เรื่องราวในหนังสือคือปี 1984 (ตีพิมพ์ 1949 เขียนถึงในอนาคตอีก 35 ปีข้างหน้า)

.

หลังเกิดการปฏิวัติ โลกเหลือเพียง 3 อภิมหารัฐ ที่ปกครองแบบเผด็จการทั้งหมด

1.โอเชียเนีย --> หลักๆอยู่ที่เมืองลอนดอน

2.ยูเรเซีย

3.อีสเตเชีย

.

โอเชียเนีย 

ปกครองด้วยลัทธิอิงซ็อก ภายใต้การควบคุมของพรรคใน โดยมี พี่เบิ้ม(Big brother) เป็นผู้นำพรรค มีสถานะกึ่งเทพ(คุ้นๆเนอะ)

เป็นการปกครองที่จำกัดทุกอย่างแม้แต่เสรีภาพทางความคิด ถ้าคิดต่างคุณจะถูกจับด้วยข้อหา อาชญากรรมความคิด

แบ่งการปกครองครองเป็น 3 ชนชั้น 1.พรรคใน 2.พรรคนอก 3.ชนชั้นกรรมาชีพ

.

เรื่องดำเนินผ่านความคิดและเรื่องราวที่ วินสตัน สมิธ ได้พบเจอ

.

สงครามคือสันติภาพ

อิสรภาพคือความเป็นทาส

อวิชชาคือพลังงานอำนาจ

(อวิชชา=ความเขลา)

.

war is peace 

freedom is slavery 

ignorance is strength

(ต้องคิดแบบ doublethink ถึงจะเข้าใจนะ)

.

นิวสปีก

"จุดมุ่งหมายโดยรวมของนิวสปีกคือทำให้ขอบข่ายความคิดแคบลง ท้ายที่สุด พวกเราจะทำให้อาชญากรรมความคิดเป็นไปไม่ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะจะไม่มีคำศัพท์ให้แสดงความคิดเห็นเหล่านั้นได้"

(หน้า 72)

ภาคหนึ่ง

เริ่มเขียนบันทึก และตั้งคำถามในเรื่องต่างๆ

โดยใช้มุมอับจากโทรภาพในห้องของตัวเองไม่ให้จับภาพได้

ทำเสียงให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้ไมโครโฟนจับเสียงได้

.

ภาคสอง

การเข้ามาของจูเลียทำให้ชีวิตของวินสตันเปลี่ยนแปลงไป

มีความรู้สึกมากขึ้น มีคนที่เข้าใจตัวเองมากขึ้น

.

ภาคสาม

*ใจไม่แข็งอย่าอ่านเลย หดหู่มากจริงๆ*

วินสตันถูกจับไปทรมานด้วยวิธีต่างๆ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าผ่านไปกี่วันกี่เดือนแล้ว

ทรมานด้วยวิธีต่างๆ จนคำตอบของ 2+2 = 5 ได้

เปลี่ยนคนที่เกลียดพี่เบิ้ม ให้สุดท้ายกลายเป็นรักพี่เบิ้มได้

.

หลังอ่านหนังสือเล่มนี้จบ สิ่งที่เราคิดได้คือเราจะไม่หยุดอ่านหนังสือเด็ดขาด

ตราบใดที่เรายังอ่านหนังสือได้ จะไม่มีใครจะมาจำกัดความคิดและอิสรภาพของเราได้

ตราบใดที่เรายังสงสัยและสามารถตั้งคำถามได้อยู่ ชีวิตก็ยังมีความหวัง

อย่าให้ใครพรากสิ่งเหล่านี้จากเราไปได้!!!

ขอขอบคุณ : readery podcast ep.87 ที่ย่อยหนังสือเล่มนี้ออกมาอยู่ใน 55 นาที ให้ประเด็นและความคิดเห็นเพื่อเพิ่มความเข้าใจในหนังสือ 1984 นี้ค่ะ ซื้อหนังสือเล่มนี้เพราะเห็น readery รีวิวแต่ดองไว้นานเลย สุดท้ายตั้งใจหยิบมาอ่านให้จบแล้วกลับไปฟัง ep.นี้อีกครั้งค่ะ พี่โจ้พี่เน็ตFCค่ะ