นิสิตพาร์ทไทม์
.
.
.
มาค่า!
(บล็อกวันนี้ค่อนข้างยาวนะคะ!)
เพื่อน ๆ เคยถามตัวเองกันบ้างไหมว่า ระดับภาษาของเราอยู่จุดไหนแล้ว?
เรียนภาษามาก็น๊านนาน แต่ก็ไม่แน่ใจอยู่ดีว่า พูดได้ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษาแล้วหรือยัง?
วันนี้เราไม่ได้มาให้ข้อมูลอย่างเดียว แต่มาชวนเพื่อน ๆ ที่อ่านบล็อกให้มาเรียนไปด้วยกันด้วย
ด้วยวิธีใหม่ที่เราเจอมาจากคาบเรียนภาษาศาสตร์ญี่ปุ่นประยุกต์
นั่นก็คื๊อ... /รัวกลอง
.
.
.
.
การ Monitoring นั่นเองค้าบ
การ Monitoring พูดง่าย ๆ ก็คือการย้อนกลับมาดูสิ่งที่ตัวเองทำไป เพื่อหาข้อผิดพลาด หรือถ้าเป็นการเรียนภาษา ก็อาจจะเอาภาษาที่ตนเองใช้ มาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เจ้าของภาษาใช้จริง ๆ ในบริบทเดียวกัน เพื่อหาข้อแตกต่าง และดูว่าเราจะแก้ไขอะไรได้รึเปล่า?
ไม่พูดพร่ำทำเพลง เรามาลองทำแบบฝึกหัดกันดูซักหน่อยดีกว่า
อันนี้นิสิตพาร์ทไทม์ก็ลองทำไปแล้วในคาบเรียน แล้วเดี๋ยวมาแชร์ผลลัพธ์ไปพร้อม ๆ กันน้า
สิ่งที่เราจะมาฝึก Monitoring กันในวันนี้ คือทักษะการถ่ายทอดเรื่องราว (Storytelling) ว่า
เราพร้อมแล้วหรือยัง ที่จะ ร่วมวงเมาท์มอยจับเข่าคุยกับคนญี่ปุ่นได้อย่างออกรส!!
โจทย์ก็คือ ให้เพื่อน ๆ ลองอธิบายการ์ตูน 4 ช่องในภาพด้านล่างเป็นภาษาญี่ปุ่น เหมือนกับว่า เรารู้เรื่องของคนในการ์ตูนเรื่องนี้ แล้วเอาจะไปกอซซิปเม้ามอยให้เพื่อนของเราฟังว่า
เรื่องมันก็เป็นยังงี้แหละแกร๊!
.
.
.
.
เริ่----
อย่าเพิ่ง!
อย่างที่บอกไปว่าครั้งนี้เราจะมาย้อนดูการใช้ภาษาของตัวเองกัน เพราะฉะนั้น หยิบมือถือหรืออะไรก็ได้ที่อัดเสียงได้ของคุณขึ้นมาก่อน! เราจะมาฟังสิ่งที่ตัวเองเล่ากันทีหลัง
เริ่มเลยค่า ยาวเท่าไหร่ก็ได้เลยนะ เอาเหมือนว่าเรากำลังเม้าท์คู่รักคู่นี้ให้โลกได้รู้!
(หรือถ้าใครแค่อยากอ่านเฉย ๆ (ฮั่นแน่ะ!) ก็เลื่อนต่อไปดูที่เราลองทำกับผลลัพธ์ที่เราได้ก่อนได้เลย)
อันนี้คือที่เราได้ สั้นไปหน่อย เพราะตอนแรกเราไม่คิดว่ามันต้องเล่าเยอะ 555
「
ある男女のカップルがいます。
女の子は彼氏に隠している秘密があります。
それは、彼女が整形したことです。
整形したことで、優しくて素敵な彼氏と付き合う事ができました。
しかしある日、彼氏に昔の写真を見られて、整形していたことをわかってしまいました。
女の人は、捨てられるのが怖がっています。
でも彼氏さんの方も隠していることがあります。それは、彼はハゲていることです。
」
ทีนี้เราจะมาดูสิ่งที่คนญี่ปุ่น (เจ้าของภาษา) ลองเล่าเรื่องไว้เป็นตัวอย่างดูบ้าง ว่าเค้าต่างกับเรายังไง
「
ねえ、ねえ、聞いてよ。私の友達の話なんだけど、すごい面白いのよ。
その友達、すごい美人なの。
でも、実は、本当の顔があって、その顔はすご~いブスなの。
つまり、整形して、すごい美人になったのね。
でも、そのおかげ
で、すごい素敵な彼氏が出来たの。
ほんとうにハンサムでやさしくて….もう、彼女にはもったいないぐらいの彼。
でもね、そのあと、大変なことが起こったんだって。つきあってしばらくのうちは、
彼女も、その…昔の写真を見られないように気をつけていたんだけど、
ちょっと油断してしまって、彼が部屋に来たときに、
いつもだったら隠してあった昔のアルバムの写真を、
そのまま机の上に出しちゃって、彼がそれを見ちゃったの。
もう..大ピンチでしょう?
で、彼女は、そこで、もう別れられる、怒られて別れるしかないとか思ったんだけど、
彼、そこで何と言ったと思う?
ニコット笑って…そんなこと、気にしなくていいよ、って言ったのよ。
それで、次、彼、何したと思う?彼、
自分の髪の毛に手を持っていって、つるって、髪の毛を取ったのよ。
そしたら、彼の頭も、つるつるぴかぴかだったの。
で「僕もこんなだし」って彼女に見せたのよ。
だから、彼も、つまり、整形みたいなものよ。
もう似たもの同士だったの。すごいカップルでしょう?
そしたらね、彼もニコット笑って、
「そんなこと、気にしなくてもいいよ」って言ってくれたんだって。
それはね、どうしてか分かる?
実は彼も、カツラだったのよ。
もう本当に、全部、頭の髪の毛、なかったの。
カツラを取ったらつるつるぴかぴかだったのよ。
」
โอ๊ย! ยาวจริงแม่คุณ! แต่สังเกตได้เลยว่า มีความลื่นไหล มีความเล่นใหญ่ มีความน่าฟังกว่าตัวอย่างแรกมากจริง ๆ เห็นได้ชัดเลยว่า พอได้เล่าเรื่องเมาท์ใครเป็นภาษาบ้านเกิดตัวเองแล้ว มันคงจะออกรสกว่าภาษาที่สองหรือสามจริง ๆ ด้วยเนอะ
แล้วทำยังไงถึงจะเล่าได้ออกรสให้เพื่อนญี่ปุ่นได้ขำไปกับเราแบบนี้บ้างนะ?
มาเริ่ม Monitoring กันอย่างจริงจังกันเลย!
เราจะใช้วิธีเขียนออกมาเป็นตารางเพื่อวิเคราะห์ส่วนที่ต่างกันให้เห็นภาพชัดขึ้น แบบนี้ /ดีดนิ้วเป๊าะแป๊ะ
โดยแบ่งหัวข้อที่วิเคราะห์เป็น 3 หัวข้อใหญ่
ตารางที่ 1) การเลือกใช้คำ (สิ่งที่เราจะสื่อ แต่พูดแล้วไม่เห็นภาพหรือใช้คำไม่ดีพอ
เจ้าของภาษาใช้คำว่าอะไร?)
จริง ๆ แล้วอยากพูดว่า | สิ่งที่พูดออกไป (ตัวเรา)
| กรณีนั้นคนญี่ปุ่น ใช้อย่างไร |
ศัลยกรรมแล้วสวย | 整形した | 整形して、すごい美人になった |
เล่าเรื่องให้คนฟัง | です・ます形 | ねえ、ねえ/なの/のよ/でしょう |
มีแฟน | 彼氏と付き合うことができた | 彼氏ができた |
กลัวมาก ลนลาน กังวล | 怖がっています | 大ピンチ |
ถูกแฟนทิ้ง | 捨てられる | 別れられる/振られる |
ถอดวิกออก | 髪の毛を外す | 髪の毛(カツラ)を取った |
ตารางที่ 2) เทคนิคการพูดหรือการใช้คำที่สังเกตได้
จุดที่สังเกต (認知比較 คำช่วย คำเลียนเสียง) | ตัวเรา | คนญี่ปุ่น |
เสียงถอดวิก ฟุ่บ ปรี๊ด | - | つるって |
หัวล้าน สะท้อนแสง | - | つるつるぴかぴか |
ยิ้มหัวเราะ | にこにこ | ニコって |
ตารางที่ 3) เทคนิคการเล่าเรื่อง การเชื่อมประโยค การตบมุก ฯลฯ ของเจ้าของภาษา
(ส่วนตัวว่าอันนี้เห็นความต่างแล้วก็สำคัญที่สุดเลย!)
จุดที่สังเกต (内容 climax オチ) | ตัวเรา | คนญี่ปุ่น |
เริ่มเล่าเรื่อง | ある…がある・いる | ใช้คำทักเรียกความสนใจของผู้ฟัง ねえねえ、ก่อนจะเข้าเรื่องจะชอบใช้ なんだけど ในการเกริ่น |
เล่า Process การดำเนินเรื่อง | ใช้วิธีอธิบายสถานการณ์ | ใช้บทพูด ยกตัวอย่างบทสนทนา เช่น 「僕もこんなだし」って彼女に見せたのよ และ 「そんなこと、気にしなくてもいいよ」って言ってくれたんだって |
แสดงลำดับเหตุการณ์ | ใช้คำเชื่อมประโยคเหมือนภาษาเขียนทั่วไป ฟังดูทื่อ ๆ เช่น しかし、でも、それは | ใช้ภาษาพูด そのあと、もう…、だから、そしたらね、それで (ความถี่ในการใช้สูงกว่า) |
การเล่า Climax ของเรื่อง | ใช้คำเชื่อมประโยคแสดงความขัดแย้ง (でも)เว้นวรรคการพูดนิดหนึ่ง (เหมือนเวลาจะเปลี่ยนหัวข้อในการพูดทั่ว ๆ ไป) | ใช้การถามผู้ฟัง เรียก Attention それで、次、彼、何したと思う? |
จากสามตารางนี้ จุดที่เห็นได้ชัดสำหรับเราเลยคือการที่ เราใช้ภาษาทื่อ ๆ เล่าไปทีละประโยค ๆ ฟังแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติ และยังขาดคลังศัพท์ที่เป็นภาษาพูด ทำให้การเชื่อมประโยคดูซ้ำ จำเจ
ในขณะที่ภาษาญี่ปุ่นจะมีความลื่นไหล มีจังหวะจะโคน โดยเฉพาะส่วนที่ชัดมาก ๆ คือการถามผู้ฟังกลับ เพื่อดึงความสนใจและให้ผู้ฟังรู้สึกมีส่วนร่วมไปกับการเล่าเรื่อง ทำให้การเล่าไม่น่าเบื่อ
อีกข้อหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับเราคือ การพูดญี่ปุ่นโดยใช้ความเคยชินจากคลังศัพท์ในภาษาไทย มาแปลตรง ๆ ทำให้ใช้คำที่มีความหมายคล้ายกันผิดบริบทได้
ตัวอย่างเช่น
ถูกแฟนทิ้ง
ทิ้ง = 捨てる
เราเลยพูด 彼氏に捨てられる
แต่คำว่า "ถูกแฟนทิ้ง" เจ้าของภาษาเลือกใช้คำว่า 別れられる (ถูกทำให้เลิกกัน) หรือ 振られる
----
เท่าที่สังเกต ความผิดพลาดของเราก็จะเป็นประมาณนี้ แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ เจอปัญหาอะไรในการใช้ภาษาของตัวเองบ้างหรือเปล่า??
หลังจากที่สำรวจความผิดพลาดของตัวเองไปแล้ว ทีนี้มาลองแก้ไขงานเดิมให้ใกล้เคียงเจ้าของภาษามากขึ้นกันเลยดีกว่า คราวนี้จะใช้วิธีเขียนเอาเพื่อให้มีเวลาทบทวนรูปประโยคก็ได้นะ
ของเราแก้ออกมาได้แบบนี้
「
ねえ、あのカップルの話、聞いた?
ใช้ภาษาสนทนาให้ประโยคไม่ทื่อ
その、女の子がすごい美人のカップル!
体言止め เพิ่มจังหวะให้ประโยค
実はね、その子は昔ブスな子だったけど、整形してきれいになったんだって!
すごいでしょ?
ถามกลับให้คนฟังมีส่วนร่วม
整形したおかげで、優しくて素敵な彼氏ができたってさ
แก้คำที่ไม่เป็นธรรมชาติ
羨ましいね~!
でもある日、どうやら彼氏に隠していた写真を見られて、
ブスっていう秘密がバレてしまったの!
最悪だ!
それで彼女は「もう終わり、別れられる!」「きっと怒られる」とか思ってたけど、
まさか彼の反応がもっとショックだよ
ชี้ให้เห็นว่าเรื่องราวพีคขึ้นด้วย もっと
怒るはずだったなのに、
ニコって笑って「そんなこと、気にしなくていいよ」って言って、
ใช้บทสนทนาอธิบายเหตุการณ์แบบชัด ๆ
それで、次に自分の髪の毛に手を持って、つるって髪の毛を取ったのよ!
そう!ずっとカツラを被ってて、本当は頭ぴかぴかな人だよ!
ใช้คำเลียนเสียงอธิบายภาพ (ภาษาญี่ปุ่นใช้บ่อย)
いや~信じられないでしょ!
素敵そうなのに実はハゲなんて、、
まあでも、お互いに秘密を抱えているんだから結局仲良く付き合い続けるけど、
すごいわ、あの二人!
」
เท่านี้เราก็ได้เช็คระดับภาษาของตัวเอง ไปพร้อม ๆ กับทักษะการเล่าเรื่อง และพูดประโยคยาว ๆ ด้วยภาษาญี่ปุ่นกันแล้ว ทีนี้ก็เริ่มคุยกับเพื่อนเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ยังมั่นใจขึ้นแล้ว :)))
ถ้าใครพอมีเวลา ก็ลองฝึกด้วยวิธีนี้กันดูได้นะ เผื่อจะได้มองทักษะของตัวเองจากมุมมองใหม่ ๆ
.
.
(นอกเรื่อง)
ส่วนตัวเราช่วงนี้ติด Youtube มาก ๆ เลย
ถึงขนาดสมัครสมาชิก Youtube Premium แล้ว ฮะๆ (แบบว่ารำคาญโฆษณาง่ะ)
ช่องที่ติดอยู่ช่วงนี้ก็จะเป็นพวกช่องทำอาหาร (เราทำไม่เป็นหรอกแต่ชอบดู)
การดู Youtuber ตามภาษาที่เรากำลังศึกษาเพิ่มเติม ก็เป็นวิธีที่ได้เทียบภาษาตัวเอง และสังเกตตัวอย่างการพูดของเจ้าของภาษาที่ดีอีกช่องทางหนึ่งเหมือนกัน เพราะเจ้าของคลิปจะพูดเล่าเรื่องตลอดเวลา และบางคลิปยังเขียน Subtitle ให้เราฟังตามได้ง่าย ๆ อีกด้วย
การเรียนไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือตลอดทุกครั้ง
ลองหาสื่อการเรียนภาษาที่เข้ากับ Lifestyle ของตนเอง
แล้วเรามาฝึกให้เก่ง ๆ ไปด้วยกันนะ
เป็นกำลังใจให้
.
.
.
.
นิสิตพาร์ทไทม์ <3
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in