เคยสงสัยไหมว่า มนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง กลายเป็นอาชญากรชื่อดังของโลกไปได้ยังไง

อะไรทำให้คนเรานึกอยากหยิบอาวุธขึ้นมาทำร้ายคนอื่น หรือวางแผนดับชีวิตคนอื่นเป็นว่าเล่น เรื่องแบบนี้มีที่มาที่ไปไหม มันเริ่มจากอะไรกันแน่

จอห์น อี. ดักลาส แห่งหน่วยสนับสนุนการสืบสวน FBI จะพาเราไปรู้จักอาชญากรให้มากขึ้น ผ่านหนังสือเล่มนี้

นานมาแล้ว สมัยที่ได้ดู Hannibal TV Series (นำแสดงโดย Mads Mikkelsen) เราสงสัยมากว่าจะมีคนจริง ๆ ที่เป็นเหมือนวิล เกรแฮม ไหม คนที่พอเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุแล้วเหมือนเห็นภาพการก่อเหตุ เหมือนเข้าไปอยู่ในจิตใจของตัวละคร หรือพอได้เห็นเกม Detroit: Becomes Human ที่เราสามารถย้อนกลับดูเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุได้จากร่องรอยหลักฐานต่าง ๆ ในสถานที่เกิดเหตุได้ เรื่องแบบนั้นจะมีจริงไหม -- คนที่เข้าใกล้ความจริงข้อนี้ที่สุดก็คงเป็นคุณจอห์น อี. ดักลาส นี่แหละ

ดักลาสทำงานเป็นแผนกสนับสนุนหน่วยสืบสวนของ FBI "การสนับสนุน" คือหน้าที่หลักของพวกเขา แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ สิ่งที่ดักลาสทำคือ ศึกษาพฤติกรรมของอาชญากร เขากล่าวไว้ว่า การที่เราจะรู้จักอาชญากรได้ ก็ต้องศึกษาจากผลงานของพวกเขา ซึ่งก็คือคดีมากมายที่พวกเขาได้ก่อไว้ ดักลาสได้เข้าไปสัมภาษณ์อาชญากรชื่อดังของหลายคดีที่ต่างรอคอยโทษประหารชีวิตด้วยอาชญากรรมร้ายแรงที่พวกเขาก่อไว้ และรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ มาผ่านการวิเคราะห์และการสังเกตการณ์ จนออกมาเป็น "บทวิเคราะห์พฤติกรรม" ที่ช่วยจำกัดขอบเขตของผู้ก่อเหตุให้กับตำรวจได้

"บทวิเคราะห์พฤติกรรม" ของดักลาส ระบุย้อนไปได้ถึงวัยเด็กของอาชญากร ซึ่งนั่นทำให้เขาเห็นว่า อาชญากรนั้น แท้จริงแล้วถูกสร้างขึ้นจากความบิดเบี้ยวของสภาพแวดล้อมที่ตัวบุคคลอยู่ เช่น คนที่เติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นและไม่ค่อยมีปัญหาครอบครัว ย่อมไม่มีทางก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้นมาได้ แต่เด็กชายที่เติบโตมาโดยถูกคนในบ้านทุบตี ถูกสังคมรอบข้างดูถูกเหยียดหยาม จนเริ่มมีพฤติกรรมแปลก ๆ มีแนวโน้มสูงมากที่พวกเขาจะเติบโตมาเป็นอาชญากร

ดักลาสศึกษาเรื่องพวกนี้ตลอดระยะเวลาการทำงานเป็น FBI ในหนังสือเขาได้เล่าเรื่องราวของหลากหลายคดี ที่อาจทำให้คุณต้องเบือนหน้าหนี (เพราะมันวิปริตไปมากจนคุณเริ่มกลัวมนุษย์ด้วยกันเอง) บอกเล่าความสำเร็จของการทำงานและความล้มเหลว ถึงอย่างนั้น งานของเขาก็เป็นพื้นฐานสำคัญให้กับการสืบสวนในยุคปัจจุบัน และยังมีการต่อยอดนำไปทำซีรีส์อีกหลายเรื่องด้วย

โดยสรุป หนังสือเล่มนี้ให้อะไรกับเรามากพอสมควร (เช่น ให้ข้อมูลการสืบสวน 555) ตอนแรกคิดว่าเป็น fiction เสียด้วยซ้ำ พอเปิดอ่านถึงรู้ว่า อ้าว มันคือ non-fiction หลายคดีสะเทือนใจ หลายคดีทำให้เราต้องย้อนมองคนรอบข้าง ทุกคนมีสิทธิ์เป็นเหยื่อ และบางครั้งเหตุผลของการถูกฆ่าก็ลึกลับซับซ้อนเกินกว่าที่เราจะเข้าใจ อย่างน้อยการอ่านเล่มนี้ก็ทำให้เรามีความหวังขึ้นมานิดหน่อยว่า ถ้าเราทำให้สังคมเราดีขึ้นได้ เราก็จะลดปริมาณอาชญากรลงได้

...ซึ่งเรื่องนั้นดันเป็นเรื่องที่ยากสุด...................

ป.ล. ชอบคดีที่ FBI โดนเมียลอบฆ่า 555555555 มันเศร้า แต่ตลก เราจะไม่ยอมตายฟรี ๆ เราจะไม่ยอมตายไปเฉย ๆ ต้องทำให้เขารู้ว่าเราต่อสู้กับคนร้าย สรุปสถานที่เกิดเหตุพังหมด 555