงหลัวเหลือเกิน นี่ก็เห็นเลขคล้ายๆ กัน เลยโบกเสียเต็มรัก ปรากฏพอมาถึง ไม่ใช่จ้า เป็นสายอื่นเฉย กูก็โบกไปแล้วนี่ ดีที่มีน้องอีกคนในป้ายขึ้น ไอ้กระเป๋าตะโกนถามลงมาจากรถ “จะขึ้นรึเปล่า จะขึ้นรึเปล่า” นี่ก็ยืนเอ๋อแดก คือมึงจะหงุดหงิดอะไรกับกูหนักหนา กูขอโทษ
พอรถที่จะขึ้นมาก็นั่งคิดว่า ขสมก. เนี่ยมันคืองานบริการประชาชนในการขนส่งใช่ปะ คือสุดท้ายมันก็คืองานบริการ แต่ทำงานคนที่ทำงานนี่บางส่วนถึงดูเหมือนเจ้านายที่พร้อมจะแดกหัวเราเลยวะ คือประชาชน (ลูกค้า) ต้องง้อ ต้องคอยรองรับอารมณ์คนพวกนี้ ทำไมประเทศเราถึงมีระบบคิดกับงานบริการจากรัฐวิสาหกิจแบบนี้วะ
หรือเพราะมันเป็นรัฐวิสาหกิจ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ใช่เอกชนที่มองลูกค้าคือพระเจ้า ส่วนรัฐวิสาหกิจคือเจ้าคนนายคน แบบนี้ป่าว?
ooooooooooooooo
วันนี้มีหนังใหม่เข้าที่โรง อยากดูอยู่ เป็นหนังฮ่องกง ประเด็นเครียดเรื่องจีนที่จะแดกฮ่องกง เป็นหนังสั้น ๕ เรื่อง เดี๋ยวจะประจบเจ้านายขา ขอหนูเข้าไปดูหน่อยสิคะ แพล่บๆ
ส่วนอีกเรื่องเป็นหนังญี่ปุ่น โมเอะไม่เคยตาย เพราะมีลูกแก้วดราก้อนบอล เรื่องนี้เฉยๆ แต่ก็จะเข้าไปดู มีไรปะ
ตอนเช้านั่งพิมพ์อะไรนู่นนี่อยู่ดีๆ ก็มีวัตถุเคลื่อนไหวบริเวณเท้า เป็นน้องปีเตอร์นี่เอง ตัวใหญ่มาก คือแบบนี่ก็กลัวลูกค้าเห็นแล้วจะด่าว่าโรงหนังไม่ไฮยีน เลยสังเกตว่าน้องจะหยุดเดินมั้ย พอน้องหยุดปุ๊บก็เอาถังขยะที่แสนเบาหวิววางทับแล้วก็รีบไปเอาไม้กวาดกับที่ตักผง พอมาถึงจุดก็เปิดถังขยะออก น้องยังอยู่ที่เดิมจ้า แต่น้องวิ่งหนีทันทีจ้า นี่คือความ negative ของการไม่ปาณาติบาต สุดท้ายได้แต่ภาวนาให้น้องอย่าออกมาให้ลูกค้าเห็น ไม่งั้นเป็นเรื่อง
เจอพี่คนฉายหนัง พี่บอกว่าทีหลังอย่าเอาถังขยะทับ เอาตีนทับ โห่ยยยพี่จ๋า โหดจัง
วันนี้น้องที่ทำงานด้วยกันมาคุมากกว่าปกติ คือมันนิ่งมากขึ้นกว่าเดิม น่ากลัวมาก แต่โนสนโนแคร์อะ ไม่คุยก็ไม่คุย คือนี่แค่สังเกตการณ์เท่านั้นแหละ ไม่ตอแยเซ้าซี้ถามแน่นอนว่าเป็นอะไร คือนี่คิดว่าคงเมนส์มาอะ
ลองถามหัวหน้า ก็บอกไปตามตรงว่าไม่รู้ไปเหยียบตาปลาน้องเค้าอะไรรึเปล่า เพราะวันแรกที่มาทำงานก็ดีๆ อยู่ แต่หลังจากนั้นประหนึ่งเป็นคนละคน หัวหน้าบอกว่าน้องเขาคงไม่สนิทใจที่จะคุยกับผู้ชายมั้ง
คือถ้าน้องรู้ว่าพี่เป็นตุ๊ด น้องจะร่าเริงเหรออออ ไหงงั้นอะ?
คิดไปเปลืองเวลา นั่งฉีกตั๋วเล่นสนุกกว่าแฮ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in