Title : Street Love Songs
RPS (Dunkrik Cast)
Paring : Jack L. x Tom GC.
AU
Track 7. (end)
“เป็นเอามากนะเนี่ย”
เสียงทุ้มคุ้นหูเรียกสติเจ้าเด็กผมฟางให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว หลังจากเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างพลางยิ้มและหัวเราะคิกคักคนเดียวตลอดคาบเรียน ดูสติแตกจนอาจารย์ไม่กล้าตักเตือนได้แต่มองเป็นระยะ พยายามสอนไปให้จบๆจะได้ออกไปจากห้องเรียนที่มีนักศึกษาเป็นบ้านี่เสียที พอหมดเวลาก็ไม่มีทีท่าเยื้องยื้อ กลับกันอาจารย์ผู้อาวุโสโกยของใส่กระเป๋ายังไม่ทันบอกลาก็วิ่งแจ้นออกไปตามด้วยนักศึกษาเป็นโขยงที่มองเด็กหนุ่มผมบลอนด์กันทั้งคาบ ต่างหวาดกลัวว่าเจ้าตัวจะลุกขึ้นมาคุ้มคลั่งคว้าปากกาขึ้นมาไล่กะซวกไส้คนทั้งห้อง ตอนนี้จึงเหลือแค่เจ้าตัวกับเพื่อนสนิทที่นั่งกุมขมับทั้งชั่วโมงจนทุกคนออกไปนี่แหละถึงได้หันไปเตือนสติให้เด็กหนุ่มหันมายิ้มกว้างและเลิกคิ้วสูงให้
“อะไรเหรอ” เด็กหนุ่มทำหน้าซื่อตาใสหันไปรอบๆห้องก็พบแต่เก้าอี้ว่างๆกับกำแพงเลยหันกลับมามองเพื่อนตัวเอง “หมดคาบแล้วเหรอ งั้นปะไปกินข้าวกัน”
เพื่อนผมดำกลอกตาหมุนเป็นวงกลมสิบรอบก่อนตวัดกลับมามองเจ้าตัวดีเก็บของแล้วฮัมเพลงในลำคอสบายอารมณ์ไม่รู้สึกรู้สาเรื่องภายนอก คล้ายมีบางอย่างในสมองเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วถ้าให้เดาก็เป็นเรื่องของผู้ชายคนนั้นที่เพื่อนของเขาเล่าให้ฟังวันก่อน อาการของคนมีความรักที่เห็นทุกอย่างเป็นสีชมพู คิดแล้วเบะปาก
เพื่อนของเขาคงบ้าไปแล้วจริงๆ
แล้วไม่ใช่แค่ฟินน์ที่คิดแบบนั้น
“น้องฟินน์ครับ พี่ว่าเราควรทำอะไรซักอย่าง”
คนรักที่ถูกจับพลัดจับพลูมาร่วมชะตากรรมนั่งเฝ้าคนละเมอนั่งกินข้าวไปหัวเราะไปกำลังเกาะแขนบางทำสีหน้ากังวลจนเขาต้องถอนหายใจ ยื่นมือไปเคาะโต๊ะข้างถาดอาหารเรียกให้เพื่อนผมบลอนด์เงยหน้าขึ้นมาพร้อมดันแว่นให้ชิดใบหน้า ส่งเสียงหลงในลำคอแล้วเลิกคิ้วเป็นคำถาม
“หืม?”
“ทอมจะไม่บอกเราจริงๆเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น”
“เรื่องอะไรเหรอ”
“เรื่องอะไรก็ได้ที่ทำให้นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เป็นคนบ้าตลอดทั้งวันแบบนี้”
เจ้าตัวเม้มปากกลั้นยิ้มก้มหน้าเขี่ยอาหารในถาดไปมาและเงยหน้าขึ้น กัดริมฝีปากจนแดงช้ำถึงได้ยอมเปิดปาก
“ไม่มีอะไร”
เป็นคำโกหกที่ห่วยแตกที่สุดตั้งแต่เคยโดนหลอกมา คนได้ยินกลอกตาเหลือบมองคนรักที่ทำหน้าเป็นกบไม่ได้กินแมลงแล้วถอนหายใจ
“จะไม่เล่าจริงๆใช่ไหม”
ทอมส่ายหน้า
“ถ้าเล่าเดี๋ยวฟินน์หาว่าเราใจง่าย”
เท่านั้นก็ชัดเจนพอแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น มีแต่แฮร์รี่ที่ยังงงมองคนรักทีสลับกับเพื่อนแฟนที
“เข้าใจละ”
“เข้าใจอะไร” เจ้าตัวขึ้นเสียงตักมันบดเข้าปากพลางเฉไฉทำมองไปทางอื่น
“เข้าใจว่าทอมใจง่าย”
“ฟินน์!!”
คนที่ตอนแรกไม่เข้าใจร้องอ๋อขึ้นมาทันที กระพริบตาปริบๆมองคนอายุน้อยกว่าเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปเก็บถาดอาหารที่กินได้ไม่ถึงครึ่ง ก่อนหันมองด้านข้างของคนรัก ก้มหน้าลงซบหน้าผากบนบ่ากว้างแล้วดันไปมา พอคนที่เรียกร้องสนใจหันมาก็เงยหน้าขึ้นวางคางบนไหล่แล้วยิ้มเผล่ ตาเป็นประกายจนคนมองทนไม่ได้ต้องยกมือขึ้นมาผลักจนหน้าหงาย
“ฝันไปเถอะ”
ทิ้งไว้เท่านั้น ก่อนเดินตามเพื่อนสนิทไปปล่อยคนรักนั่งหงอยอยู่คนเดียวเป็นกบหลงทางตรงนั้น
“ไม่ได้ว่านะ แต่เป็นห่วงรู้รึเปล่า” เลือกจะเมินคนรักก้มมองเพื่อนท่ตัวเล็กกว่าพร้อมขมวดคิ้ว คนฟังพยักหน้ารับ ทำท่าทางเป็นแมวไม่ได้กินขนมผิดกับก่อนหน้าที่ระริกระรี้จนเขาต้องกุมขมับ ยกมือขึ้นวางบนกลุ่มฟางแล้วโครงศีรษะเพื่อนสนิทไปมา “ดูแลตัวเองดีๆ อย่าไว้ใจใครง่ายๆ”
“จะเป็นพ่อเราอีกคนรึไง”
“ถ้าเราเป็นพ่อทอมเราคงไม่ปล่อยให้ทอมไปแรดข้างนอกหรอกถ้ารู้แบบนั้นอะ”
“ฟินน์!”
“เออไม่ว่าแล้ว”
ขยี้กลุ่มผมให้ยุ่งไม่เป็นทรงไปหนึ่งทีก่อนโดนฝ่ามือพิฆาตฟาดลงบนต้นแขนอย่างแรงเป็นการแก้แค้น คนโดนร้องโอดโอยเรียกให้คนรักต้องวิ่งมาดูด้วยสีหน้าเป็นห่วงเวอร์วังจนคนกลางแบบทอมกลอกตามองบน เบะปากมองคู่รักกระหนุงกระหนิงพลางคิดในใจว่าเขามาทำอะไรตรงนี้ ไม่รู้ตัวว่าถูกมองด้วยสายตาอิจฉาจากคนที่กำลังหยอกล้อกับคนรัก
ถึงเวลาต้องกลับบ้าน เพื่อนสนิทสองคนแยกย้ายโบกมือให้กันหน้ามหาลัยเช่นเดิมก่อนเดินกันไปคนละทาง
ทอมหันหลังให้คู่รัก เดินไปตามทางยกสมาร์ทโฟนเครื่องบางขึ้นมาเชื่อมต่อหูฟังก่อนเสียบเข้าไปในหู เร่งเสียงจนสุดก่อนเลื่อนนิ้วไปกดเปิดเพลงในรายการโปรดที่บันทึกไว้เมื่อคืน ฟังซ้ำๆวนเวียนอยู่ไม่กี่เพลงที่ชอบ ปล่อยให้เสียงเพลงบรรยายบรรยากาศรอบข้างด้วยตัวของมัน ขาเล็กก้าวไปตามทาง สายตาสอดส่องผู้คนที่เดินสวนไปมา ฮึมฮัมตามท่วงทำนองคำร้องที่ได้ยินจนจำเนื้อได้แล้วยิ้มภูมิใจกับตัว
กระทั่งเขาพาตัวเองมาหยุดอยู่ที่ที่ไม่กี่วันก่อนมันเป็นเพียงทางผ่านแต่ตอนนี้มันกลายกิจวัตรประจำวันใหม่ที่ต้องหยิบคู่หูขึ้นมาบรรเลงตรงนี้ นั่งบนม้านั่ง โยกตัวไปมากับท่วงทำนองที่เล่นอย่างเลื่อนลอยรอคนที่มีอิทธิพลต่อใจภายในไม่กี่วันมานี้
“เฮ้” ส่งเสียงเอ่ยทักคนเด็กกว่า ชักชวนให้ใบหน้าสวยหันมายิ้มให้คล้ายดวงอาทิตย์ที่โคจรกลับมาส่องสว่างนำทางในคืนที่ไร้เงาจันทร์ แจ็คนิ่งค้างทุกครั้งที่ได้เห็นตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สัมผัสไอร้อนจากดวงอาทิตย์ตัวเล็กที่เคลื่อนเข้ามาในชีวิต
ขายาวพาร่างสูงเดินเข้าไปนั่งพื้นที่ว่างข้างๆคนเด็กกว่าที่พึ่งขยับให้ เสียงกีตาร์เริ่มบรรเลงขึ้นอีกครั้ง เขาโยกตัวไปตามแรงที่อีกคนดันมา หัวเราะไปกับเนื้อร้องที่เด็กหนุ่มร้องเล่าเรื่องที่มหาลัยอีกทั้งเสียงที่แสร้งกดต่ำคล้ายพูดอยู่ในท่อ ก่อนนิ้วเรียวจะเคลื่อนเปลี่ยนคอร์ส บังคับจังหวะให้เชื่องช้าก้องกังวานบนถนนที่เงียบเหงาผู้คนบางตานี้
เพลงรักถูกแต่งขึ้นมาโดยไม่มีมูลเหตุที่มา จังหวะเลื่อนลอยทำนองแสนหวานเคล้าเสียงร้องทุ้มต่ำขับร้องถ้อยคำชวนให้หันมอง ก็แค่เนื้อเพลงน้ำเน่าที่มีให้ได้ยินอยู่ทั่วไปทว่าเป็นความทรงจำกลับไม่ซ้อนทับกับความทรงจำไหน
ใบหน้าด้านข้างของคนเด็กกว่ากลายเป็นจุดรวมสายตาของเขา มองจากมุมนี้จะเห็นว่าแก้มอีกคนตอบขนาดไหนแม้ตอนนี้จะมีเนื้อหนังกว่าครั้งแรกที่ได้เห็นแต่ก็ยังดูผอมและเห็นโครงหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ชัดจนเขาขมวดคิ้ว พลางคิดว่าพรุ่งนี้จะซื้ออาหารมาขุนคนตัวเล็กให้อ้วนขึ้นสักนิดแล้วยิ้มให้คนที่ครอบครองความคิดที่หันมายิ้มกว้างให้
เขาสองคนไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั้น พบและจาก บางครั้งความสัมพันธ์ก็มากกว่านั้นนิดหน่อย ร่วมเตียง ร่วมรัก ล่วงเลยจนเวลานับเป็นวัน เป็นอาทิตย์ เป็นเดือน จวบจนครบปี
เส้นทางสายเดิมที่แจ็คไม่คิดกลับไปเดิน บัดนี้พื้นรองเท้าสัมผัสคอนกรีตถนนสายนั้น ตรงหน้านักดนตรีเปิดหมวกคนหนึ่งที่ทำให้ถนนสายนี้ของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล
“พี่แจ็ค”
พวกเขามาอยู่ในจุดที่เรียกชื่อกันได้อย่างสนิทสนมโดยไม่นึกเกรง รอยยิ้มของเด็กหนุ่มยังคงส่องสว่างไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่รู้จักกัน เช่นเดียวกับความรู้สึกและความสัมพันธ์ พวกเขาไม่เคยคิดถึงชื่อเรียกความสัมพันธ์ ก็แค่แจ็คและทอมที่อยู่ด้วยกันด้วยความรู้สึกแบบเดิมที่ค้นพบมาตั้งแต่วันที่สองของการเริ่มต้น
เขายิ้มและหยุดนิ่งมองนักดนตรีตัวเล็กยิ้มกว้างก่อนเสียงเพลงจะเริ่ม เหมือนย้อนกลับไปวันแรกที่ได้พบ ทอมยิ้มให้เขาที่เศร้าหมองเพราะคนรักเก่าพร้อมแต่งเพลงให้ ทว่าครานี้ต่างออกไป เขาไม่ได้เป็นแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว และเพลงนี้ไม่ได้ให้อะไรเขานอกจากช่วงชิงหัวใจของเขาไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า คล้ายเป็นการแลกเปลี่ยนที่เขาได้รับจากเด็กหนุ่ม
สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ
เพลงจบไร้เสียงปรบมือ หนุ่มน้อยหน้าเสียจ้องมองคนตัวสูงที่เดินเข้ามาใกล้ ใบหน้ากลมไร้ร่องรอยตอบผอมเงยขึ้น สบตาสีฟ้าคู่สวยที่สะกดไว้ใต้อำนาจตั้งแต่วินาทีแรก ก่อนหลับตารับสัมผัสอุ่นที่ริมฝีปาก เสียงหัวใจดังขึ้นแทนที่ ไม่เคยชินและไม่มีวันชิน ละเลียดลิ้มชิมรสหวานของน้ำอัดลมที่คั่งค้างก่อนผละออก ลืมตาและยิ้มให้คนตรงหน้า เอียงใบหน้าฝังลงอกกว้างฟังเสียงหัวใจของอีกคนที่บ่งบอกความรู้สึกเดียวกันก่อนเอ่ยประโยคที่ครั้งหนึ่งเป็นของอีกคนที่มอบให้ตัวเขา
“เพราะมากครับ ขอบคุณนะ”
Talk : จบแล้ววววววววววววววววว จบแบบงงๆ ก็เขารักกันแล้วแย้วอะ จะยื้อต่อไปตะไม เอาเป็นว่าเขารักกันแค่นั้นนนนนนนนนน อิอิ
ยังไงก็สามารถติชมได้ที่ #lovesongsJLTGC เหมือนเดิมนะคะ แน่นอน จะด่าให้ด่าที่ ทวิตเตอร์ @PPZKB ควัฟฟ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่าน และ ให้กำลังใจกันมาตลอดนะคะ แล้วเจอกันใหม่เมื่อกาวล็อตใหม่มาถึง(?)
-รักส์-
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in