Title : Street Love Songs
RPS (Dunkirk Cast)
Pairing : Jack L. x Tom GC. ft.HarrySFionn
AU
“กลับตอนไหน..จะได้มารอ”
งั้นเหรอ?
“ไม่แน่ใจ แต่จะรีบกลับมาละกันนะ”
งั้นเหรอ?
ทำไมบทสนทนานั่นเหมือนคู่รักลากันไปทำงานกันยังไงยังงั้นล่ะ?
.
.
.
“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สงสัยจังนะว่าทำไม?”
คำพูดของเด็กหนุ่มผมดำเรียกสติให้คนที่นั่งใจลอยหันมามองเพื่อนที่นั่งดูดน้ำแอปเปิ้ลจ้องตัวเองด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
“เงียบไปเลยฟินน์ ไก่น่ะกินเข้าไปให้หมดเลย” ทำมาเป็นเฉไฉให้เพื่อนตัวเองกิน ถาดอาหารตรงหน้าตนก็ไม่ได้พร่องลงไปเลยสักนิดแท้ๆ
“พูดกับตัวเองอยู่รึไงทอม ข้าวตัวเองยังไม่แตะเลย มัวแต่ใจลอยไปหาคุณน้ำอัดลมกระป๋องอยู่ได้”
“เรายังไม่ได้บอกเลยนะว่าคิดถึงใคร”
“เราก็ไม่ได้บอกว่าทอมคิดถึงเขานี่”
เพื่อนใครเนี่ย ช่างต่อปากต่อคำนัก!
ทอมได้แต่ถอนหายใจ สงบปากสงบคำแล้วก้มหน้าเขี่ยอาหารในถาดไปมา ไม่ต้องแปลกใจที่ฟินน์รู้เรื่องผู้ชายคนนั้นเพราะเขาเองนี่แหละโทรไปเล่าให้ฟังทันทีที่ล้มตัวลงนอนบนเตียง ฟินน์ถึงได้รู้ทุกอย่าง บางทีก็..ทุกอย่างเกินไป แต่ก็ต้องยอมรับกับตัวเองในใจว่าที่เพื่อนพูดก็ไม่ได้ผิดไปนัก
ตั้งแต่ที่ผู้ชายคนนั้นเดินไป แล้วเขามาเรียนตอนเช้าก็หยุดนึกถึงไม่ได้เลย นึกถึงเสียง นึกถึงรอยยิ้มจางๆ นึกถึงแววตาเศร้าๆของเขา นึกถึงทุกอย่าง โดยไม่รู้สาเหตุ แล้วยิ่งประโยคแบบนั้นอีก
“...แต่จะรีบกลับมาละกันนะ”
พอนึกถึงก็เผลอหลุดยิ้มออกมา อดไม่ได้จะกัดปากไม่ให้ตัวเองยิ้มกว้างแล้วเขินบ้าบอไปมากกว่านี้ ก็แค่ผู้ชมคนเดียวที่เขาอยากให้มาฟังเพลงของเขาทุกวัน ก็แค่ผู้ชมบอกว่าจะรีบกลับมาหาเหมือนกับว่าไม่อยากให้เขารอนาน เหมือนกับว่าจะรีบกลับมาเพื่อเขา เพื่อเพลงของเขาก็เท่านั้นเอง
“เอาเข้าไป ไม่ต้องกินแล้วข้าวน่ะ กินแต่น้ำอัดลมไปเลย”
“ยุ่งจริง”
“ถ้าไม่ใช่เพื่อนก็ไม่ยุ่งหรอก ยิ่งเพื่อนเพ้อเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้ยิ่งน่าเป็นห่วง”
“สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ นู่นเรื่องของตัวเองเดินมานู่นแล้ว”
ว่ายังไม่ทันขาดคำเรื่องที่ทอมว่าก็เดินมาประชิดฟินน์ภายในไม่กี่วินาที ทำให้เจ้าของเรื่องได้แต่ถอนหายใจเงยหน้ามองคนยิ้มแป้นให้อย่างเหนื่อยใจ
“บอกแล้วใช่ไหมว่าอยู่ในมหาลัยอย่าเดินมาหา”
“ก็คนมันคิดถึงนี่ ฟินน์เอาแต่เรียนไม่สนใจพี่เลย แล้วนานๆเจอกันทีพี่ก็อยากเดินมาหา ไม่ใช่ว่าเราจะเจอกันบ่อยๆในมหาลัยซะหน่อย”
“รู้แล้วๆ พูดมากจริง กินอะไรมารึยัง มาช่วยกินหน่อยเร็ว อิ่มแล้ว”
ทอมที่เป็นอากาศธาตุไปแล้วตอนนี้ได้แต่นั่งมองเพื่อนสนิทนั่งต่อปากต่อคำกับคนคุยดูใจด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกับเพื่อนที่ฟินน์ทำก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่นาที โดนค้อนให้ทีแต่ดวงตาสีน้ำตาลนั่นก็ละออกจากใบหน้าสวยของรุ่นพี่อีกคนได้ไม่นานนัก แอบขำกับสถานะที่ฟินน์บอกกับเขาว่าแฮร์รี่กับตนเป็นแค่คนที่คบหาดูใจกันเฉยๆ ไม่ใช่คนรัก แต่เขามั่นใจว่าเพื่อนสนิทใช้คำว่าแฟนกับนักดนตรีของมหาลัยคนนี้ไปมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็น และอีกไม่นานเพื่อนตัวดีก็ต้องมาบอกสถานะใหม่แน่ๆ
“เมื่อไหร่เราจะคบกันอะ พี่อยากใช้คำว่าแฟนกับฟินน์แล้วนะ”
“ก็เอาสิ”
ก็ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้..
ทอมเบิกตากว้างกับสถานะของเพื่อนกับรุ่นพี่คนสนิทที่เลื่อนขึ้นเป็นแฟนกันแบบที่ยังไม่ทันตั้งตัว อยู่ๆก็กลายเป็นพยานรักของเพื่อนตัวเองไป ได้แต่ส่งยิ้มให้รุ่นพี่ที่กระโดดโลดเต้นกับคำพูดแค่ไม่กี่คำของเด็กหนุ่มตัวบางที่นั่งเม้มปากหน้าแดงอยู่บนโต๊ะในโรงอาหารของคณะที่มีหลายร้อยชีวิตเป็นพยานร่วมกันกับทอม
เห็นเพื่อนมีความสุขแบบนี้แล้วก็อดนึกถึงใบหน้าของคุณน้ำอัดลมไม่ได้ ดวงตากลมโตสีฟ้าหน้าร้อนที่ฉายแววเศร้าตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหางตาที่ตกหรือเพราะเจ้าตัวเศร้าจริงๆ ก็ไม่ใครรู้ได้ แล้วทอมก็คิดว่าเขาไม่มีทางรู้ด้วย
.
.
ตกเย็นทอมโบกมือลาเพื่อนที่เดินเคียงคู่ไปกับคนรัก (ใช่สิ พูดได้เต็มปากแล้วว่าสองคนนั้นน่ะรักกัน) มองร่างบางของฟินน์โถมใส่แฮร์รี่พากันเซไปพร้อมกันจนติดรั้วของมหาลัย แล้วมองมือของพวกเขาที่จูงกันไว้หลวมๆ ยิ้มไปกับภาพนั้นก่อนหันหน้าเดินไปอีกทาง กระชับสายสะพายกระเป๋าเข้ามาชิดหลัง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเสียบหูฟัง เดินไปตามทางที่คุ้นเคยฮัมเพลงในลำคอโดยไม่สนคนรอบข้างจะมองเขาอย่างไร ปล่อยใจไปกับเพลงของนักร้องคนโปรด
ก่อนจะหยุดเดินตรงหน้าตึกสูงที่เขาพึ่งมาเมื่อเช้า มองหาที่นั่งจนสายตาไปเจอกับม้านั่งที่ตั้งอยู่ด้านหน้าปูนก่อสูงเท่าเอวของเขาลายล้อมไม้ยืนต้นประดับด้วยหญ้าสั้นรอบๆ
ทอมเดินดุ้กดิ้กไปที่ม้านั่งทันทีที่เห็น เงยหน้ามองต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสูงกว้าง ดูจนแน่ใจว่าไม่มีงูเงี้ยวเขี้ยวขออาศัยอยู่จึงดึงกระเป๋ากีตาร์ออกจากหลังมาวางไว้บนม้านั่งก่อนหย่อนก้นลงข้างๆ หันไปรูดซิปกระเป๋าเอากีตาร์ตัวเก่งออกมาเล่นไปตามเพลงที่ฟัง ไล้นิ้วไปตามสายกดคอร์สไปตามที่ได้ยิน และร้องไปตามเนื้อร้องที่ฟัง
สายลมเย็นพัดพา จันทราแย้มทักทาย
แม้เวลาจะพึ่งผ่านไปไม่นานแต่ฟ้าก็ดูจะรีบร้อนให้ดวงอาทิตย์ลาลับ เพื่อต้อนรับดวงจันทร์อย่างขะมักเขม้น ยุงก็ดูจะชอบใจต่างออกหากินไปมารอบตัวเขา ผู้คนขวักไขว่มุ่งหน้ากลับบ้าน และเสียงของทอมทำให้พวกเขาหยุดสนใจเพียงชั่วเวลาก่อนจากไปเหมือนทุกครั้ง
เด็กหนุ่มยิ้มทักและยิ้มบอกลาผู้คนมากมายที่เดินผ่านไปมา ขยับลุกสลับนั่งไขว่ห้างจนรู้สึกเมื่อย คนที่เขาบอกว่าจะรอก็ไม่มาเสียที ถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย จากเพลงรักกลายเป็นเพลงเหงาๆที่ให้บรรยากาศหม่นๆเคล้าแสงจันทร์ไป ไหล่เล็กๆลู่ตก คิดปลงตกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังกลายเป็นไอบ้าที่เอาแต่คิดถึงแต่คนแปลกหน้าที่ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อ
แล้วในที่สุดทอมก็เลิกสนใจ ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ปล่อยให้นิ้วทำหน้าที่ของมันสร้างเสียงเพลงที่ใจนึก เนื้อเพลงที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดหลุดออกไปแม้ใจอยากจะเก็บมันไว้ในสมองแล้วปล่อยมันจางหายไป แต่ก็ทำไม่ได้
ความเหงาแผ่กระจายเป็นวงกว้างโดยที่ทอมไม่รู้ตัว เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเอาความคิดของตัวเองไปผูกไว้กับใครคนหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลา อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง รูปร่างก็อาจจะใช่ เสียงนุ่มสำเนียงแปล่งๆ..ตรงตัว ดวงตาสีฟ้าสดใส...อาจจะตรงใจที่สุด
ทั้งที่ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านั้น กลับทำให้ใจว้าวุ่น หรือส่วนหนึ่งก็แค่หวั่นไหวเพียงเพราะคุณน้ำอัดลมเป็นคนเดียวที่หยุดฟังเขากัน
“ผมชอบเพลงนี้นะ”
เสียงของเขา เสียงของคุณน้ำอัดลม...
ทอมเงยหน้ามองต้นเสียง หวังจะเห็นใบหน้าเศร้าๆนั่นแต่กลับเห็นน้ำอัดลมแบบเดิมอยู่ตรงหน้า เขาหัวเราะทันที เอี้ยวหน้ามองคนที่ถือมันแล้วเลิกคิ้ว
“ชอบเหรอ? งั้นผมต้องกลับไปอัดไว้แล้วสิ”
ผู้ชายคนนั้นหัวเราะ คราวนี้ยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยวเล็กๆในปาก ทอมเลิกคิ้วขึ้นมองคนที่อารมณ์ดีผิดกับคนที่ดูเศร้าเมื่อวานที่หงอยเหมือนสุนัขหาเจ้าของไม่เจอ
“คุณดูอารมณ์ดีขึ้นนะ”
“งั้นเหรอ คงงั้น”
ทอมหยิบกระเป๋าที่วางข้างๆมาวางไว้ระหว่างขาตัวเองเพื่อให้อีกคนนั่งลง มองลักยิ้มข้างแก้มขาวอย่างไม่เข้าใจ
ถ้าให้เดา..คืนดีกับแฟน?
“ผมเสนอโปรเจ็คผ่านแล้วน่ะ”
ผิดคาดแฮะ
“คุณคงไม่เข้าใจ แต่ผมอยากเล่าให้ใครสักคนฟัง”
ทอมพยักหน้ารับรู้สึกโล่งใจที่ไม่ได้เป็นแบบที่คิด คงต้องยอมรับกับตัวเองแล้วจริงๆว่าเขาชอบผู้ชายคนนี้
“ก็เล่าสิครับ ผมฟังอยู่”
พูดพร้อมเริ่มเล่นเพลงคลอเสียงของอีกคนไปเบาๆ ประหนึ่งว่าที่แห่งนี้เป็นร้านอาหารเล็กๆสำหรับครอบครัวมาสังสรรค์ เพียงแต่ตอนนี้มีแค่พวกเขา
“ผมแจ็ค โลว์เดนนะ”
อยู่ๆชายหนุ่มก็พูดขึ้นหลังจากที่อธิบายยืดยาวเกี่ยวกับโปรเจ็คงานที่เขาเสนอให้กับหัวหน้า เขาเป็นพนักงานบริษัทที่ดูมุ่งมั่นมากกว่าคนอื่นที่ทอมเคยเจอมา ฟังไปก็ชื่นชมในความมุมานะของชายที่นุ่มไป ก่อนจะหันขวับทันทีที่คุณน้ำอัดลมแนะนำตัว แทบจะลมจับเมื่อเห็นรอยยิ้มกว้างนั้นใกล้ๆ ถึงกับต้องยกน้ำอัดลมขึ้นดับความร้อนงี่เง่าที่ค้างเติ่งอยู่บนใบหน้า
“แล้วคุณ...”
“อึก..ผมทอมครับ ทอม กลินน์คาร์นี่ย์ เรียกทอมเฉยๆก็ได้เพราะผมอายุน้อยกว่าคุณแน่”
ก่อนตอบทอมสำลักน้ำอัดลมไปทีเรียกเสียงหัวเราะจากคนข้างตัวให้เขาหันไปมองค้อนใส่จนอีกฝ่ายต้องยกมือสองข้างขึ้นมาปราม ยอมแพ้ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วสุดท้ายพวกเขาก็หัวเราะให้กันแบบไม่มีเหตุผล
.
.
“แล้วเจอกันใหม่นะ กลับดีๆ”
ทอมยิ้ม หันหลังเดินกลับบ้านพร้อมรอยยิ้มที่ประดับใบหน้าทุกครั้งที่นึกถึงคนที่ยืนส่งอยู่ด้านหลัง
ว่าแล้วก็หันไปมอง ยังเห็นร่างสูงยืนอยู่ตรงนั้นใจก็กระตุกไปหนึ่งช่วงจังหวะ
เด็กหนุ่มโบกมือน้อยๆ อดกลั้นใจตัวเองเพื่อไม่ให้เดินกลับไปหาเขาคนนั้น
ให้ตายสิ ถ้าฟินน์รู้ว่าเขาเป็นบ้าเพราะผู้ชายที่พึ่งเจอกันสองวันต้องล้อเขาจนเขินตายแน่ๆ
แล้วเขาคงไม่แก้ตัวด้วยนี่สิ...
Talk : เปงตอนที่อะไรก็ไม่รู้ //////////// อ่านจบแล้วอาจจะคิดว่าเร็วไปไหมกับความรู้้สึกน้องทอม สำหรับเรามันไม่เร็วเลยค่ะที่จะชอบใครคนหนึ่ง แต่ก็นั่นแหละ เคยบ่นทวิตแล้วว่ามันน้ำเน่า แล้วเราก็ชอบที่มันน้ำเน่าแบบนี้ด้วย ฮื่อออ
ฝากติชม #lovesongsJLTGC ห้ามด่านะ
ถ้าจะด่าไปเมนชั่นด่าในทวิตเลยยย @PPZKB
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ
-รักส์-
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in