1.
เธอไม่รับไม่รู้อะไร ไม่เคยเอะใจบ้างเลยเหรอคุณบอกผมว่าชีทเรียนของคุณหาย หายังไงก็หาไม่เจอ ผมบอกให้คุณกลับไปหาชีทที่คอนโดอีกครั้ง คุณเป็นคนขี้ลืม ผมเห็นความกระวนกระวายของคุณเหมือนเหมือนหมาวิ่งไล่งับหางตัวเอง ผมถอนหายใจ ยื่นชีทเรียนของผมให้แทน คุณทำท่าเกรงใจ ผมจึงยัดชีทเรียนใส่มือคุณทั้งอย่างนั้น
“Thank you! นายเลคเชอร์เรียบร้อยมากอ่ะ ถ้าหาเจอแล้วจะเอามาคืนนะ”
“ไม่ต้องคืน ผมให้เลย ”
ผมหยิบชีทที่ซีร็อกซ์ไว้อีกชุดขึ้นมาอ่านแทน
2.
ใครคอยเอาใส่ใจเธอทุกวัน
“มีน้ำมั้ย”
“อ่ะ”
“ขอบใจ หิวแล้วอ่ะ มีขนมไว้กินรองท้องปะ?”
“อยู่ในกระเป๋า”
“ขอแซนด์วิชนะ”
“เอาไปดิ”
“เฮ้ย! เราลืมกระเป๋าตังค์ไว้บนรถ”
“หยิบมาให้แล้ว อยู่ในกระเป๋าช่องหน้า”
“ไม่ได้ขโมยเงินใช่มะ”
“ใครจะทำงั้นอ่ะ”
3.
ใครคอยเอาแต่ใจเธอทั้งวัน
เมื่อเช้าคุณชวนผมไปเที่ยว ไปกินซีฟู้ดกับกลุ่มเพื่อนในคณะ หลังจากนั้นพวกเราจะเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองภูเก็ต ไปเดินถนนคนเดิน ชมเมืองเก่าแก่ ตอนเย็นจะไปจิบเบียร์ที่บาร์โก้ๆริมทะเล ผมปล่อยให้คุณพูดไปอย่างนั้น ตัวผมไม่ได้ตอบรับอะไรแต่เพื่อนรอบข้างส่งเสียงเชียร์เห็นด้วย เย็นวันนั้นที่คอนโด รู้ตัวอีกทีผมกำลังชาร์จพาวเวอร์แบงค์เผื่อคุณ ไม่ลืมจัดเพลลิสต์เพลงไว้ฟังบนรถ ผมหยิบกล้องฟิล์มกับขนมใส่กระเป๋าเป้ เตรียมพร้อมเดินทางสำหรับวันพรุ่งนี้
4.
ทำยังไงก็ยังไม่รู้ตัว คนมีใจก็เลยต้องร้อนตัว
ผมกำลังพยุงคุณ—ที่ขาแพลงเพราะวิ่งลงทะเลผิดท่า—เดินไปบนพื้นทรายโดยไม่มีจุดมุ่งหมายตามที่คุณขอ คุณชวนผมคุยเรื่อยเปื่อย มือนั่นชี้ให้ดูกลุ่มเพื่อนที่กำลังเล่นวอลเลย์บอลชายหาดและขำ ชี้ให้ดูนกพิราบสีขาวที่บินผ่านผืนทะเล ชี้ดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดิน ผมแอบมองคุณจากด้านข้าง ความใกล้ชิดระยะนี้ทำให้ผมหวั่นไหว คุณบอกว่าผมใจดีแถมยังเทคแคร์เก่ง ผมหน้าแดงทำตัวไม่ถูกเพียงเพราะถูกคุณชม คุณสังเกตเห็นเลยแซวผมยกใหญ่ ผมลูบหัวนั่นแก้เขิน คุณจึงขยี้หัวผมกลับเป็นการเอาคืน ในใจอยากบอกคุณแทบตายว่ามีแค่คุณคนเดียวเท่านั้นที่ผมจะดูแล แต่ทำไงได้ คนมันไม่รู้ตัวนี่
5.
จะแบกรับ ไว้อย่างไร
คุณบอกผมว่ามีคนที่แอบชอบแล้ว ทีแรกผมไม่เชื่อ แต่พอเห็นคุณเดินผ่านคนๆนั้นและแสดงท่าทีเขินอายทำให้ผมเปลี่ยนความคิด เขาเป็นคนแบบไหนกันนะ ทำไมถึงสามารถช่วงชิงหัวใจของคุณไปได้ ไม่อยากยอมรับว่าอกหัก แต่สงสัยคืนนี้ผมต้องรีบนัดเพื่อน ชวนพวกมันมานั่งดื่มเบียร์สักหน่อยแล้ว พวกมันรู้เรื่องนี้ และคงจะรู้มากกว่าเดิม รวมทั้งเรื่องที่ผมต้องเสียน้ำตาให้คุณไปอีกหลายวัน
6.
จะแบกรับ ไว้นานเท่าไหร่
“พวกเราคบกันแล้ว ขอบคุณนายที่คอยช่วยนะ”
“ไม่เป็นไร คบกันนานๆนะ”
“เป็นไรเปล่า ทำไมไม่กี่เดือนมานี้ดูหม่นๆ”
“เปล่า เป็นแฟนกันแล้วคุณก็อย่าใช้อารมณ์มากเกินไปล่ะ ใช้เหตุผลด้วย อีกอย่าง อย่าให้เขาปรับตัวอยู่ฝ่ายเดียวนะ อย่าเอาแต่ใจด้วย”
“เออ รู้น่า”
“ดีแล้ว”
“เอ้อ พรุ่งนี้พวกเราจะไปเที่ยวแถวป่าตอง จะถ่ายวิวทะเลที่นั่นมาอวด”
“เดตเหรอ?”
“ทำนองนั้น”
“ยังไม่ชินอีกหรือไงถึงหน้าแดงขนาดนี้”
“ก็นานๆทีเขาจะว่าง ไม่ชินก็ไม่แปลก”
“งั้นเหรอ นี่ เแฟนคุณมาตามแล้ว”
“โอเค บาย ไว้เจอกัน”
“อือ ไว้เจอกัน”
7.
อย่าทำร้ายกันอีกเลย
คุณร้องไห้ ช่วงนี้พวกคุณทะเลาะกันบ่อยครั้ง บางครั้งคุณจะเมามายและพร่ำเพ้อถึงเขา แสดงความน้อยใจออกมา ผมเพียงคอยปลอบคุณ รับฟังสิ่งที่ทำให้ผมต้องเจ็บ หลายครั้งที่ผมเห็นว่าพวกคุณตั้งท่าจะเลิก แต่สุดท้ายพวกคุณก็ยังคงรักกันดี เวลาที่คุณเจ็บปวดมันทำให้ผมเจ็บไปด้วย โดยเฉพาะเจ็บปวดเรื่องเขา หัวใจผมเจ็บซ้ำเข้าไปอีก การปั้นหน้ายิ้มยินดีให้กับรักของคุณมันยากเหลือเกิน หัวใจผมค่อยๆล้มเหลวลงสู่เหวลึก ยากจะหวนกลับคืนมา
8.
อย่าทำร้ายกันอีกเลย โอ้ใจเอ๋ย
เกือบครึ่งปีที่พวกคุณรักกัน ตอนนี้ก็เหมือนเดิม ผมยังไม่สามารถจากคุณไปไหนได้ ราวกับในโลกของผมมีแต่คุณ แค่คุณเพียงคนเดียว ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมไปหาคุณที่คอนโด ทุกครั้งที่ผมแตะคีย์การ์ดเข้าไปผมจะเห็นคุณอยู่กับเขา บางครั้งผมเห็นพวกคุณจูบกัน หัวเราะเสียงดัง หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายเต็มพื้นห้อง ผมจึงทำได้แค่ถอยออกมา ทุกครั้งที่ผมไม่รู้ตัวหรือสติหลุดลอย ผมจะพร่ำเพ้อถึงคุณเหมือนที่คุณพร่ำเพ้อถึงเขา เพื่อนของผมได้แต่ปลงและส่ายหัวไปมาราวกับจนปัญญาจะจัดการผมแล้วจริงๆ คืนนี้ผมร้องไห้อีกครั้งและเป็นอีกครั้งที่ผมตระหนักว่าอาการเจ็บเจียนตายมันเป็นอย่างไร
โอ้ใจเอ๋ย
ใจจะขาดอยู่แล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in