Title : Street Love Songs
RPS (Dunkrik Cast)
Paring : Jack L. x Tom GC.
AU
“นี่คุณ ขอจีบได้ปะ”
ผ่านเข้าวันที่สาม ทอมตัดสินใจมาดักรอคุณน้ำอัดลมที่หน้าคอนโคแล้วโพล่งประโยคที่คิดเอาไว้ทั้งคืนใส่หน้าเขาคนนั้นทันที
อีกคนเบิกตากว้าง ม่านตาขยายจนเห็นสีชัดยิ่งกว่าเดิม จากที่เห็นง่วงๆดูตื่นเต็มตา
“ล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย”
แจ็คพึมพำกับตัวเองแต่คนตัวเล็กจะหูไวกว่าที่คิด “ไม่ได้ล้อเล่นนะ”
“ผมพูดจริง จีบได้ไหม”
ท่าทางคนตัวเล็กจะจริงจังไม่น้อย ดูจากหน้าตาที่ขึงขังและมือที่กระชับสายกระเป๋าแน่นจนนิ้วปูดแดงแล้ว ไม่มีท่าทีล้อเล่นเลยแม้แต่นิดเดียว แจ็คที่พึ่งเคยโดนรุกขนาดนี้ครั้งแรกก็ไปไม่เป็น ปกติมีแต่เขาที่รุกใส่คนอื่น ได้แต่ทำหน้าเหลอหลา หันซ้ายทีขวาทีเหมือนกำลังหาขอความช่วยเหลือก่อนจะก้มมองคนตัวเล็กกว่าตรงหน้า หัวใจเต้นตุบๆไม่เป็นจังหวะส่งสัญญาณอันตรายทำให้เขาก้าวถอยหลัง แต่ทอมก็ก้าวตามมาประชิดทันที ยิ่งก้าวหนียิ่งตาม แจ็คที่เห็นว่ายังไงก็หนีไม่พ้นหยุดก้าวไปไหนเป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กหนุ่มก้าวเข้ามาชนอกเขาอย่างจัง
“โอ๊ย นี่คุณ!”
“ขอโทษๆ”
“แค่ขอจีบปะ ไม่ได้ขอคบจะหนีทำไมวะ”
ได้แต่ลูบดั้งตัวเองปอยๆพลางบ่นคนตัวสูงกว่าไป คนถูกขอจีบได้แต่มองจมูกแดงหน้าแดงคล้ายคนเมามองคนใต้คางที่อยู่ใกล้จนถ้าหายใจแรงก็จะได้ยินอย่างระมัดระวัง กลืนน้ำลายดังอึกพาลทำให้คนได้ยินเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว ดูน่ารักไม่น้อยหากอีกคนไม่เอาหน้ามาแนบอกของเขาเสียก่อน
“โห ใจเต้นแรงขนาดนี้..” แล้วก็เงยหน้าขึ้นยิ้มมุมปาก แววตาใต้กรอบแว่นดูเจ้าเล่ห์จนเผลอกลัว “...ไม่ต้องจีบแล้วมั้ง”
“ทอม ผมจะไปทำงาน”
“เขินเหรอคุณ”
เป็นคราวของแจ็คบ้าง เขาเลิกคิ้วยกยิ้มแล้วหรี่ตาลง ทำเอาอีกคนหุบยิ้มก้าวถอยหลังมาสองจังหวะ แน่นอนแจ็คไม่ทิ้งให้ระยะทางมากขนาดนั้น เขาก้าวใกล้โน้มหน้าเข้าหาจนอีกคนตัวเกร็ง ปลายจมูกโด่งของเขาแทบติดกับปลายจมูกรั้นอีกคน พอยิ่งใกล้แบบนี้แจ็คสัมผัสได้ว่าหัวใจตัวเองเต้นแรงแค่ไหน แต่ก็ต้องทำใจแข็งแกล้งคนตัวเล็กต่อ
“โห หน้าแดงขนาดนี้...” ใบหน้าขาวมีรอยแดงขึ้นมาทันทีที่เขาเอ่ยแซ็ว แจ็คหัวเราะในลำคอน้อยๆก่อนเคลื่อนใบหน้าผ่าน แก้มแนบชิดและปากจรดติ่งหูที่สวมห่วงสีเงิน กระซิบแผ่วเบา ทิ้งระเบิดให้คนเด็กกว่ายืนนิ่งก่อนจะเดินจากไปด้วยหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ
“ถ้ากล้าจีบติดจะให้จูบเลย”
.
.
.
“บางทีเราก็สงสัยนะว่าทอมจะลำบากลากเรามามหาลัยตั้งแต่เช้าทำไมทั้งที่ไม่มีเรียน”
“นั่นสิ แล้วพี่ก็ต้องมาด้วยเลย”
พูดเออออกันเสร็จคู่รักกบแมวก็พากันหาวหวอดก่อนจะเอียงหัวพิงกันไม่เกรงใจคนไร้คู่ที่นั่งฟุบโต๊ะหินอ่อนที่นั่งตรงข้ามกันเลยสักนิด
“ฟินน์เราว่าเราแย่แล้ว” เจ้าผมทองเงยหน้าขึ้นมาในที่สุดแต่ก็ยังไม่ทิ้งโต๊ะหินอ่อนไปไหน เอาคางเกยแล้วทำปากยื่นปากยาวหรี่ตามองรุ่นพี่ที่หลับคาบ่ากว้างของเพื่อนสนิทแล้วถอนหายใจก่อนเหลือบตามามองเจ้าของบ่านั้นที่นั่งยิ้มกรุ้มกริ่มมองเขาอยู่
“แย่ยังไง”
“เราขอเขาจีบแล้ว”
“เรารู้แล้ว”
“แล้วเขาบอกว่าถ้าจีบติดจะให้เราจูบ”
“อันนี้ทอมก็บอกเราแล้ว”
“ฮื่อออ”
เจ้าตัวดียกมือขึ้นมารองใบหน้าตัวเองไม่ให้สัมผัสกับเนื้อโต๊ะ แต่ก็ปิดความเขินอายไม่มิดในเมื่อใบหูยังแดงแปร๊ด คนมองได้แต่กรอกตา นี่มันรอบที่สามแล้วนะ แต่ก็ไม่แปลกใจเพราะถ้าหากเป็นเขาแล้วโดนแฮร์รี่พูดใส่แบบนั้นคงสภาพไม่ต่างกัน
“เราอยากจูบเขาอะ”
แล้วอยู่ๆก็พูดขึ้นมา เงยหน้าเอาคางเกยโต๊ะหินอ่อน ทำเอาเพื่อนสนิทต้องเบิกตาโตพาลทำให้คนข้างๆลุกพรวดขึ้นมาตกใจด้วย
“น้องทอมว่าไงนะครับ”
“ทอมบอกว่าอยากจูบเขาคนนั้นอะ”
คู่รักมองหน้ากันก่อนจะพาหันมามองต้นเรื่องที่พร้อมจะระเบิดหัวตัวเองทุกเมื่อ ทอมในตอนนี้หน้าแดงยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศเสียอีก พูดก็พูดเถอะ ไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย
“เราว่าทอมแย่แล้วจริงๆแหละ”
.
.
.
เมื่อไม่มีอะไรทำทอมก็ยอมปล่อยให้คู่รักสองคนนั้นกลับไป แล้วเขาก็นั่งกร่อยอยู่คนเดียว จริงๆฟินน์บอกแล้วแหละว่าอยู่ด้วยได้แต่เขาไม่อยากรบกวนเวลาของทั้งคู่ไปมากกว่านี้แล้ว ที่ให้มานั่งฟังเพ้อเป็นชั่วโมงก็มากเกินพอ ขืนให้อยู่ต่อได้เห็นเพื่อนตัวเองกับแฟนพากันฟุบหลับตรงหน้าแน่ๆ
ทอมโบกมือลาเพื่อนที่เหลียวหน้าเหลียวหลังมัวแต่ห่วงเขาที่นั่งอยู่ที่เดิม เขายิ้มและพยักเพยิกให้เพื่อนวางใจ คนเป็นเพื่อนก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วหันหน้าเดินไปตามทางในที่สุด ทอมมองตามจนเห็นภาพแผ่นหลังของฟินน์หดลงเหลือเพียงนิ้วก็ละสายตามามองกีตาร์ข้างตัว ยกมันขึ้นมาวางบนโต๊ะ ใช้มือข้างไล้ไปตามเส้นก่อนจะดึงเส้นที่เล็กที่สุดเบาๆให้พอได้ยินเสียงใสก้องอยู่ในตัวมัน ยกมืออีกข้างขึ้นมาเท้าคางและทำแบบนั้นไปเรื่อยๆจนครบทุกเส้นก่อนจะทำวนซ้ำอีกครั้ง
ทอมไม่เคยรู้ว่าเขาทนความน่าเบื่อได้นานขนาดไหนจนกระทั่งเขารู้ตัวว่านั่งจุ้มปุ๊กอยู่ท่าเดิมในมหาลัยทั้งวันโดยไม่ขยับไปไหน เขาอาจจะทนได้นานกว่านี้หากไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ายุงกำลังรุมตอมเขาเหมือนจะหอบพาเขากลับที่นอนของมันตุนเป็นอาหารสำหรับครอบครัวใหญ่ซักพันหมื่นตัวกินได้ทั้งปี เขาเชื่อเลยว่าถ้าไม่มีพวกมันเขาต้องนั่งเหม่อไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าแน่ๆ
“เวร”
จะเงื้อมือตบเจ้าตัวลายตัวที่ร้อยตาก็เหลือบมองนาฬิกาข้อมือพบว่าเวลาล่วงเลยจนเขาคิดว่าไม่ทันแน่ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเร่งรีบคว้ากีตาร์เก็บเข้าที่ของมันก่อนลุกขึ้นสะพายมันออกวิ่งไปตามทางที่คุ้นเคย ภาวนาในใจให้คนที่เขาอยากพบยังไม่กลับ หรือ ยืนรอเขาเหมือนที่เขาเคยทำ
พอมาถึงใบหน้าได้รูปก็หันไปมามองรอบๆจนผมที่เริ่มยาวสะบัดละกรอบหน้าก็ไม่พบคนคนนั้น ทอมถอนหายใจ ก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือก็ขมวดคิ้วมุ่น เวลานี้ เวลาที่เขาตั้งไว้เป็นเวลาที่ชายคนนั้นกลับมา
ใครจะไปกลับตรงเวลาเป๊ะๆกันล่ะ
.
.
.
ถึงจะคิดแบบนั้นก็เถอะ
แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นเงาหัวของคนที่รอเลยแม้แต่นิด เกากีตาร์ไปมาจนนิ้วเจ็บก็ไม่ช่วย ได้แต่ถอนหายใจมองตึกสูง มองไฟแต่ละดวงบนอาคารที่ยังสว่างแล้วเฝ้าคิดว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นคุณน้ำอัดลมคนนั้นแน่ๆ คิดแล้วถอนหายใจอีกครั้งก้มมองนิ้วที่แดงคล้ายห้อเลือดก็เบ้หน้า พึ่งรู้สึกว่าแสบก็ตอนที่มองนี่แหละ
ทอมค่อยๆขยับวางกีตาร์ลงบนม้านั่งข้างตัว ใช้มืออีกข้างประคองมือข้างที่เจ็บขึ้นมาเป่า ถึงรู้ว่าไม่ช่วยแต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เป่าไปพลางคิดถึงอีกคนไปพลาง สงสัยต้องถอดใจกลับบ้านไปโดยไม่ได้เจอกันแล้ว คิดในแง่ดีอย่างน้อยตอนเช้าพวกเขาก็ได้เจอละกัน คิดเช่นนั้นก็ปลงได้ พยักหน้าให้กับความคิดตัวเองเสร็จก็เก็บเจ้าคู่หูใส่กระเป๋า คว้ามาสะพายหลังพร้อมเดินกลับบ้าน
แต่..ทุกทีสิน่า
“เฮ้ย ทำไมยังไม่กลับบ้าน”
ให้ตายสิ ทำไมชอบทำให้รู้สึกแบบนี้อยู่เรื่อย
รู้สึกว่าเหมือนได้รับของขวัญ
.
.
.
วันนี้ทั้งวันเป็นวันที่วุ่นวายที่สุด อาจจะเป็นเพราะโปรเจ็คของเขาที่เสนอในห้องประชุมเมื่อวานได้รับการอนุมัติทำให้ทุกอย่างดูไม่เข้าที่เข้าทางไปหน่อย งานใหม่เข้ามาทั้งที่งานเก่าในหน้าที่เดิมก็ยังไม่เสร็จ จะโทษคนอื่นก็ไม่ได้ในเมื่อเขาดันทุรังเอง แต่มันก็สนุกดี
ทำงานเพลินจนลืมเวลา กว่าจะเคลียร์เอกสารเก่าหมดพระจันทร์ก็โผล่มาทำหน้าที่อยู่ท่ามกลางหมู่ดาวเสียแล้ว ทำให้แจ็คต้องหอบเอกสารกลับไปบ้าน แต่ระหว่างทางก็เจอเรื่องเยอะแยะไปหมด ทั้งรถชนกัน แมววิ่งตัดหน้า คนเดินชน ไหนจะแฟนเก่าที่พึ่งเลิกนั่นอีก
“อ้าว แจ็ค เป็นไงบ้าง”
ชายหนุ่มใบหน้าอ่อนกว่าวัยตรงหน้าหันมาแล้วเอ่ยทักทันทีที่เห็นว่าคนที่เข้าไปสะกิดขอทางเดินเป็นเขา เจ้าของชื่อแทบจะยกมือขึ้นมาทึ้งตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดติดอยู่ที่เอกสารเต็มไม้เต็มมือ ได้แต่ยิ้มแหยๆให้คนรักเก่า เหลือบมองเด็กหนุ่มอีกคนที่เดินมาสมทบ โอบไหล่กว้างไว้แนบชิด ไม่มีแววเยาะเย้ยแต่แอบหมั่นไส้เล็กๆจนปากกระตุก ยอมรับว่าแอบรู้สึกหวงอยู่แต่ก็น้อย น้อยมากพอห้ามไม่เข้าไปตั้นหน้าขาวๆของไอเด็กนั่นได้
“เราสบายดี นายล่ะ”
ถามไปตามมารยาทเพราะเจ้าของตัวจริงเริ่มไม่พอใจ ทั้งที่เขาไม่คิดจะกลับไปสานต่อ ได้แต่กระตุกยิ้มใส่ไอเด็กเวรนั่น แย่งเขาไปแล้วเสือกกลัวโดนแย่งคืน ทำไมมันถึงไม่รู้ว่าอนายรินรักมันมากกว่าอะไรบนโลก คิดแล้วได้แต่ส่ายหน้า โบกมือลาคนรักเก่า เผลอคิดว่าตัวเองทำใจได้ง่ายไปหรือเปล่า คิดไปคิดมา สองวันคงเป็นเวลาที่เหมาะแล้ว
แจ็คว่าวันนี้คงจบแค่นี้ ถึงคอนโดเขาก็ขึ้นห้องอาบน้ำนอนปกติ แต่ก็ดันมาเจอคนที่วันนี้ทั้งวันไม่มีเวลาคิดถึงเลยตั้งแต่จากกัน
เด็กคนเดิมในเสื้อไหมพรมสีน้ำเงินตัวเดิมกำลังแบกกีตาร์คู่ใจเดินไปอีกทาง เขาควรจะปล่อยให้อีกคนกลับบ้านไปแต่ปากเจ้ากรรมกลับทำตามหัวใจมากกว่าสมองรั้งร่างเล็กให้หันมายิ้มกว้างให้เขา
“กำลังจะกลับพอดีเลยครับ”
เขาเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากพลางใช้ความคิด
“ดึกแล้ว”
เม้มปากก่อนสบตาอีกคู่ที่มองเขาอย่างจดจ่อ
“กลับคนเดียวมันอันตราย มานอนกับผมแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับไหม”
คำตอบมีแบบเดียวเท่านั้นแหละ
“รบกวนหน่อยนะครับ”
Talk : ตอนที่สี่แล้ววววววววววว ตื่นเต้นๆๆ สามวันแล้วที่เขาได้พบกัน งื้อออ เป็นฟิคที่ดำเนินยืดมากเรายอมรับ แต่บั่บบ อีกนิดน่า มันยังสคริปไม่ได้ อีกนิดๆ ดูกันยาวๆ ตอนนี้น้องทอมรู้ใจตัวเองละ เหลืออีพี่ ก็ต้องรอดูไปพร้อมกันนะคะ
เหมือนเดิม ติชมได้ที่ #lovesongsJLTGC ไม่อนุญาตให้ด่า ถ้าจะด่ารบกวนเมนชั่นทวิตเตอร์ @PPZKB นะเจ้าคะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่าน
-รักส์-
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in